สถ.ยกย่องสถานธนานุบาลดีเด่น ประจำปี 2562 จำนวน 9 แห่งทั่วประเทศ พร้อมมอบรางวัลเชิดชูเกียรติ แก่ 40 ผู้จัดการสถานธนานุบาล เมื่อวันที่ 30 ส.ค.63 เวลา 09.30 ณ โรงแรมกรุงศรีริเวอร์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา – นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ในฐานะประธานกรรมการจัดการสถานธนานุบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลสถานธนานุบาลดีเด่น ประจำปี 2562 จำนวน 9 แห่ง ประกอบด้วย รางวัลสถานธนานุบาลดีเด่น ระดับภาค อันดับที่ 1 สถานธนานุบาลเทศบาลนครตรัง, อันดับที่ 2 สถานธนานุบาลเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา และอันดับที่ 3 สถานธนานุบาลเทศบาลนครลำปาง รางวัลสถานธนานุบาลดีเด่น ระดับเขต อันดับที่ 1 สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองพัทยา, อันดับที่ 2 สถานธนานุบาลเทศบาลนครนครปฐม และอันดับที่ 3 สถานธนานุบาลเทศบาลนครเชียงใหม่ 1 รางวัลสถานธนา นุบาลดีเด่น ระดับลูกเขต อันดับที่ 1 สถานธนานุบาลเทศบาลตำบลบ้านปิน, อันดับที่ 2 สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองกันตัง และอันดับที่ 3 สถานธนานุบาลเทศบาลตำบลย่านตาขาว โอกาสเดียวกันนี้ ได้มอบเข็มเกียรติคุณแก่ผู้จัดการสถานธนานุบาลผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ เพื่อเชิดชูเกียรติประวัติการปฏิบัติงานด้วยความทุ่มเท เสียสละ มีผลสำเร็จอย่างดียิ่งแก่ทางราชการและประชาชน โดยมีผู้จัดการสถานธนานุบาลที่เข้ารับเข็มเกียรติคุณประจำปี 2562 จำนวน 40 ราย ประกอบด้วย เข็มเกียรติคุณชั้นพิเศษ จำนวน 5 ราย, เข็มเกียรติคุณชั้นที่ 1 จำนวน 12 ราย, เข็มเกียรติคุณชั้นที่ 2 จำนวน 13 ราย และเข็มเกียรติคุณชั้นที่ 3 จำนวน 10 ราย รวมทั้งมีพนักงานสถานธนานุบาลที่จะพ้นจากตำแหน่งด้วยเหตุสูงอายุ ในสิ้นงบประมาณ พ.ศ. 2563 ที่เข้ารับมอบประกาศเกียรติคุณ จำนวน 17 ราย อธิบดี สถ. ได้กล่าวแสดงความยินดีกับสถานธนานุบาลที่ได้รับรางวัลดีเด่นประจำปี 2562 ทั้ง 9 แห่ง ผู้จัดการสถานธนานุบาลที่ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติ เข็มเกียรติคุณ พร้อมกล่าวขอบคุณผู้จัดการสถานธนานุบาลจากทั่วประเทศ ที่ได้ร่วมกันทำงานอย่างเข้มแข็งในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทั้งได้มอบนโยบายสำคัญว่า สถานธนานุบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 251 แห่ง ปัจจุบันมีทุนหมุนเวียนที่เป็นทรัพย์รับจำนำคงเหลือกว่า 2 หมื่น 2 พันล้านบาท (22,326,889,635 บาท) โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี การบริหารจัดการสถานธนานุบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จึงเป็นองค์กรที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจระดับฐานราก “ขอให้มีการปรับปรุงระบบคอมพิวเตอร์ให้มีสภาพใช้งานได้ดีมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การบริการประชาชนมีความสะดวก รวดเร็ว รวมทั้งนำรูปแบบการบริการใหม่ ๆ มาให้บริการสอดคล้องกับวิถีชีวิตความปกติใหม่ (New normal) เช่น ในช่วงสถานการณ์ COVID - 19 นั้น โรงรับจำนำหลายแห่งให้ประชาชนทำธุรกรรม ส่งดอกเบี้ยและผ่อนเงินต้นผ่านการโอนเงินทาง application มือถือหรือออนไลน์และให้จ่ายดอกเบี้ยผ่านโรงรับจำนำที่อยู่ในสังกัดเดียวกันในสาขาอื่นๆ ได้ การดำเนินการดังกล่าว ไม่ขัดต่อพระราชบัญญัติโรงรับจํานํา พ.ศ. 2505 เป็นแนวคิดที่ขอให้ทุกท่านนำไปร่วมกันพัฒนาให้เกิดผล” อธิบดี สถ. ได้ย้ำในตอนท้ายว่า การปฏิบัติงานของสถานธนานุบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นงานเกี่ยวกับทรัพย์สินที่มีค่ามีสภาพคล่องสูงที่จะเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ทันที การปฏิบัติงานจึงขอให้ทุกท่านยึดกฎหมาย ระเบียบ แบบแผนของทางราชการอย่างเคร่งครัด ยึดหลักธรรมาภิบาลและยึดประโยชน์ของประชาชนและราชการเป็นสำคัญ มาตรการเรื่องลดอัตราดอกเบี้ยนั้นคงให้ถือปฏิบัติต่อไป ทั้งในช่วงปีใหม่ ช่วงเปิดภาคการศึกษา ช่วงภัยแล้ง – อุทกภัย และภัยอื่นๆ ที่มีผลกระทบต่อประชาชนอย่างกว้างขวาง.