เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 27 ส.ค.63 ร.ต.อ.สุรณรงค์ จันหนู รอง สว.(สอบสวน) สน.บางคอแหลม ได้รับแจ้งเหตุมีผู้พบศพลอยอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหน้าวัดดาวคะนอง จึงจัดกำลังนำเรือตรวจการณ์ สน.บางคอแหลม ออกตรวจสอบ และลากจูงศพผู้เสียชีวิตเข้าที่ท่าน้ำของ สน.บางคอแหลม พร้อมกับประสานแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มาร่วมตรวจสอบ
พบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย อายุประมาณ 50-60 ปี ผิวขาว ผมรองทรง สูงประมาณ 160-165 ซม. สวมใส่เสื้อยืดโปโลสีฟ้าคาดขาว กางเกงขาสามส่วนสีดำ กางเกงในสีดำ ใส่นาฬิกาข้อมือที่ข้างซ้าย ใส่หน้ากากอนามัยแบบผ้าสีดำปิดที่บริเวณปาก สวมรองเท้าแตะแบบสวมสีน้ำตาล 1 ข้าง ที่เท้าซ้าย จากการตรวจสอบภายในตัวพบบัตรประชาชน ระบุชื่อนาย ณรงค์ นาคทัพ อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 ซอยประชาอุทิศ 54 แยก 11 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กทม.เงินสดจำนวนหนึ่ง โทรศัพท์ 1 เครื่อง และบัตรนัดตรวจเลือด ในวันที่ 26 ส.ค.63 ของโรงพยาบาลราษฎร์บูรณะ
เบื้องต้นคาดว่าศพผู้เสียชีวิตน่าจะเป็นเคสเดียวกับเมื่อช่วงเวลา 21.00 น.คืนวันที่ 26 ส.ค.63 ที่ผ่านมา ซึ่งมีพลเมืองดีแจ้งว่ามีคนกำลังจะทำร้ายตนเองด้วยการกระโดดจากสะพานกรุงเทพ เมื่ออาสาสมัครกู้ภัยฯ ได้รับแจ้งเหตุก็จัดกำลังเร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที แต่เมื่อกำลังอาสาสมัครกู้ภัยไปถึงก็ไม่พบแล้ว จึงคาดว่าผู้เสียชีวิตรายนี้น่าจะเป็นเคสเดียวกันกับเมื่อคืนนี้ ต้องรอตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอีกครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ติดต่อไปทางญาติและครอบครัว
ต่อมานายชาญณรงค์ นาคทัพ อายุ 31 ปี ลูกชายก็ได้เดินทางมาดูศพและได้ยืนยันว่าเป็นพ่อที่หายตัวไป พร้อมกับเล่าทั้งน้ำตาว่า เมื่อวานนี้( 26 ส.ค.)ช่วงเวลา 07.00 น.ตนออกมาส่งพ่อที่ปากซอยประชาอุทิศ 54 เพื่อที่จะไปโรงพยาบาลราษฎร์บูรณะ ตามหมอนัดปกติ เนื่องจากพ่อเป็นโรคเบาหวาน ความดัน แต่พอประมาณ 15.00 น.ตนเริ่มผิดสังเกตเพราะพ่อยังไม่กลับบ้านก็เริ่มที่จะตามหา ไปสอบถามที่โรงพยาบาลว่าพ่อมาหรือเปล่าปรากฏว่าไม่ได้มา จึงสอบถามไปยังศูนย์ของโทรศัพท์มือถือ ทางศูนย์ก็ไม่สามารถบอกตำแหน่งได้ จนกระทั่งมาวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อไป จึงเดินทางมาดูก็พบว่าเป็นศพพ่อ
“ก่อนหน้านี้พ่อทำงานเป็นนายช่างที่อู่ต่อเรือแต่ตอนไม่ได้ทำงาน ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตคิดว่า พ่อน่าจะเครียดเรื่องบ้านที่เอาไปจำนองไว้ แต่เรื่องนี้ผมไปเคลียร์ปิดมาหมดแล้ว แต่ยังไม่ทันได้เอาเอกสารมาให้พ่อดูเลย เพราะพอผมส่งพ่อเสร็จก็รีบไปที่ธนาคาร เพื่อนำเงินที่ผมแอบสะสมไว้ไปไถ่ถอนบ้านคืนจากธนาคาร แล้วจะเอาใบไถ่ถอนบ้านมาให้พอดูเพื่อพ่อจะได้ภูมิใจในตัวผม แต่พอผมกลับมาก็ไม่เจอพ่อแล้ว ผมก็รีบออกตามหาด้วยความเป็นห่วง แต่พอมาเจออีกทีเป็นแบบนี้แล้วผมก็เสียใจมากครับ”นายชาญณรงค์ กล่าวต่อท้าย
จากการสอบสวนเบื้องต้นแพทย์นิติเวชสันนิษฐานว่า เสียชีวิตจากการจมน้ำ แต่อย่างไรก็ตามจะมอบศพให้มูลนิธิฯ นำส่งสถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช เพื่อตรวจหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง ก่อนจะให้ญาติมาติดต่อขอรับร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
พบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย อายุประมาณ 50-60 ปี ผิวขาว ผมรองทรง สูงประมาณ 160-165 ซม. สวมใส่เสื้อยืดโปโลสีฟ้าคาดขาว กางเกงขาสามส่วนสีดำ กางเกงในสีดำ ใส่นาฬิกาข้อมือที่ข้างซ้าย ใส่หน้ากากอนามัยแบบผ้าสีดำปิดที่บริเวณปาก สวมรองเท้าแตะแบบสวมสีน้ำตาล 1 ข้าง ที่เท้าซ้าย จากการตรวจสอบภายในตัวพบบัตรประชาชน ระบุชื่อนาย ณรงค์ นาคทัพ อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 ซอยประชาอุทิศ 54 แยก 11 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กทม.เงินสดจำนวนหนึ่ง โทรศัพท์ 1 เครื่อง และบัตรนัดตรวจเลือด ในวันที่ 26 ส.ค.63 ของโรงพยาบาลราษฎร์บูรณะ
เบื้องต้นคาดว่าศพผู้เสียชีวิตน่าจะเป็นเคสเดียวกับเมื่อช่วงเวลา 21.00 น.คืนวันที่ 26 ส.ค.63 ที่ผ่านมา ซึ่งมีพลเมืองดีแจ้งว่ามีคนกำลังจะทำร้ายตนเองด้วยการกระโดดจากสะพานกรุงเทพ เมื่ออาสาสมัครกู้ภัยฯ ได้รับแจ้งเหตุก็จัดกำลังเร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที แต่เมื่อกำลังอาสาสมัครกู้ภัยไปถึงก็ไม่พบแล้ว จึงคาดว่าผู้เสียชีวิตรายนี้น่าจะเป็นเคสเดียวกันกับเมื่อคืนนี้ ต้องรอตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอีกครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ติดต่อไปทางญาติและครอบครัว
ต่อมานายชาญณรงค์ นาคทัพ อายุ 31 ปี ลูกชายก็ได้เดินทางมาดูศพและได้ยืนยันว่าเป็นพ่อที่หายตัวไป พร้อมกับเล่าทั้งน้ำตาว่า เมื่อวานนี้( 26 ส.ค.)ช่วงเวลา 07.00 น.ตนออกมาส่งพ่อที่ปากซอยประชาอุทิศ 54 เพื่อที่จะไปโรงพยาบาลราษฎร์บูรณะ ตามหมอนัดปกติ เนื่องจากพ่อเป็นโรคเบาหวาน ความดัน แต่พอประมาณ 15.00 น.ตนเริ่มผิดสังเกตเพราะพ่อยังไม่กลับบ้านก็เริ่มที่จะตามหา ไปสอบถามที่โรงพยาบาลว่าพ่อมาหรือเปล่าปรากฏว่าไม่ได้มา จึงสอบถามไปยังศูนย์ของโทรศัพท์มือถือ ทางศูนย์ก็ไม่สามารถบอกตำแหน่งได้ จนกระทั่งมาวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อไป จึงเดินทางมาดูก็พบว่าเป็นศพพ่อ
“ก่อนหน้านี้พ่อทำงานเป็นนายช่างที่อู่ต่อเรือแต่ตอนไม่ได้ทำงาน ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตคิดว่า พ่อน่าจะเครียดเรื่องบ้านที่เอาไปจำนองไว้ แต่เรื่องนี้ผมไปเคลียร์ปิดมาหมดแล้ว แต่ยังไม่ทันได้เอาเอกสารมาให้พ่อดูเลย เพราะพอผมส่งพ่อเสร็จก็รีบไปที่ธนาคาร เพื่อนำเงินที่ผมแอบสะสมไว้ไปไถ่ถอนบ้านคืนจากธนาคาร แล้วจะเอาใบไถ่ถอนบ้านมาให้พอดูเพื่อพ่อจะได้ภูมิใจในตัวผม แต่พอผมกลับมาก็ไม่เจอพ่อแล้ว ผมก็รีบออกตามหาด้วยความเป็นห่วง แต่พอมาเจออีกทีเป็นแบบนี้แล้วผมก็เสียใจมากครับ”นายชาญณรงค์ กล่าวต่อท้าย
จากการสอบสวนเบื้องต้นแพทย์นิติเวชสันนิษฐานว่า เสียชีวิตจากการจมน้ำ แต่อย่างไรก็ตามจะมอบศพให้มูลนิธิฯ นำส่งสถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช เพื่อตรวจหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง ก่อนจะให้ญาติมาติดต่อขอรับร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป