โผโยกย้ายทหารครั้งนี้ มีเรื่องฮือฮาในหลายเก้าอี้ หลายเหล่าทัพ ทั้งกองทัพอากาศ ที่จู่ๆ “บิ๊กแอร์” พล.อ.อ. แอร์บูล สุทธิวรรณ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทอ. ก็มีชื่อมาเสียบยอด เป็น ผบ.ทอ. เหินฟ้า “นภา1” แบบเซอร์ไพรส์ เกินกว่าที่บรรดาทหารอากาศ จะเชื่อว่า เป็นความจริง จนกว่าโผจะประกาศออกมา เพราะบรรดานายทหารระดับบิ๊กๆทัพฟ้า ยังเชื่อมั่นว่า พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผบ.ทอ. เสนอชื่อ “บิ๊กจ้อ” พล.อ.อ.ธรินทร์ ปุณศรี ผช.ผบ.ทอ. เพื่อน ตท.20 เป็น ผบ.ทอ. คนใหม่แน่นอนยกเว้น พล.อ.อ.แอร์บูล จะขี่เมฆมา หรือแม้แต่ทหารเรือ ที่ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผบ.ทร. เสนอชื่อ “บิ๊กอุ้ย” พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผช.ผบ.ทร. เป็น ผบ.ทร.คนใหม่ก็ตาม แต่นายทหารเรือระดับบิ๊กๆ ต่างก็ฟันธงว่า ในที่สุด ก็ต้องถูกเปลี่ยน มาเป็น “บิ๊กช่อ” พล.ร.อ.ช่อฉัตร กระเทศ รองผบ.ทร. แน่นอน เพราะมันเป็น ชะตาฟ้าลิขิตไว้แล้ว ในขณะที่ มีรายงานยืนยันว่า ในการหารือของ 7 เสือกลาโหม ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯในฐานะ รมว.กลาโหม เป็นประธาน โดยมีทั้ง “บิ๊กช้าง” พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม และ “บิ๊กกบ” พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. “บิ๊กลือ” พล.ร.อ.ลือชัย และ “บิ๊กนัต” พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผบ.ทอ.ร่วมหารือ นั้น สรุปจบ แล้วว่า เป็นชื่อของ พล.ร.อ.ชาติชาย แต่เพราะความเชื่อใน คอนเนคชั่นพิเศษแล้ว จะเกิดปาฏิหาริย์ ให้ พล.ร.อ.ช่อฉัตร ผู้ไม่ธรรมดาคนนี้ ได้เป็นแม่ทัพเรือ เรียกได้ว่าต้องรอดู เมื่อมีโปรดเกล้าฯ ลงมานั่นเลย แต่ที่ฮือฮาไม่น้อยไปกว่ากัน คือ ทบ. ที่แม้จะเป็น “บิ๊กบี้” พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ จะเป็นว่าที่ ผบ.ทบ. ในสายทหารคอแดง ฉก.ทม.รอ.904 ตามคาดก็ตาม แต่กลับมีเรื่องฮือฮา เมื่อ มีข่าวยืนยันว่า “รองอ๊อบ” พล.ต.ทรงวิทย์ หนุนภักดี รองแม่ทัพภาค 1 ที่ชิงแม่ทัพภาค 1 ถูกย้ายข้ามเข้า บก.ทบ. เป็น รองเสธ.ทบ. ออกนอกไลน์คุมกำลัง หลังจากที่ “บิ๊กต่อ” พล.ท.เจริญชัย หินเธาว์ แม่ทัพน้อยที่ 1 ขึ้นเป็น แม่ทัพภาค 1 เข้าไลน์ สู่เก้าอี้ ห้าเสือทบ. และ ผบ.ทบ. ในอนาคต และ “รองโต” พล.ต.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง รองแม่ทัพภาค 1 ขึ้น แม่ทัพน้อยที่ 1 ถือเป็นการส่งออก พล.ต.ทรงวิทย์ พ้นหน่วยคุมกำลัง ด้วยเพราะเป็นรุ่นน้อง ตท.24 ส่วน พล.ท.เจริญชัย และ พล.ต.สุขสรรค์ เป็นรุ่นพี่ ตท.23 ที่อาวุโสกว่า แต่ก็ถือว่า ได้เป็น พลโท และ ในการโยกย้าย ปลายปีหน้า ในยุคที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ เป็น ผบ.ทบ. นั้น ก็อาจจะส่งพล.ต. ทรงวิทย์ ข้ามกลับไปเป็น แม่ทัพภาค 1 ก็เป็นได้ เพราะในอดีตทั้ง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ “บิ๊กหมู” พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ก็เคยถูกเตะออกจาก กองทัพภาค 1 มาอยู่ บก.ทบ. แล้ว ก็ได้กลับไปเป็น แม่ทัพภาค 1 จนเข้าไลน์ เป็น ผบ.ทบ. มาแล้ว ที่สำคัญ พล.ต.ทรงวิทย์ ก็เป็นนายทหารคอแดง ที่มีบทบาทใน ฉก.ทม.รอ.904 และมีผลงาน เป็นที่ยอมรับ มาตลอด เส้นทาง สู่ บก.ทบ. อาจเป็นแค่ ทางเบี่ยงชั่วคราว ที่ต้องเดิน ในสถานการณ์จำเป็นเช่นนี้ แต่ที่แน่ๆ พล.ท.เจริญชัย ถูกวางตัว ให้เป็น ผบ.ทบ. ต่อจาก พล.อ.ณรงค์พันธ์ ที่จะนั่งยาว 3 ปี เกษียณ ต.ค. 2566 โดยเขาเกษียณ ต.ค.2567 ถือเป็นความหวังของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ผลักดัน พล.ท.เจริญชัย น้องเลิฟ สายทหารเสือราชินี ที่เติบโตมาจาก ร.21รอ. ด้วยกัน และเป็น ต.ต่อคนเดียว ในบรรดาน้องรัก ชื่อตัว ต. ที่เคยผลักดันไว้หลายคน แต่ก็ไม่ถึงฝั่ง แถมทั้ง พล.ท. เจริญชัย ก็เป็นนายทหารคอแดง และเป็น รอง ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 อีกด้วย ที่จะถือเป็น คุณสมบัติสำคัญ ที่จะเป็น ผบ.ทบ. เลยทีเดียว มี พล.ท.เจริญชัย น้องรัก นั่งแม่ทัพภาค 1 แบบนี้ พล.อ.ประยุทธ์ คงอุ่นใจได้ไม่น้อย ว่าหากมีอะไรเกิดขึ้นน้องต่อจะอยู่เคียงข้าง พี่ตู่ เสมอและตลอดไป ท่ามกลางสถานการณ์การเมือง ที่อาจนำไปสู่ การจลาจล สงครามกลางเมือง แผ่นดินลุกเป็นไฟ ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ และไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น ตามมา