เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2563 เวลา 09.30 น. ที่วัดถ้ำเขาวง ตำบลบ้านไร่ อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี เป็นธรรมสถานเพื่อการปฏิบัติธรรมที่อยู่บนเขา ลักษณะเป็นศาลาทรงไทยประยุกต์ 4 ชั้น สร้างด้วยไม้สัก ไม้มะค่า ไม้ที่ได้รับบริจาคจากชาวบ้าน รวมถึงไม้เก่าจากเรือนไทยที่มาจากหลายจังหวัด อาทิ จังหวัดอยุธยา จังหวัดอ่างทอง และจังหวัดลำพูน นอกจากนี้ยังมีลักษณะพิเศษ คือ ภายในอาคาร มีทั้งศาลา วิหาร กุฏิ หอระฆัง และโบสถ์ที่สร้างอยู่ในสถานที่เดียวกัน นักท่องเที่ยวที่ได้มาชมวัดแห่งนี้ เมื่อดูจากภายนอกจะเห็น เรือนไม้ขนาดใหญ่ โอบล้อมด้วยเขาหินปูนสูงตระหง่าน เสมือนเป็นรีสอร์ทสุดหรู แต่แท้ที่จริงแล้ว สถานที่แห่งนี้เป็นศาสนสถาน ที่ให้ผู้คนเข้ามาทำสมาธิ เจริญภาวนา และเคารพสักการะองค์พระพุทธรูปต่างๆ ที่ประดิษฐานอยู่โดยรอบ
สะพานที่สร้างขึ้นกลางบ่อน้ำเป็นแหล่งถ่ายรูปที่นักท่องเที่ยวนั้นชื่นชอบ เพราะสมมารถถ่ายรูปตัวเองแล้วติดเรือนไทยในภาพซึ่งสวยงามตระการตานักท่องเที่ยวที่มาเยือนเป็นอย่างมาก และในตอนนี้ทางวัดนั้นได้สร้างศาลากลางน้ำขึ้นมาใหม่ที่ชื่อว่าเจดีย์ 4 ภาค ตั้งตระหง่านอยู่ในบ่อน้ำของวัด ซึ่งจำลองมาจากพุทธคยาประเทศอินเดีย ซึ่งบริเวณโดยรอบวัดสวยงามตระการตาเป็นอย่างมาก
และที่เหล่าบรรดานักท่องเที่ยวและผู้ที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา เมื่อเดินเข้าไปภายในถ้ำน้ำตก ก็จะพบ พระสมบัติ อัตธัมโม อายุ 54 ปี ที่นั่งสงบนิ่งอยู่บนโซฟาไม้กลางศาลามองครั้งแรกเหมือนหุ่นขึ้ผึ้งปั้นเป็นรูปพระสงฆ์เป็นอย่างมาก แต่พอญาติโยมหรือนักท่องเที่ยวนั้นเข้าไปเพื่อกราบไหว้เป็นศิริมงคลหรือเข้าไปหรือถวายสังฆทาน พระสมบัติจะเอ่ยปากว่ามานั่งใกล้ๆและรับศีลรับพรกันไป เหล่าบรรดานักท่องเที่ยวต้องตะลึงพบว่าพระสมบัตินั้นพูดได้ และคลายความสงสัยว่าคิดว่าเป็นพระที่ปั้นเป็นหุ่นขี้ผึ้งในครั้งแรกไป ต่างก็เข้าไปนำปัจจัยไปทำบุญและรับศีลรับพรกันไปและถ่ายรูปคู่กับพระสมบัติที่นั่งเป็นหุ่นขี้ผึ้งหลังจากที่ญาติโยมเสร็จจากการถวายสังฆทานหรือมาทำบุญแล้ว ท่านก็จะนั่งสงบนิ่งไม่ไหวติงเช่นเดิม
โดยนายอัครินทร์ เจียรชรานนท์ อายุ 61 ปี ผู้ดูแลวัด ได้เปิดเผยว่า พระสมบัติ อัตธัมโม ปรกติแล้วท่านจะนั่งนิ่งไม่ขยับไม่ไหวติงเป็นชั่วโมงๆจนนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่นี่มาเจอท่านมานั่งอยู่ตรงนี้ทุกคนคิดว่าท่านเป็นหุ่นขี้ผึ้ง แต่จริงๆแล้วท่านไม่ใช่หุ่นขี้ผึ้งจริงแล้วท่านเป็นพระจริงๆ และท่านนั่งจนจิตท่านนิ่งแล้วเวลามีคนมาถวายสังฆทานแล้วก็จะให้พรทุกครั้งและจากนั้นท่านก็จะนั่งนิ่งไม่ไรเลยเหมือนกับหุ่นจริงๆ
สะพานที่สร้างขึ้นกลางบ่อน้ำเป็นแหล่งถ่ายรูปที่นักท่องเที่ยวนั้นชื่นชอบ เพราะสมมารถถ่ายรูปตัวเองแล้วติดเรือนไทยในภาพซึ่งสวยงามตระการตานักท่องเที่ยวที่มาเยือนเป็นอย่างมาก และในตอนนี้ทางวัดนั้นได้สร้างศาลากลางน้ำขึ้นมาใหม่ที่ชื่อว่าเจดีย์ 4 ภาค ตั้งตระหง่านอยู่ในบ่อน้ำของวัด ซึ่งจำลองมาจากพุทธคยาประเทศอินเดีย ซึ่งบริเวณโดยรอบวัดสวยงามตระการตาเป็นอย่างมาก
และที่เหล่าบรรดานักท่องเที่ยวและผู้ที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา เมื่อเดินเข้าไปภายในถ้ำน้ำตก ก็จะพบ พระสมบัติ อัตธัมโม อายุ 54 ปี ที่นั่งสงบนิ่งอยู่บนโซฟาไม้กลางศาลามองครั้งแรกเหมือนหุ่นขึ้ผึ้งปั้นเป็นรูปพระสงฆ์เป็นอย่างมาก แต่พอญาติโยมหรือนักท่องเที่ยวนั้นเข้าไปเพื่อกราบไหว้เป็นศิริมงคลหรือเข้าไปหรือถวายสังฆทาน พระสมบัติจะเอ่ยปากว่ามานั่งใกล้ๆและรับศีลรับพรกันไป เหล่าบรรดานักท่องเที่ยวต้องตะลึงพบว่าพระสมบัตินั้นพูดได้ และคลายความสงสัยว่าคิดว่าเป็นพระที่ปั้นเป็นหุ่นขี้ผึ้งในครั้งแรกไป ต่างก็เข้าไปนำปัจจัยไปทำบุญและรับศีลรับพรกันไปและถ่ายรูปคู่กับพระสมบัติที่นั่งเป็นหุ่นขี้ผึ้งหลังจากที่ญาติโยมเสร็จจากการถวายสังฆทานหรือมาทำบุญแล้ว ท่านก็จะนั่งสงบนิ่งไม่ไหวติงเช่นเดิม
โดยนายอัครินทร์ เจียรชรานนท์ อายุ 61 ปี ผู้ดูแลวัด ได้เปิดเผยว่า พระสมบัติ อัตธัมโม ปรกติแล้วท่านจะนั่งนิ่งไม่ขยับไม่ไหวติงเป็นชั่วโมงๆจนนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่นี่มาเจอท่านมานั่งอยู่ตรงนี้ทุกคนคิดว่าท่านเป็นหุ่นขี้ผึ้ง แต่จริงๆแล้วท่านไม่ใช่หุ่นขี้ผึ้งจริงแล้วท่านเป็นพระจริงๆ และท่านนั่งจนจิตท่านนิ่งแล้วเวลามีคนมาถวายสังฆทานแล้วก็จะให้พรทุกครั้งและจากนั้นท่านก็จะนั่งนิ่งไม่ไรเลยเหมือนกับหุ่นจริงๆ