จากนโยบายสำคัญที่สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ ได้มุ่งเน้นส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ให้กระจายไปทั่วทุกภูมิภาค เพื่อเพิ่มโอกาสในการพัฒนาท้องถิ่นอย่างทั่วถึง จึงทำให้โครงการไมซ์ซิตี้ มีพัฒนาการมาโดยตลอด ซึ่งที่ผ่านมาได้ร่วมกับจังหวัดต่างๆ และองค์กรภาคีพัฒนาไมซ์ซิตี้ขึ้นมา 5 แห่ง คือ กรุงเทพฯ ขอนแก่น เชียงใหม่ พัทยา และภูเก็ต ซึ่งความร่วมมือกันได้ส่งผลให้เกิดการพัฒนาในหลายด้าน ทั้งเรื่องการลงทุน โครงสร้างพื้นฐาน ธุรกิจไมซ์ ธุรกิจท่องเที่ยว และการพัฒนาบุคลากรเพื่อป้อนให้แก่อุตสาหกรรมไมซ์ในแต่ละจังหวัด เกิดการประชุม และจัดแสดงสินค้าเพิ่มขึ้นในแต่ละจังหวัด เปิด 2 เมืองไมซ์ซิตี้ใหม่ ในเรื่องนี้ นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า เวลานี้นครราชสีมา และสงขลา เป็นสองจังหวัดที่ผ่านหลักเกณฑ์การประเมินได้รับการรับรองเป็นเมืองไมซ์ของประเทศไทยเพิ่มเติม ตามหลักเกณฑ์ทั้ง 8 ด้าน ได้แก่ ความสะดวกในการเข้าสู่เมืองและสถานที่จัดงาน การสนับสนุนการจัดงานไมซ์จากการจัดงานของเมือง กิจกรรมเพิ่มเติมนอกเหนือจากการประชุม ที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก สถานที่จัดงานและสิ่งอำนวยความสะดวก ภาพลักษณ์และความมีชื่อเสียงของเมือง สภาพแวดล้อมของเมือง และความเสี่ยงในการยกเลิกงานและการรักษาความปลอดภัย จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ซึ่งการเป็นไมซ์ซิตี้ของทั้งสองจังหวัดทางทีเส็บได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ และเครือข่ายภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องของทั้งทางจังหวัดนครราชสีมาและสงขลา เพื่อขับเคลื่อนเมืองไมซ์ตามแผนยุทธศาสตร์ไมซ์ซิตี้ครบองค์รวมภายใต้ 4 กลยุทธ์หลัก ประกอบด้วย 1.พัฒนาช่องทางการตลาดและส่งเสริมกิจกรรมการตลาด ปรับเปลี่ยนและสร้างภาพลักษณ์ของเมืองเพื่อรองรับการจัดกิจกรรมไมซ์ 2.พัฒนารูปแบบกิจกรรมที่มีความคิดสร้างสรรค์ สนับสนุนการใช้วัฒนธรรมพื้นเมืองที่เชื่อมโยงกับกิจกรรมไมซ์และยกระดับกิจกรรมไมซ์ที่มีศักยภาพไปสู่ระดับนานาชาติ 3.สร้างการมีส่วนร่วมและเพิ่มขีดความสามารถของบุคลากรไมซ์ในพื้นที่เพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการให้ทัดเทียมมาตรฐานสากล และ 4.ยกระดับและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ นายจิรุตถ์ กล่าวต่อว่า นอกจากสนับสนุนการจัดงานไมซ์ภายในจังหวัดให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจกระจายรายได้ไปสู่พื้นที่แล้ว ที่สำคัญคือต้องการกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาทั้งระบบ เพื่อประโยชน์ที่ยั่งยืนต่อไปในระยะยาว ดังนั้นโครงการ จัดงานทั่วไทย ภูมิใจช่วยชาติ ในวันที่ 2 กันยายน 2563 ที่เกิดขึ้น โดยมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานของงานและกล่าวปาฐกถาในงาน นอกจากจะมีการประกาศจังหวัดนครราชสีมาและสงขลาเป็นไมซ์ซิตี้อย่างเป็นทางการแล้ว ยังมีกิจกรรมสำคัญทั้งด้านความรู้ ประสบการณ์ และเปิดตลาดซื้อขายงานไมซ์ในราคาพิเศษ โดยผู้ประกอบการจำนวนมากจากทั้งสถานจัดประชุม สายการบิน โรงแรม มาเสนอบริการไมซ์แก่ผู้สนใจภายในรอยัล พารากอนฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน โคราชรับธุรกิจไมซ์ทุกมิติ ด้าน นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า นครราชสีมาเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพและความพร้อมสูงในการรองรับอุตสาหกรรมไมซ์ทุกมิติ ทั้งด้านการคมนาคมที่เข้าถึงสถานที่จัดงาน การประชุม งานแสดงสินค้า บุคลากรคุณภาพ มีอัตลักษณ์วัฒนธรรมโดดเด่น ผสมผสานกับกิจกรรมอีเวนต์ที่หลากหลายได้อย่างลงตัว และเสน่ห์อีกอย่างของจังหวัด คือความสมบูรณ์ของธรรมชาติที่สุดของภาคอีสาน มรดกโลกในพื้นที่เขาใหญ่ พื้นที่สงวนชีวมณฑลสะแกราชและอุทธยานธรณีโคราช ทั้งหมดนี้จะสร้างความประทับใจและประสบการณ์ที่แตกต่างแก่ผู้มาเยือนโคราชไมซ์ซิตี้อย่างแน่นอน วิเชียร จันทรโณทัย โดยได้กำหนดวิสัยทัศน์ในการเป็นไมซ์ซิตี้ตามอัตลักษณ์เมืองให้เป็น เมืองไมซ์มรดกโลกศูนย์กลางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อิงกับจุดเด่นของจังหวัด 5 ด้าน คือ การเป็นศูนย์กลางการผลิตและแปรรูปสินค้าทางการเกษตรของประเทศ การมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่หลากหลาย การมีแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างขึ้นจำนวนมาก การเป็นศูนย์กลางการค้าและแหล่งชอปปิ้งของภูมิภาค และการมีวัฒนธรรม ประเพณี โบราณสถานที่เป็นเอกลักษณ์ สงขลาพร้อมรับไมซ์นานาชาติ จารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ส่วน นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า จังหวัดสงขลาเป็นศูนย์กลางด้านการค้า การลงทุน การบริการ และคมนาคม ที่สำคัญของภาคใต้ตอนล่าง อีกทั้งเป็นประตูเชื่อมโยงเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน และได้รับการขนานนามให้เป็น ศูนย์กลางการค้าชายแดนใต้ และความหลากหลายทางพหุวัฒนธรรม และสงขลาจะเป็นเมืองศูนย์กลางการจัดประชุม นิทรรศการ งานอีเวนต์ การเดินทางเพื่อเป็นรางวัล และการจัดงานแสดงสินค้า ด้วยความพร้อมของสิ่งอำนวยความสะดวกของเมือง รวมไปถึงศักยภาพของสถานที่จัดงาน เช่น ศูนย์ประชุม และสถานที่จัดงานขนาดใหญ่ภายในโรงแรม ซึ่งทางจังหวัดตั้งเป้าให้สงขลาเป็นจุดหมายปลายของการจัดงานไมซ์ ที่สามารถรองรับการจัดงานได้ทั้งระดับภูมิภาค ประเทศ ไปจนถึงระดับนานาชาติต่อไป สำหรับวิสัยทัศน์ในการเป็นไมซ์ซิตี้ตามอัตลักษณ์เมืองสงขลา คือ เมืองไมซ์พหุวัฒนธรรมที่จะสร้างการเติบโตด้านเศรษฐกิจ จากการค้าชายแดน การบริการ และการลงทุนสำหรับภาคใต้ ด้วยจุดเด่น 5 ด้าน คือ ความเป็นเมืองพหุวัฒนธรรมระหว่างชาวไทยพุทธ ไทยจีน และไทยมุสลิม ความเป็นศูนย์กลางราชการของภาคใต้ ความเป็นศูนย์กลางธุรกิจ ศูนย์กลางการค้าและช้อปปิ้ง และศูนย์รวมสถาบันการศึกษาของภาคใต้