นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่า กรณีเฟซบุ๊กเตรียมฟ้องรัฐบาลไทย หลังจากสั่งบล็อกเพจ “รอยัลสิสต์มาร์เก็ต เพลส”ส่วนนี้ไม่มีปัญหาอะไร ตนทำตามกฎหมาย หลังจากนี้จะดำเนินการตามกฎหมายของเราต่อไปหากมีกรณีเช่นนี้อีกเราก็จะฟ้องเช่นเดิม แต่ขณะนี้ยังไม่เห็นว่าเฟซบุ๊กจะฟ้องที่ไหน อย่างไร แต่ยืนยันสิ่งที่เราดำเนินการเป็นไปตามกฎหมายทุกเรื่อง อะไรที่ผิดกฎหมายเราก็ไม่เคยเพิกเฉยและนี่เป็นครั้งแรกที่เราดำเนินการไปถึงเจ้าของแพลตฟอร์มที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลไทย เนื่องจากเราส่งคำสั่งศาลไปให้ลบเนื้อหาต่างๆที่ไม่ถูกต้องภายใน 15 วัน หากเขาไม่ดำเนินการเราก็ดำเนินการกับแพลตฟอร์ม ถือเป็นการกดดันและทำตามกฎหมาย แต่หากเขาลบให้เราก็ไม่ดำเนินคดีเขา ส่วนที่เขาจะฟ้องกลับอย่างไร ตนยังไม่ได้ดูรายละเอียดแต่ต้องยืนยันว่าประเทศไทยก็มีกฎหมาย ทั้งนี้ไม่ว่าเป็นคนไทยหรือคนต่างประเทศเมื่อมาดำเนินธุรกิจต่างๆในประเทศไทยต้องเคารพในกฎหมายไทยด้วย และที่เราทำก็ทำภายใต้กฎหมายไม่ได้รังแกใครเลย เพราะเป็นคำสั่งศาลทั้งสิ้น หากต่อไปมีอะไรผมก็ดำเนินการตามคำสั่งศาลกับทุกแพลตฟอร์มไม่ใช่แต่เฉพาะเฟซบุ๊ก ซึ่งที่ผ่านมาส่วนใหญ่เขาก็ลบให้" โดยของเดิมมีข้อความที่หมิ่นเหม่ในเฟซบุ๊ก 1,120 ยูอาร์แอล ซึ่งทยอยลบให้เช่นเดียวกับกลุ่มใหญ่ๆกลุ่มหนึ่งของนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่นที่เป็นข่าวไปเมื่อวันที่ 24 ส.ค.63 ทางเฟซบุ๊กลบให้ เนื่องจากเรามีคำสั่งศาลระบุไปว่า มีความผิด เมื่อมีการลบไปเราก็ไม่ดำเนินคดี เพราะให้ความร่วมมือ ส่วนข่าวที่ว่าเฟซบุ๊กจะฟ้องเพิ่งเห็นข่าวเมื่อเช้า ตอนนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับทางเฟซบุ๊ก เพราะเรายึดตามกฎหมาย และเชื่อว่าคนไทยทุกคนเข้าใจ อย่างไรก็ตาม 10 วันที่ผ่านมา เฟซบุ๊กได้ลบข้อความที่เราแจ้งไปตามคำสั่งศาลประมาณ 90% รวมกับแพลตฟอร์มยูทูป และติ๊กต๊อกลบให้หมดแล้วโดยยึดหลักกฎหมายและดำเนินการทั้งคนไทยและต่างประเทศ นี่ถือเป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่เราเรียกว่าอธิปไตยของไทย ซึ่งเป็นมิติใหม่ในระบบไซเบอร์ ที่จะปกป้องคุ้มครองคนไทยภายใต้กฎหมายไทยอธิปไตยไทยที่เราจะต้องทำ เชื่อว่าหากเราไม่ทำไม่บังคับใช้กฎหมายในอนาคตจะยิ่งหนักกว่านี้ เมื่อถามว่านายกฯได้สั่งการอะไรเรื่องนี้เป็นพิเศษหรือไม่ นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า ให้ทำตามกฎหมายอย่างเข้มแข็งทำตามสิ่งที่เราคิดว่าถูกต้องและนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทั้งหมด และไม่กังวลว่าเรื่องนี้จะทำให้กระทบความเชื่อมั่นการลงทุนของต่างชาติ เพราะไม่ได้เกิดกับประเทศไทยประเทศเดียว ในสหรัฐฯมีการฟ้องกันเอง แม้แต่ตัวประธานาธิบดีสหรัฐฯยังมีการฟ้องร้องเครือข่าย มีการบล็อก มีการปิด และมีผู้นำบางประเทศถูกสั่งปิดทวิตเตอร์เพราะใช้ข้อมูลที่เป็นเท็จออกมา เขาดำเนินการตามกฎหมายของเราก็เช่นเดียวกัน ไม่แตกต่างกันเลย “ถ้าเทียบกับต่างประเทศก็เป็นกระบวนการเช่นเดียวกัน ซึ่งไม่ได้ไปละเมิดสิทธิของใคร อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาเราทำหนังสือชี้แจงทางเฟซบุ๊กมาโดยตลอดยึดข้อกฎหมายและส่งข้อกฎหมายไปให้เขารับทราบและในหลายๆเรื่องที่เขาปฏิบัติตามก็ต้องขอบคุณเขา ยอมรับว่าวันนี้ให้ความร่วมมือกับเรา”