ปัญหาซ้ำซาก จะกี่ปีก็ไม่เคยแก้ไข!!! ชาวบ้านในเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อเดือดร้อนหนักหลังน้ำประปาขุ่น เหลือง มีกลิ่น ชี้ปัญหาเกิดมาหลายปีแต่ไม่เคยแก้ไข สื่อตรวจสอบพบเคยชี้แจงหลายครั้ง รับปากหลายที แต่สุดท้ายชาวบ้านต้องทนรับกรรมต่อไป
วันนี้ (18 ส.ค. 63) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อจำนวนมากว่าน้ำประปาที่ใช้ในชีวิตประจำวันมีปัญหาน้ำประปาขุ่น เหลือง มีกลิ่น ไม่สามารถใช้อุปโภคบริโภคได้
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สอบถามปัญหากับชาวบ้านพบว่าน้ำประปามีปัญหาจริง โดยพบว่าน้ำมีสภาพขุ่น เหลือง และมีกลิ่น ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถนำน้ำประปาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ สร้างปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อเป็นอย่างมาก
ชาวบ้านรายหนึ่งในเขตชุมชนป่าตาล บอกกับผู้สื่อข่าวว่าอยากให้เทศบาลเมืองท่าบ่อ เร่งแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง เพราะที่ผ่านมาปัญหาน้ำประปาเป็นปัญหาที่หมักหมมมานานหลายปีแล้ว แต่ไม่เคยได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
เช่นเดียวกับ ชาวบ้านในเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ ในพื้นที่ ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ (เขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ) บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ประปามีกลิ่นเหม็น มีสีขุ่นแดงคล้ายโคลนตม เมื่ออาบน้ำแล้วรู้สึก ระคายและคันตามตัว ใช่แช่ข้าวเหนียวไม่ได้ บ้วนปากก็ไม่ได้ เพราะมีกลิ่นเหม็นจนอยากจะอาเจียน ซักผ้าก็ไม่ได้ โดยเฉพาะผ้าสีขาวซักไม่ได้เลย เพราะน้ำมีสีขุ่นแดง จนชาวบ้านต้องได้ซื้อน้ำเป็นถังมาใช้ ซึ่งเป็นแบบนี้มาได้หลายปีแล้วแต่เมื่อไปร้องเรียนไปยังเทศบาล (เทศบาลเมืองท่าบ่อ) กลับได้รับคำตอบว่ารู้แล้ว “เดี๋ยวแก้ไขให้” แล้วก็มีการแก้ไข สักพักหนึ่งน้ำก็กลับมาแดงตามเดิม ซึ่งชาวบ้านอยากให้เทศบาลมาแก้ไขปัญหาร่วมกัน เพราะชาวบ้านทุกชุมชนในเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก และสิ่งที่ต้องการมากที่สุดในขณะนี้ก็คือ “ต้องการน้ำกินน้ำใช้ที่สะอาด” ถ้าแก้ไข ระยะยาวไม่ได้ ก็ขอให้ช่วยบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนในระยะสั้น เสียก่อน
“เมื่อสถานการณ์เป็นอย่างนี้ แต่ทางเทศบาลก็ยังเก็บเงินกับชาวบ้านแบบเต็มหน่วย อยากจะให้เยียวยาบ้าง เพราะน้ำที่ชาวบ้านซื้อมาใช้ในการอุปโภค – บริโภค อยู่ในขณะนี้ต้องเสียเงินซื้อหลายร้อยบาท แต่น้ำประปาของเทศบาลที่ชาวบ้านรองไว้ใช้ กลับใช้ไม่ได้เลย ต้องเททิ้งแต่เทศบาลก็ยังเก็บเงินกับชาวบ้านอยู่ดี ตรงนี้อยากให้ลงมาแก้ไขและหาทางออกร่วมกันด้วย” ชาวบ้านสะท้อนปัญหานี้ให้ผู้สื่อข่าวฟัง
สำหรับปัญหาน้ำประปาในเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ จากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าวพบว่ามีปัญหามาโดยตลอดทั้งน้ำประปาไม่ไหล และน้ำประปาขุ่น เหลือง มีกลิ่น ซึ่งที่ผ่านมาเทศบาลเมืองท่าบ่อ ก็ได้แก้ปัญหา แต่เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งไม่ได้แก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ทำให้ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อเกิดปัญหาเรื่องน้ำประปามาโดยตลอด
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2562 นายประดับ สังฆะมณี ปลัดเทศบาลเมืองท่าบ่อปฏิบัติหน้าที่ นายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ได้เคยชี้แจงกับสื่อมวลชนกรณีการจ่ายน้ำประปาของกองการประปาเทศบาลเมืองท่าบ่อ ที่มีปัญหาเขตจ่ายน้ำไม่เพียงพอและปัญหาน้ำประปาขุ่นว่า เหตุที่น้ำประปาขุ่น ได้เกิดเหตุไฟฟ้าดับในเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ โดยเฉพาะกองการประปาเทศบาลเมืองท่าบ่อ คือในช่วงกลางคืนจะมีเวรยามที่เฝ้าอยู่ในส่วนของโรงงานผลิตน้ำประปา และในช่วงดังกล่าวเวรยามที่ดูแลน่าจะหลับเวร เมื่อไฟฟ้าดับระบบการผลิตน้ำก็ต้องหยุดการทำงาน เมื่อระบบทำงานเดินต่อระบบสูบน้ำดิบจากแม่น้ำโขงเริ่มทำงาน
แต่น้ำที่จะนำมาใช้นั้นก็ต้องมีการกรองน้ำเสียก่อน โดยเฉพาะส่วนผสมที่จะทำให้น้ำตกตะกอนนั้นเราไม่ได้ปิดไว้ ทำให้น้ำดิบที่สูบขึ้นมาไปผสมกับน้ำดีที่ตกตะกอนแล้ว จากนั้นเมื่อกระแสไฟฟ้ามาแล้ว ระบบจึงได้ทำงานทำให้น้ำที่สูบขึ้นมาได้ไหลไปผสมกับน้ำดี ไหลออกไปสู่ปลายทาง จึงทำให้เกิดน้ำขุ่น และกว่าที่จะรู้ว่ากระแสไฟฟ้าดับนั้นก็มารู้อีกที เมื่อ 2-3 ชั่วโมงผ่านมาแล้ว น้ำขุ่นจึงได้ไหลเข้ายังท่อที่ส่งที่ไปสู่ประปาของบ้านเรือนประชาชน จึงเป็นสาเหตุให้เกิดน้ำขุ่น ซึ่งในช่วงเวลาไฟฟ้าดับและเจ้าหน้าที่หลับเวรที่ไม่ได้ดูแลในเรื่องนี้
ขณะเดียวกันก็พบว่าหลายชุมชนในเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ กระแสน้ำประปายังเข้าไปไม่ถึงก็ต้องมีการขยายการผลิตและขยายเขตประปาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทางเทศบาลเมืองท่าบ่อ ก็ได้ทำการซื้อ เครื่องสูบน้ำมาสำรองและซื้อเครื่องมาติดตั้งใหม่หลังจากที่ชำรุดส่วนหนึ่ง ซึ่งก็ต้องใช้งบประมาณในการจ่ายขาดเงินสะสม ตอนนี้ก็ถือว่าเครื่องสูบน้ำมีความพร้อมแล้ว ส่วนโรงกรองน้ำนั้นก็มีค่อนข้างจำกัด เพราะก่อสร้างมาตั้งแต่สมัยเป็นสุขาภิบาล
สำหรับความต้องการของพี่น้องประชาชนในการใช้น้ำในเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อนั้น มีความต้องการประมาณ 250 ลูกบาศก์เมตรต่อวันถึงจะเพียงพอ เพราะฉะนั้นในโรงกรองเมื่อมีข้อจำกัดเช่นนี้ ทางเทศบาลเองก็พยายามที่จะหางบประมาณในการก่อสร้างโรงกรองน้ำหรือจัดซื้อโรงกรองน้ำสำเร็จรูปแบบนวัตกรรมใหม่ เพื่อนำมาช่วยเสริมในการกรองน้ำให้น้ำใสเพิ่มมากขึ้น
ขณะเดียวกัน ระบบส่งน้ำในเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ เป็นระบบท่อส่งแบบเก่า คือ ระบบท่อใยหิน ซึ่งอาจจะมีรอยรั่วผุพังในบางส่วน เราก็พยายามหางบประมาณในการเปลี่ยนท่อเป็นท่อ PVC ทดแทน ซึ่งในปีงบประมาณ 2563 นี้ ทางเทศบาลเมืองท่าบ่อ ก็ได้จัดทำงบประมาณในการเปลี่ยนท่อส่งน้ำจากท่อใยหินเป็นท่อ PVC แล้ว ซึ่งจะเป็นการส่งน้ำที่สะอาดไปสู่ปลายทางได้อย่างมีคุณภาพ
สุดท้ายคือการเพิ่มถังน้ำดีไว้ปลายทาง ซึ่งมีการทดสอบแล้วที่สาธารณสุขอำเภอท่าบ่อ ด้วยการสูบน้ำขึ้นไปพักไว้ที่ถังน้ำดี แล้วก็ปล่อยสู่ปลายทางให้ประชาชนได้ใช้น้ำที่สะอาด และจะจัดทำเพิ่มอีก 3 จุด โดยเฉพาะจุดปลายทางน้ำโมง, จุดปลายทางชุมชนนาดาว และที่วัดแก้วพิจิตร ซึ่งทั้ง 3 จุดนั้นน้ำยังไหลไม่ทั่วถึง
โดยเมื่อผู้สื่อข่าวตรวจสอบย้อนหลังไปพบว่ามีการชี้แจงในลักษณะเดียวกันมาโดยตลอดแต่น้ำประปาในเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อก็ยังสร้างปัญหาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนในเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อเช่นเดิม.
ชาวบ้านรายหนึ่งในเขตชุมชนป่าตาล บอกกับผู้สื่อข่าวว่าอยากให้เทศบาลเมืองท่าบ่อ เร่งแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง เพราะที่ผ่านมาปัญหาน้ำประปาเป็นปัญหาที่หมักหมมมานานหลายปีแล้ว แต่ไม่เคยได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
เช่นเดียวกับ ชาวบ้านในเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ ในพื้นที่ ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ (เขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ) บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ประปามีกลิ่นเหม็น มีสีขุ่นแดงคล้ายโคลนตม เมื่ออาบน้ำแล้วรู้สึก ระคายและคันตามตัว ใช่แช่ข้าวเหนียวไม่ได้ บ้วนปากก็ไม่ได้ เพราะมีกลิ่นเหม็นจนอยากจะอาเจียน ซักผ้าก็ไม่ได้ โดยเฉพาะผ้าสีขาวซักไม่ได้เลย เพราะน้ำมีสีขุ่นแดง จนชาวบ้านต้องได้ซื้อน้ำเป็นถังมาใช้ ซึ่งเป็นแบบนี้มาได้หลายปีแล้วแต่เมื่อไปร้องเรียนไปยังเทศบาล (เทศบาลเมืองท่าบ่อ) กลับได้รับคำตอบว่ารู้แล้ว “เดี๋ยวแก้ไขให้” แล้วก็มีการแก้ไข สักพักหนึ่งน้ำก็กลับมาแดงตามเดิม ซึ่งชาวบ้านอยากให้เทศบาลมาแก้ไขปัญหาร่วมกัน เพราะชาวบ้านทุกชุมชนในเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก และสิ่งที่ต้องการมากที่สุดในขณะนี้ก็คือ “ต้องการน้ำกินน้ำใช้ที่สะอาด” ถ้าแก้ไข ระยะยาวไม่ได้ ก็ขอให้ช่วยบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนในระยะสั้น เสียก่อน
“เมื่อสถานการณ์เป็นอย่างนี้ แต่ทางเทศบาลก็ยังเก็บเงินกับชาวบ้านแบบเต็มหน่วย อยากจะให้เยียวยาบ้าง เพราะน้ำที่ชาวบ้านซื้อมาใช้ในการอุปโภค – บริโภค อยู่ในขณะนี้ต้องเสียเงินซื้อหลายร้อยบาท แต่น้ำประปาของเทศบาลที่ชาวบ้านรองไว้ใช้ กลับใช้ไม่ได้เลย ต้องเททิ้งแต่เทศบาลก็ยังเก็บเงินกับชาวบ้านอยู่ดี ตรงนี้อยากให้ลงมาแก้ไขและหาทางออกร่วมกันด้วย” ชาวบ้านสะท้อนปัญหานี้ให้ผู้สื่อข่าวฟัง
สำหรับปัญหาน้ำประปาในเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ จากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าวพบว่ามีปัญหามาโดยตลอดทั้งน้ำประปาไม่ไหล และน้ำประปาขุ่น เหลือง มีกลิ่น ซึ่งที่ผ่านมาเทศบาลเมืองท่าบ่อ ก็ได้แก้ปัญหา แต่เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งไม่ได้แก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ทำให้ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อเกิดปัญหาเรื่องน้ำประปามาโดยตลอด
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2562 นายประดับ สังฆะมณี ปลัดเทศบาลเมืองท่าบ่อปฏิบัติหน้าที่ นายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ได้เคยชี้แจงกับสื่อมวลชนกรณีการจ่ายน้ำประปาของกองการประปาเทศบาลเมืองท่าบ่อ ที่มีปัญหาเขตจ่ายน้ำไม่เพียงพอและปัญหาน้ำประปาขุ่นว่า เหตุที่น้ำประปาขุ่น ได้เกิดเหตุไฟฟ้าดับในเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ โดยเฉพาะกองการประปาเทศบาลเมืองท่าบ่อ คือในช่วงกลางคืนจะมีเวรยามที่เฝ้าอยู่ในส่วนของโรงงานผลิตน้ำประปา และในช่วงดังกล่าวเวรยามที่ดูแลน่าจะหลับเวร เมื่อไฟฟ้าดับระบบการผลิตน้ำก็ต้องหยุดการทำงาน เมื่อระบบทำงานเดินต่อระบบสูบน้ำดิบจากแม่น้ำโขงเริ่มทำงาน
แต่น้ำที่จะนำมาใช้นั้นก็ต้องมีการกรองน้ำเสียก่อน โดยเฉพาะส่วนผสมที่จะทำให้น้ำตกตะกอนนั้นเราไม่ได้ปิดไว้ ทำให้น้ำดิบที่สูบขึ้นมาไปผสมกับน้ำดีที่ตกตะกอนแล้ว จากนั้นเมื่อกระแสไฟฟ้ามาแล้ว ระบบจึงได้ทำงานทำให้น้ำที่สูบขึ้นมาได้ไหลไปผสมกับน้ำดี ไหลออกไปสู่ปลายทาง จึงทำให้เกิดน้ำขุ่น และกว่าที่จะรู้ว่ากระแสไฟฟ้าดับนั้นก็มารู้อีกที เมื่อ 2-3 ชั่วโมงผ่านมาแล้ว น้ำขุ่นจึงได้ไหลเข้ายังท่อที่ส่งที่ไปสู่ประปาของบ้านเรือนประชาชน จึงเป็นสาเหตุให้เกิดน้ำขุ่น ซึ่งในช่วงเวลาไฟฟ้าดับและเจ้าหน้าที่หลับเวรที่ไม่ได้ดูแลในเรื่องนี้
ขณะเดียวกันก็พบว่าหลายชุมชนในเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ กระแสน้ำประปายังเข้าไปไม่ถึงก็ต้องมีการขยายการผลิตและขยายเขตประปาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทางเทศบาลเมืองท่าบ่อ ก็ได้ทำการซื้อ เครื่องสูบน้ำมาสำรองและซื้อเครื่องมาติดตั้งใหม่หลังจากที่ชำรุดส่วนหนึ่ง ซึ่งก็ต้องใช้งบประมาณในการจ่ายขาดเงินสะสม ตอนนี้ก็ถือว่าเครื่องสูบน้ำมีความพร้อมแล้ว ส่วนโรงกรองน้ำนั้นก็มีค่อนข้างจำกัด เพราะก่อสร้างมาตั้งแต่สมัยเป็นสุขาภิบาล
สำหรับความต้องการของพี่น้องประชาชนในการใช้น้ำในเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อนั้น มีความต้องการประมาณ 250 ลูกบาศก์เมตรต่อวันถึงจะเพียงพอ เพราะฉะนั้นในโรงกรองเมื่อมีข้อจำกัดเช่นนี้ ทางเทศบาลเองก็พยายามที่จะหางบประมาณในการก่อสร้างโรงกรองน้ำหรือจัดซื้อโรงกรองน้ำสำเร็จรูปแบบนวัตกรรมใหม่ เพื่อนำมาช่วยเสริมในการกรองน้ำให้น้ำใสเพิ่มมากขึ้น
ขณะเดียวกัน ระบบส่งน้ำในเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ เป็นระบบท่อส่งแบบเก่า คือ ระบบท่อใยหิน ซึ่งอาจจะมีรอยรั่วผุพังในบางส่วน เราก็พยายามหางบประมาณในการเปลี่ยนท่อเป็นท่อ PVC ทดแทน ซึ่งในปีงบประมาณ 2563 นี้ ทางเทศบาลเมืองท่าบ่อ ก็ได้จัดทำงบประมาณในการเปลี่ยนท่อส่งน้ำจากท่อใยหินเป็นท่อ PVC แล้ว ซึ่งจะเป็นการส่งน้ำที่สะอาดไปสู่ปลายทางได้อย่างมีคุณภาพ
สุดท้ายคือการเพิ่มถังน้ำดีไว้ปลายทาง ซึ่งมีการทดสอบแล้วที่สาธารณสุขอำเภอท่าบ่อ ด้วยการสูบน้ำขึ้นไปพักไว้ที่ถังน้ำดี แล้วก็ปล่อยสู่ปลายทางให้ประชาชนได้ใช้น้ำที่สะอาด และจะจัดทำเพิ่มอีก 3 จุด โดยเฉพาะจุดปลายทางน้ำโมง, จุดปลายทางชุมชนนาดาว และที่วัดแก้วพิจิตร ซึ่งทั้ง 3 จุดนั้นน้ำยังไหลไม่ทั่วถึง
โดยเมื่อผู้สื่อข่าวตรวจสอบย้อนหลังไปพบว่ามีการชี้แจงในลักษณะเดียวกันมาโดยตลอดแต่น้ำประปาในเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อก็ยังสร้างปัญหาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนในเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อเช่นเดิม.