รมช.มนัญญา ปลื้มนายกรัฐมนตรีขานรับบรรเทาทุกข์ชาวสวนลำไยช่วยเยียวยาไร่ละ 2 พัน พร้อมสนับสนุนพ่อค้าจีนเข้าซื้อลำไยและผลไม้ตามแนว ศบค. ด้านสหกรณ์การเกษตรสันป่าตอง จำกัด รับซื้อลำไยจากสมาชิกมาอบแห้งส่งขายจีนแล้ว 150 ตัน เปิดประมูลรอบ 2 วันที่ 15 ส.ค.นี้ อีก 200 ตัน ช่วยดึงลำไยสดออกจากตลาด พยุงราคาผลผลิตในพื้นที่ไม่ให้ตกต่ำ
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า รู้สึกยินดีกับเกษตรกรชาวสวนลำไยที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตอบรับที่จะช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ ภายหลังที่ตนเองได้ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าสหกรณ์การเกษตรรับซื้อลำไยในโครงการสนับสนุนการกระจายผลไม้ของสถาบันเกษตรกร เพื่อรองรับผลกระทบจากโควิด-19 ที่สหกรณ์การเกษตรสันป่าตอง จำกัด จ.เชียงใหม่ และสหกรณ์การเกษตรประตูป่า จำกัด จ.ลำพูน เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา พบว่าขณะนี้เกษตรกรในพื้นที่ยังประสบปัญหาพ่อค้าจีน ที่เป็นผู้ค้าส่งออกลำไยไม่สามารถเข้ามารับซื้อผลผลิตได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรียินดีที่จะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งหาทางช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนลำไย
“ได้สะท้อนปัญหาและความเดือดร้อนของเกษตรกรนำเรียนต่อท่านนายกรัฐมนตรีเมื่อปลายเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งท่านนายกฯยินดีช่วยเหลือ และได้เตรียมพิจารณาอนุมัติงบประมาณเพื่อเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไยไร่ละ 2 พันบาท ไม่เกิน 25 ไร่ต่อราย ทั้งนี้ รายละเอียดมาตรการเยียวยาดังกล่าว ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะได้นำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป สำหรับกรณีพ่อค้าผู้ส่งออกจากประเทศจีน คาดว่าจะมีข่าวดีเร็ว ๆ นี้ โดยจะมีการหารือถึงมาตรการผ่อนผัน เพื่อเปิดให้มาเจรจาซื้อผลไม้ของไทย โดยปฏิบัติตามแนวทางของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)”นางสาวมนัญญา กล่าว
ด้านนางสุจิตรา มโน ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรสันป่าตอง จำกัด จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า สหกรณ์โชคดีที่ขณะที่มีพ่อค้าจีนที่อยู่เมืองไทยเข้ามาเจรจาซื้อขายลำไยอบแห้งกับสหกรณ์เพื่อส่งออกไปจีน ซึ่งในปีนี้อาจมีผู้ค้าลำไยและเกษตรกรบางกลุ่มประสบปัญหาเรื่องคู่ธุรกิจ ที่หายไปเนื่องจากผลกระทบของโควิด-19 แต่ทางสหกรณ์ยังทำธุรกิจส่งออกลำไยอบแห้งได้อยู่ โดยเบื้องต้นสหกรณ์ได้ทำสัญญาซื้อขายลำไยอบแห้งลอตแรกกับพ่อค้าไปแล้วจำนวน 150 ตัน หรือประมาณ 10 ตู้คอนเทนเนอร์ ส่งมอบวันสุดท้าย 4 ก.ย.63 และรอบที่ 2 สหกรณ์กำลังจะเคาะประมูลอีก 200 ตัน เมื่อวันที่ 15 ส.ค.63 โดยราคาที่จำหน่ายเกรด AA จะจำหน่ายราคา 67 บาทต่อกก. เกรด A กก.ละ 36 บาท และเกรด B กก.ละ 25 บาท โดยลำไยสดที่นำมาอบแห้ง ทางสหกรณ์จะรับซื้อผลผลิตลำไยจากสมาชิกในราคานำตลาดประมาณ 1-2 บาท / กก.
ผู้จัดการสหกรณ์กล่าวว่า ที่ผ่านมา รมช.มนัญญา ได้มาตรวจเยี่ยมสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการกระจายลำไยออกนอกแหล่งผลิตที่จังหวัดเชียงใหม่ และเห็นว่าสหกรณ์สันป่าตองมีศักยภาพในการทำธุรกิจลำไยอบแห้งและความพร้อม เนื่องจากมีตู้อบลำไย 18 ตู้ สามารถรองรับผลผลิตได้ถึง 200 ตัน/วัน ซึ่งปีนี้ลำไยจะออกมากตั้งแต่ปลายเดือนก.ค.–ส.ค. ทางสหกรณ์จึงเปิดรับซื้อลำไยรูดร่วงจากสมาชิกได้ประมาณวันละ 80-90 ตัน เพื่อนำมาอบแห้ง และขายลำไยอบแห้งทั้งเปลือกให้กับพ่อค้าผู้ส่งออก ขนส่งโดยใช้รถคอนเทนเนอร์ ซึ่งทางรมช.มนัญญา รับที่จะช่วยเหลือสนับสนุนรถบรรทุกห้องเย็น 6 ล้อ โดยจัดสรร เงินอุดหนุนให้ส่วนหนึ่งและสหกรณ์สมทบเพิ่มเติม เพื่อให้การขนส่งสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น และสนับสนุนสหกรณ์ให้ดูแลช่วยเหลือสมาชิกที่มีประมาณ 10,000 ราย ซึ่งเป็นเกษตรกรชาวสวนลำไยในพื้นที่อำเภอสันป่าตอง ในการกระจายผลผลิตสู่ตลาดได้ทันและไม่เกิดความเสียหายระหว่างการขนส่งอีกด้วย
“ได้สะท้อนปัญหาและความเดือดร้อนของเกษตรกรนำเรียนต่อท่านนายกรัฐมนตรีเมื่อปลายเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งท่านนายกฯยินดีช่วยเหลือ และได้เตรียมพิจารณาอนุมัติงบประมาณเพื่อเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไยไร่ละ 2 พันบาท ไม่เกิน 25 ไร่ต่อราย ทั้งนี้ รายละเอียดมาตรการเยียวยาดังกล่าว ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะได้นำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป สำหรับกรณีพ่อค้าผู้ส่งออกจากประเทศจีน คาดว่าจะมีข่าวดีเร็ว ๆ นี้ โดยจะมีการหารือถึงมาตรการผ่อนผัน เพื่อเปิดให้มาเจรจาซื้อผลไม้ของไทย โดยปฏิบัติตามแนวทางของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)”นางสาวมนัญญา กล่าว
ด้านนางสุจิตรา มโน ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรสันป่าตอง จำกัด จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า สหกรณ์โชคดีที่ขณะที่มีพ่อค้าจีนที่อยู่เมืองไทยเข้ามาเจรจาซื้อขายลำไยอบแห้งกับสหกรณ์เพื่อส่งออกไปจีน ซึ่งในปีนี้อาจมีผู้ค้าลำไยและเกษตรกรบางกลุ่มประสบปัญหาเรื่องคู่ธุรกิจ ที่หายไปเนื่องจากผลกระทบของโควิด-19 แต่ทางสหกรณ์ยังทำธุรกิจส่งออกลำไยอบแห้งได้อยู่ โดยเบื้องต้นสหกรณ์ได้ทำสัญญาซื้อขายลำไยอบแห้งลอตแรกกับพ่อค้าไปแล้วจำนวน 150 ตัน หรือประมาณ 10 ตู้คอนเทนเนอร์ ส่งมอบวันสุดท้าย 4 ก.ย.63 และรอบที่ 2 สหกรณ์กำลังจะเคาะประมูลอีก 200 ตัน เมื่อวันที่ 15 ส.ค.63 โดยราคาที่จำหน่ายเกรด AA จะจำหน่ายราคา 67 บาทต่อกก. เกรด A กก.ละ 36 บาท และเกรด B กก.ละ 25 บาท โดยลำไยสดที่นำมาอบแห้ง ทางสหกรณ์จะรับซื้อผลผลิตลำไยจากสมาชิกในราคานำตลาดประมาณ 1-2 บาท / กก.
ผู้จัดการสหกรณ์กล่าวว่า ที่ผ่านมา รมช.มนัญญา ได้มาตรวจเยี่ยมสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการกระจายลำไยออกนอกแหล่งผลิตที่จังหวัดเชียงใหม่ และเห็นว่าสหกรณ์สันป่าตองมีศักยภาพในการทำธุรกิจลำไยอบแห้งและความพร้อม เนื่องจากมีตู้อบลำไย 18 ตู้ สามารถรองรับผลผลิตได้ถึง 200 ตัน/วัน ซึ่งปีนี้ลำไยจะออกมากตั้งแต่ปลายเดือนก.ค.–ส.ค. ทางสหกรณ์จึงเปิดรับซื้อลำไยรูดร่วงจากสมาชิกได้ประมาณวันละ 80-90 ตัน เพื่อนำมาอบแห้ง และขายลำไยอบแห้งทั้งเปลือกให้กับพ่อค้าผู้ส่งออก ขนส่งโดยใช้รถคอนเทนเนอร์ ซึ่งทางรมช.มนัญญา รับที่จะช่วยเหลือสนับสนุนรถบรรทุกห้องเย็น 6 ล้อ โดยจัดสรร เงินอุดหนุนให้ส่วนหนึ่งและสหกรณ์สมทบเพิ่มเติม เพื่อให้การขนส่งสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น และสนับสนุนสหกรณ์ให้ดูแลช่วยเหลือสมาชิกที่มีประมาณ 10,000 ราย ซึ่งเป็นเกษตรกรชาวสวนลำไยในพื้นที่อำเภอสันป่าตอง ในการกระจายผลผลิตสู่ตลาดได้ทันและไม่เกิดความเสียหายระหว่างการขนส่งอีกด้วย