เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 17 ส.ค. ที่ บก.ปอท.นายพัฒนพิทักษ์ อิสริยเกษม อายุ 34 ปี เจ้าของโรงแรม” The X 10 private Pool Villa & Resort Khao yai”เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.ณัฐพล ทะเลน้อย รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. แจ้งความกรณีโดนคนร้ายแอบอ้างเป็นตัวแทนรีสอร์ทเอาไปหลอกขายนักท่องเที่ยวที่ต้องการที่พัก
นายพัฒนพิทักษ์ กล่าวว่าเมื่อวันที่ 12 ส.ค. ได้รับการติดต่อจากนักท่องเที่ยวหลายรายที่ประสงค์จะจองห้องพักโทรศัพท์มา บอกว่าได้ติดต่อซื้อห้องพักรีสอร์ทเราผ่านเฟซบุ๊ก 2 บัญชีชื่อ” Aon Aonrawan “ และ “Watchareeporn Onnom”มีการจ่ายเงินมัดจำไปแล้ว ตั้งแต่ 2,000 - 6,000 บาท
แต่เมื่อตรวจสอบพบว่าเอกสารการจองห้องพักไม่ใช่ของเราและไม่ใช่เอเยนซี่เราด้วย
เมื่อตรวจสอบเฟซบุ๊กดังกล่าวมีการก๊อปปี้รูปภาพของรีสอร์ทเราไปแอบอ้าง โดยที่ทางโรงแรมของเราไม่มีส่วนรู้เห็นแต่อย่างใด
เบื้องต้นมีผู้เสียหายหลงโอนเงินมัดจำค่าห้องพักไปให้คนร้ายประมาณ 16 ราย มูลค่าความเสียหายร่วม 5 หมื่นบาท
นายพัฒนพิทักษ์ กล่าวต่อ ขณะนี้บรรดาที่พักที่เขาใหญ่เกิดเหตุลักษณะนี้มาได้ประมาณเดือนกว่าแล้ว มีตั้งแต่โรมแรมขนาดใหญ่ลงมาถึงโรงแรมรีสอร์ทขนาดรองๆ ลงมา รีสอร์ทของตนมีขนาดความจุรองรับนักท่องเที่ยวได้ 150 คน เปิดดำเนินงานมาตั้งแต่ปลายปี 62 เท่าที่ทราบโรงแรมในเขาใหญ่โดนคนร้ายแอบอ้างขายห้องพัก ของตนเป็นแห่งที่ 6 แล้ว ในส่วนของโรงแรมอื่นได้มีการแจ้งความทั้งในพื้นที่และบางแห่งก็มาแจ้งที่ ปอท.
ขณะนี้ที่พักในเขาใหญ่ได้แจ้งเตือนนักท่องเที่ยวในเพจเฟซบุ๊ก ขอให้ตรวจสอบให้ดี เช็คดูว่าใครเป็นเอเยนซี่เราบ้าง จะได้ป้องกันถูกโกง อย่าหลงเชื่อแค่ราคาที่ถูกกว่า ซึ่งเป็นกลโกงของคนร้ายที่จะตั้งราคาที่ถูกกว่าอ้างว่าได้ส่วนลดมาถูกกว่าถึงนำมาขายลดให้ได้ครึ่งราคาถึง 80% ก็มี
วิธีการที่จะตรวจสอบให้ชัวร์ว่าเป็นตัวแทนจำหน่ายแท้ก็อันดับแรกสอบถามชื่อในรูปภาพที่ส่งมาให้ดูว่าเป็นรีสอร์ทอะไร จากนั้นแคปฯ ข้อความที่คุยนั้นเอาไปสอบถามรีสอร์ทในเพจจริงดูก่อนโอนเงินมัดจำ ปกติเพจรีสอร์ทจริงจะมีคนติดตามไม่น้อยกว่า 1 หมื่นคนขึ้นไป ระยะเวลาเปิดเพจก็จะมีมาแล้วระยะยาวนานระดับหนึ่ง จะช่วยในการตรวจสอบได้พอสมควร
ตนสอบถามจากนักท่องเที่ยวที่โดนหลอกพบว่าจะไม่ตมีการเช็คตรวจสอบกับเพจโรงแรมจริงๆ เลย แค่เห็นในโพสต์ของคนร้ายใน กลุ่มเฟซบุ๊กท่องเที่ยวต่างๆ เช่น กลุ่ม”ที่กินที่เที่ยวที่พักเขาใหญ่”ที่มีคนติดตามจำนวนหลักแสนคน ว่ามีราคาถูกกว่า 80% เลยรีบจองรีบโอนเงินมัดจำไปทันที
ตนพยายามติดตามข่าวเรื่องนี้มาตลอด ไม่คิดว่ารีสอร์ทของเราจะโดนแต่ก็มาโดนแอบอ้างจนได้ วันนี้จึงขอหลักต่างๆ จากผู้เสียหายที่ไปแจ้งความท้องที่ต่างๆ ที่ได้รับความเสียหายโดนหลอกลวงมาแจ้งความพนักงานสอบสวน บก.ปอท.เพื่อให้ดำเนินคดีเอาผิดถึงที่สุด
ฝากเตือนคนร้ายอย่าหากินด้วยวิธีนี้เลย ตำรวจสามารถสืบสวนติดตามจับกุมได้ สงสารแต่นักท่องเที่ยวที่เขาอยากมาพักผ่อนไม่ควรมาหลอกลวงเขาเลยทำให้การท่องเที่ยวเสียหาย
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ลงประจำวันและรวบรวมหลักฐานส่งให้ฝ่ายสืบสวนเพื่อตรวจสอบและจะประสานสถานีตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นายพัฒนพิทักษ์ กล่าวว่าเมื่อวันที่ 12 ส.ค. ได้รับการติดต่อจากนักท่องเที่ยวหลายรายที่ประสงค์จะจองห้องพักโทรศัพท์มา บอกว่าได้ติดต่อซื้อห้องพักรีสอร์ทเราผ่านเฟซบุ๊ก 2 บัญชีชื่อ” Aon Aonrawan “ และ “Watchareeporn Onnom”มีการจ่ายเงินมัดจำไปแล้ว ตั้งแต่ 2,000 - 6,000 บาท
แต่เมื่อตรวจสอบพบว่าเอกสารการจองห้องพักไม่ใช่ของเราและไม่ใช่เอเยนซี่เราด้วย
เมื่อตรวจสอบเฟซบุ๊กดังกล่าวมีการก๊อปปี้รูปภาพของรีสอร์ทเราไปแอบอ้าง โดยที่ทางโรงแรมของเราไม่มีส่วนรู้เห็นแต่อย่างใด
เบื้องต้นมีผู้เสียหายหลงโอนเงินมัดจำค่าห้องพักไปให้คนร้ายประมาณ 16 ราย มูลค่าความเสียหายร่วม 5 หมื่นบาท
นายพัฒนพิทักษ์ กล่าวต่อ ขณะนี้บรรดาที่พักที่เขาใหญ่เกิดเหตุลักษณะนี้มาได้ประมาณเดือนกว่าแล้ว มีตั้งแต่โรมแรมขนาดใหญ่ลงมาถึงโรงแรมรีสอร์ทขนาดรองๆ ลงมา รีสอร์ทของตนมีขนาดความจุรองรับนักท่องเที่ยวได้ 150 คน เปิดดำเนินงานมาตั้งแต่ปลายปี 62 เท่าที่ทราบโรงแรมในเขาใหญ่โดนคนร้ายแอบอ้างขายห้องพัก ของตนเป็นแห่งที่ 6 แล้ว ในส่วนของโรงแรมอื่นได้มีการแจ้งความทั้งในพื้นที่และบางแห่งก็มาแจ้งที่ ปอท.
ขณะนี้ที่พักในเขาใหญ่ได้แจ้งเตือนนักท่องเที่ยวในเพจเฟซบุ๊ก ขอให้ตรวจสอบให้ดี เช็คดูว่าใครเป็นเอเยนซี่เราบ้าง จะได้ป้องกันถูกโกง อย่าหลงเชื่อแค่ราคาที่ถูกกว่า ซึ่งเป็นกลโกงของคนร้ายที่จะตั้งราคาที่ถูกกว่าอ้างว่าได้ส่วนลดมาถูกกว่าถึงนำมาขายลดให้ได้ครึ่งราคาถึง 80% ก็มี
วิธีการที่จะตรวจสอบให้ชัวร์ว่าเป็นตัวแทนจำหน่ายแท้ก็อันดับแรกสอบถามชื่อในรูปภาพที่ส่งมาให้ดูว่าเป็นรีสอร์ทอะไร จากนั้นแคปฯ ข้อความที่คุยนั้นเอาไปสอบถามรีสอร์ทในเพจจริงดูก่อนโอนเงินมัดจำ ปกติเพจรีสอร์ทจริงจะมีคนติดตามไม่น้อยกว่า 1 หมื่นคนขึ้นไป ระยะเวลาเปิดเพจก็จะมีมาแล้วระยะยาวนานระดับหนึ่ง จะช่วยในการตรวจสอบได้พอสมควร
ตนสอบถามจากนักท่องเที่ยวที่โดนหลอกพบว่าจะไม่ตมีการเช็คตรวจสอบกับเพจโรงแรมจริงๆ เลย แค่เห็นในโพสต์ของคนร้ายใน กลุ่มเฟซบุ๊กท่องเที่ยวต่างๆ เช่น กลุ่ม”ที่กินที่เที่ยวที่พักเขาใหญ่”ที่มีคนติดตามจำนวนหลักแสนคน ว่ามีราคาถูกกว่า 80% เลยรีบจองรีบโอนเงินมัดจำไปทันที
ตนพยายามติดตามข่าวเรื่องนี้มาตลอด ไม่คิดว่ารีสอร์ทของเราจะโดนแต่ก็มาโดนแอบอ้างจนได้ วันนี้จึงขอหลักต่างๆ จากผู้เสียหายที่ไปแจ้งความท้องที่ต่างๆ ที่ได้รับความเสียหายโดนหลอกลวงมาแจ้งความพนักงานสอบสวน บก.ปอท.เพื่อให้ดำเนินคดีเอาผิดถึงที่สุด
ฝากเตือนคนร้ายอย่าหากินด้วยวิธีนี้เลย ตำรวจสามารถสืบสวนติดตามจับกุมได้ สงสารแต่นักท่องเที่ยวที่เขาอยากมาพักผ่อนไม่ควรมาหลอกลวงเขาเลยทำให้การท่องเที่ยวเสียหาย
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ลงประจำวันและรวบรวมหลักฐานส่งให้ฝ่ายสืบสวนเพื่อตรวจสอบและจะประสานสถานีตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุดำเนินการตามกฎหมายต่อไป