“กาแฟใส่มะนาว” ไม่ช่วยแก้ปวดไมเกรน

ไมเกรน โรคเรื้อรังที่เป็นๆ หายๆ ซึ่งเพจ Fda thai ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กระบุ ปวดศีรษะไมเกรน เป็นโรคยอดฮิตที่คนนิยมเป็น หลายคนจึงหาวิธีบรรเทาอาการปวดศีรษะไมเกรนด้วยตนเอง เช่น การนำกาแฟใส่มะนาวดื่มเพื่อบรรเทาอาการปวด จะเป็นจริงหรือไม่ ...มีคำตอบ ปวดศีรษะไมเกรน (MIGRAINE HEADACHE) เป็นผลจากความผิดปกติชั่วคราวในการทำงานของสมองที่มีผลกระทบต่อเส้นประสาท สารเคมี และหลอดเลือดในสมอง แต่สาเหตุที่แท้จริงยังไม่แน่ชัด อาการปวดเกิดจากการหลั่งสารสื่อประสาทบางชนิด มีผลทำให้หลอดเลือดสมองเกิดการขยายตัว มักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย จะมีอาการปวดศีรษะข้างเดียวแล้วอาจลามมาปวดอีกข้างหนึ่งได้ มีอาการปวดแบบตุ้บ ๆ เป็นระยะ ๆ หรือปวดแบบตื้อ ๆ อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ตาสู้แสงไม่ได้ หากนั่งพัก หรือนั่งอยู่นิ่ง ๆ อาการอาจดีขึ้นได้ แล้วกาแฟใส่มะนาวสามารถรักษาอาการปวดศีรษะไมเกรนได้จริงหรือไม่ กาแฟ มีสารตัวหนึ่งที่ชื่อว่า กาเฟอีน (Caffeine) โดยกาเฟอีน มีฤทธิ์ในการกระตุ้นประสาท ทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า รู้สึกตื่นตัว นอกจากนี้ยังทำให้หลอดเลือดหดตัวได้ ดังนั้น หากดื่มกาแฟในปริมาณที่เหมาะสม (1 แก้วต่อวัน) จะสามารถบรรเทาอาการปวดศีรษะไมเกรนได้ แต่ก็ไม่ควรดื่มกาแฟมากเกินไปเพราะจะกระตุ้นการเกิดกระตุ้นไมเกรนได้ มะนาวมีประโยชน์มากมาย สรรพคุณทางยาของมะนาวตามข้อมูลสมุนไพรในงานสาธารณสุขมูลฐาน คือ ระคายคอจากเสมหะ แต่หากนำมาใส่ในกาแฟเพื่อหวังผลบรรเทาอาการ ปวดศีรษะไมเกรนแล้วนั้นไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะมะนาว มีสารไทรามีนเป็นส่วนประกอบ ซึ่งสารนี้สามารถกระตุ้นการเกิดไมเกรนได้ ดังนั้น การกินกาแฟผสมมะนาวเพื่อบรรเทาอาการปวดศีรษะไมเกรนนั้นไม่เป็นความจริง หากปวดศีรษะไมเกรน แนะนำให้กินยาแก้ปวด เช่น ยาลดการอักเสบที่ไม่ไช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เป็นต้น ยาที่เฉพาะเจาะจงกับไมเกรน เช่น ยากลุ่มทริปแทน (triptan) หรือ ยาที่มีส่วนผสมของเออโกทามีน (ergotamine) นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดการปวดศีรษะไมเกรน เช่น ความร้อน ความเครียด อาหารบางชนิด เช่น ชีส เป็นต้น และหากอาการไม่ดีขึ้นแนะนำให้ไปพบแพทย์