วันนี้ 15 สิงหาคม 2563 ดร. อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า นายกริชเพชร ชัยช่วย รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านปลอดภัย คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า พร้อมด้วยที่ปรึกษาโครงการมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา ผู้บริหาร บริษัท เบต้า เอ็นเนอร์ยี่โซลูชั่น จำกัด และบริษัทครอบครัวขนส่ง (2002) จำกัด ร่วมทดสอบเรือไฟฟ้า "โครงการจัดหาระบบเรือโดยสารไฟฟ้าต้นแบบในคลองแสนแสบ เพื่อประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม" ณ ท่าเรือผ่านฟ้าลีลาศ
ดร.อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า โครงการจัดหาระบบเรือโดยสารไฟฟ้าต้นแบบในคลองแสนแสบ เพื่อประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ถือเป็นการบูรณาการร่วมกัน ระหว่าง กรมเจ้าท่า กทม. และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยจะมีการทดลองอีกสักระยะ จนกว่าจะสมบูรณ์แบบ 100 % โดยหากโครงการดังกล่าวเสร็จสมบูรณ์ จะนำมาให้ผู้ประกอบการได้ต่อเรือเพื่อใช้ในคลองแสนแสบต่อไป โดยบริษัท ครอบครัวขนส่ง (2002) จำกัด ได้ขานรับนโยบาย ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำ หากมีการเปลี่ยนมาใช้เรือไฟฟ้ารูปแบบใหม่ ให้คงราคาค่าโดยสารตามเดิม เพื่อไม่ให้ส่งกระทบต่อประชาชน และในปี 2564 กรมเจ้าท่ามีแผนที่จะติดตั้งกล้อง CCTV ซึ่งเดิมมีการติดตั้งอยู่แล้ว 114 ตัว โดยจะติดตั้งใหม่อีก 188 ตัว ให้ครอบคลุมทั้ง 28 ท่า ในคลองแสนแสบ
นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า จากการทดสอบเรือโดยสารไฟฟ้าต้นแบบในคลองแสนแสบ กรมเจ้าท่าได้ทดสอบการเดินเรือไฟฟ้า คลองแสนแสบเสมือนจริง เส้นทางเดินเรือ จากท่าเรือผ่านฟ้าลีลาศ ถึง ท่าเรือ Center Pier (ประตูน้ำ) รวมระยะทาง 4 กิโลเมตร โดยคุณลักษณะของเรือ วัสดุเรือทำจากจากอลูมิเนียม บรรทุกผู้โดยสาร 100 คน และมีคนประจำเรือ 3 คน สามารถเดินทางได้ 60 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (ใช้เวลาชาร์จประมาณ 2 ชั่วโมง)โดยใช้แบตเตอรี่ชนิด Lithium (LTO) ความจุ 135.75 Kwx2 ชุด โดยได้ทดลองวิ่งเพื่อทดสอบระบบการควบคุมเรือ และประสิทธิภาพของเรือ จากการทดสอบเรือไฟฟ้าดังกล่าวสามารถทำความเร็วของเรือได้ไม่น้อยกว่า 20 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งเรือสามารถทำความเร็วได้ดี และไม่มีมลพิษทางเสียง อย่างไรก็ตาม จะทำการทดสอบและปรับปรุงเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยในการเดินเรือของกรมเจ้าท่า และหากเสร็จสมบูรณ์ในอนาคตจะนำไปเป็นต้นแบบให้กับผู้ประกอบการนำไปผลิตและปรับเปลี่ยนมาใช้เรือไฟฟ้า ต่อไปในอนาคต เรือโดยสารในคลองแสนแสบจะเปลี่ยนเป็นเรือไฟฟ้าทั้งหมด
"มีแผนจะคืนชีวิตให้กับคลองแสนแสบ โดยได้ต่อเรือท้องแบนเอนกประสงค์ จำนวน 3 ลำ เพื่อดำเนินการเก็บขยะบริเวณคลองแสนแสบ และปรับปรุงทัศนียภาพคลองแสนแสบ เพื่อให้ประชาชนชุมชนริมคลองแสนแสบมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอีกด้วย"
ดร.อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า โครงการจัดหาระบบเรือโดยสารไฟฟ้าต้นแบบในคลองแสนแสบ เพื่อประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ถือเป็นการบูรณาการร่วมกัน ระหว่าง กรมเจ้าท่า กทม. และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยจะมีการทดลองอีกสักระยะ จนกว่าจะสมบูรณ์แบบ 100 % โดยหากโครงการดังกล่าวเสร็จสมบูรณ์ จะนำมาให้ผู้ประกอบการได้ต่อเรือเพื่อใช้ในคลองแสนแสบต่อไป โดยบริษัท ครอบครัวขนส่ง (2002) จำกัด ได้ขานรับนโยบาย ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำ หากมีการเปลี่ยนมาใช้เรือไฟฟ้ารูปแบบใหม่ ให้คงราคาค่าโดยสารตามเดิม เพื่อไม่ให้ส่งกระทบต่อประชาชน และในปี 2564 กรมเจ้าท่ามีแผนที่จะติดตั้งกล้อง CCTV ซึ่งเดิมมีการติดตั้งอยู่แล้ว 114 ตัว โดยจะติดตั้งใหม่อีก 188 ตัว ให้ครอบคลุมทั้ง 28 ท่า ในคลองแสนแสบ
นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า จากการทดสอบเรือโดยสารไฟฟ้าต้นแบบในคลองแสนแสบ กรมเจ้าท่าได้ทดสอบการเดินเรือไฟฟ้า คลองแสนแสบเสมือนจริง เส้นทางเดินเรือ จากท่าเรือผ่านฟ้าลีลาศ ถึง ท่าเรือ Center Pier (ประตูน้ำ) รวมระยะทาง 4 กิโลเมตร โดยคุณลักษณะของเรือ วัสดุเรือทำจากจากอลูมิเนียม บรรทุกผู้โดยสาร 100 คน และมีคนประจำเรือ 3 คน สามารถเดินทางได้ 60 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (ใช้เวลาชาร์จประมาณ 2 ชั่วโมง)โดยใช้แบตเตอรี่ชนิด Lithium (LTO) ความจุ 135.75 Kwx2 ชุด โดยได้ทดลองวิ่งเพื่อทดสอบระบบการควบคุมเรือ และประสิทธิภาพของเรือ จากการทดสอบเรือไฟฟ้าดังกล่าวสามารถทำความเร็วของเรือได้ไม่น้อยกว่า 20 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งเรือสามารถทำความเร็วได้ดี และไม่มีมลพิษทางเสียง อย่างไรก็ตาม จะทำการทดสอบและปรับปรุงเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยในการเดินเรือของกรมเจ้าท่า และหากเสร็จสมบูรณ์ในอนาคตจะนำไปเป็นต้นแบบให้กับผู้ประกอบการนำไปผลิตและปรับเปลี่ยนมาใช้เรือไฟฟ้า ต่อไปในอนาคต เรือโดยสารในคลองแสนแสบจะเปลี่ยนเป็นเรือไฟฟ้าทั้งหมด
"มีแผนจะคืนชีวิตให้กับคลองแสนแสบ โดยได้ต่อเรือท้องแบนเอนกประสงค์ จำนวน 3 ลำ เพื่อดำเนินการเก็บขยะบริเวณคลองแสนแสบ และปรับปรุงทัศนียภาพคลองแสนแสบ เพื่อให้ประชาชนชุมชนริมคลองแสนแสบมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอีกด้วย"