เกษตรฯ สั่ง Fruit Board ประชุมเยียวยาชาวสวนลำไย ปี 63 เสนอ ครม.วงเงินกว่า 3 พันล้านบาท
เมื่อวันที่ 13 ส.ค. นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) ครั้งที่ 6/2563 ณ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า ได้รับมอบหมายจาก ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมีความเป็นห่วงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และสถานการณ์ผลผลิตลำไยภาคเหนือและภาคตะวันออกในปีนี้มีการเก็บเกี่ยวในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน เนื่องมาจากสภาพอากาศที่ร้อนผิดปกติอุณหภูมิสูงอย่างต่อเนื่องสลับกับอากาศที่หนาวเย็นฉับพลันในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรชาวสวนลำไยหลายประการ
ประกอบด้วย 1.ธุรกิจการนำเข้าลำไยไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนชะลอตัวลง จากนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมการปลูกลำไยในประเทศมากขึ้นจากเดิม 2 ล้านไร่เป็น 10 ล้านไร่ในปัจจุบัน และยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง 2.การขาดแคลนแรงงานต่างด้าวที่เป็นแรงงานฝีมือเฉพาะในการเก็บเกี่ยว คัดแยก บรรจุหีบห่อ ทำให้เกษตรกรต้องจ้างแรงงานในประเทศมาทดแทนซึ่งมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง 3.การคมนาคมขนส่งทางบกหรือทางน้ำในเส้นทางปกติยังมีค่าใช้จ่ายเท่าเดิม และใช้เวลาในการขนส่งนานเพราะด่านการค้าชายแดนเพิ่งเริ่มผ่อนคลาย ในขณะที่ลำไยเริ่มสุกแก่เต็มที่ เกษตรกรต้องเร่งระบายผลผลิต และ4.ผู้ประกอบการชาวจีนซึ่งเป็นตลาดรับซื้อลำไยอันดับ 1 ยังไม่สามารถเดินทางมาซื้อขายลำไยได้โดยสะดวก หรือมีการค้าล่วงหน้าเพื่อประกันความเสี่ยงให้แก่เกษตรกรได้เหมือนอย่างเช่นฤดูกาลผลิตที่ผ่านมา เห็นได้ว่าลำไยเป็นไม้ผลที่ลักษณะการบริหารจัดการแบบจำเพาะแตกต่างจากไม้ผลชนิดอื่น
จากสถานการณ์ดังกล่าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) ได้มีมติเห็นชอบโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี 2563 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนลำไยให้สามารถฟื้นฟูการผลิตลำไยที่ได้รับผลกระทบทั้งด้านการผลิตและการตลาด รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรมีแนวทางปฏิบัติต่อสวนลำไยเพื่อประกอบอาชีพชาวสวนลำไยได้อย่างยั่งยืน ซึ่งมีเป้าหมายช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี 2562/2563 ที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรทุกครัวเรือน โดยให้ความช่วยเหลือในอัตราไร่ละ 2,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่ และเป็นพื้นที่ลำไยที่ให้ผลผลิตแล้ว (อายุต้นลำไยตั้งแต่ 5 ปี ขึ้นไป)
ด้านนายทวี มาสขาว รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า เบื้องต้นกรมส่งเสริมการเกษตร ได้สำรวจข้อมูลเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี 2562/2563 โดยใช้ฐานข้อมูลทะเบียนเกษตรกรชาวสวนลำไยทั้งหมด ณ วันที่ 30 เมษายน 2563 พบว่า มีครัวเรือนเกษตรกรชาวสวนลำไยทั้งประเทศทั้งสิ้นประมาณ 128,099 ครัวเรือน เนื้อที่ปลูก 871,716 ไร่ ทั้งนี้ มีเกษตรกรมาขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรแล้ว ประมาณร้อยละ 80 ยังเหลืออีกร้อยละ 20 ซึ่งจะเร่งสำรวจข้อมูลให้เป็นปัจจุบันพร้อมทั้งดำเนินการสรุปและส่งข้อมูลเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี 2562/63 ที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรทุกครัวเรือน ส่งให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สำนักงานใหญ่ เพื่อดำเนินการจ่ายเงินให้เกษตรกร
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตร ธ.ก.ส. กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะประชาสัมพันธ์โครงการ รวมทั้งชี้แจงให้เกษตรกรทราบ โดยผู้มีสิทธิ์ต้องเป็นเกษตรกรชาวสวนลำไยที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรปี 2562/63 กับกรมส่งเสริมการเกษตรภายในวันที่ 15 กันยายน 2563 ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่เดือนสิงหาคม-ธันวาคม 2563 คาดว่าจะใช้งบประมาณทั้งสิ้นเป็นเงิน 3,440,049,726 บาท ก่อนเตรียมเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป