ร่วมสมัย/ชะมวง พฤกษาถิ่น: “ส่วนใหญ่เป็นสิ่งที่เขาใช้สอยอยู่ในชีวิตประจำวัน...จึงเป็นแรงบันดาลใจให้ข้าพเจ้าเริ่มงานส่งเสริมการทอผ้าไหมขึ้น เพื่อให้ชาวนาชาวไร่นำความสามารถของพวกเขาเองมายกระดับความเป็นอยู่ รวมทั้งเพิ่มพูนศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจในงานของเขา จนในที่สุดจึงเกิดเป็นมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ” พระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในพิธีเปิดการประชุมและนิทรรศการเรื่อง “มรดกสิ่งทอของเอเชีย : หัตถกรรมและอุตสาหกรรม” ณ ศาลา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม 2535 เป็นเวลาหลายศตวรรษที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจและมีพระราชปณิธานในการส่งเสริมงานศิลปาชีพด้านผ้าไหมไทย จนก่อเกิดมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในขณะที่ภาคราชการมีการเผยแพร่พระราชกรณียกิจในรูปกิจกรรมต่างๆ ดังนิทรรศการ “สายธารพระเมตตา จากภูมิปัญญา สู่สากล” เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2563 จัดโดยสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย เพื่อแสดงถึงพระอัจฉริยภาพและพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่มีต่อผ้าไทย ส่งเสริมอาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมแก่พสกนิกร อาชีพหัตถกรรมการถักทอผืนผ้าไหม ให้มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ประจำถิ่นและมรดกของประเทศไทย นิทรรศการ “สายธารพระเมตตา จากภูมิปัญญา สู่สากล” ไม่เพียงบอกเล่าเรื่องทรงส่งเสริมผ้าไหมไทยเท่านั้น สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยยังได้นำผ้าไหมมาสืบสานและต่อยอด ด้วยการให้นักดีไซเนอร์ไทยชื่อดังรังสรรค์ออกแบบผ้าไทยไปสู่สากล อวดสายตาชาวต่างชาติบนเวทีประกวดต่างๆ จะเห็นได้ในนิทรรศการภายใต้แนวคิด “ล้ำค่าผ้าไหมไทยสู่สากล” โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 การผลิตผ้าไหมไทยนำเสนอเรื่องราวการผลิตผ้าไหมไทย แสดงถึงชีพจักรไหม แสดงการย้อมสี การทอผ้าไหม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ้าไหมมัดหมี่ ลวดลายมัดหมี่ที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ เป็นลวดลายที่มาจากธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ขนบธรรมเนียมประเพณีและความเชื่อ อาทิ ลายดอกแก้ว ลายต้นสน ลายนาค ลายใบไผ่ ลายโคมห้า ลายขันหมากเบ็ง (ลายบายศรี) เป็นต้น ซึ่งเป็นศิลปะการทอผ้าที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ยากต่อการลอกเลียนให้เหมือนเดิมได้ในปัจจุบัน ส่วนที่ 2 การแสดงหุ่นโชว์ชุดราตรีผ้าไหมไทยที่เคยแสดงในงาน “Thai Night” งานเลี้ยงต้อนรับสาวงามผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดยชุดทั้งหมดตัดเย็บจากผ้าไหมมัดหมี่ของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “มงคล” ไล่เรียงตามสีมงคลประจำวันของไทย จากวันจันทร์ไปจนถึงวันอาทิตย์ได้แก่ สีเหลือง สีชมพู สีเขียว สีส้ม สีฟ้า สีม่วง และสีแดง ในนิทรรศการ มีการนำชุดฝีพระหัตถ์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา อันวิจิตรงดงามมาจัดแสดง ทรงเป็นศิลปินศิลปาธร พระอัจฉริยภาพด้านการออกแบบ ซึ่งมีเค้าโครงมาจากชุดในคอลเลคชัน SIRIVANNAVARI Couture ได้แรงบันดาลพระทัยมาจากฉลองพระองค์ของสมเด็จฯ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ใช้เทคนิคการร้อยและปักลูกปัดแบบ Haute Couture มีการใช้ผ้าไหมมัดหมี่และผ้าไหมแพรวามาผสมกันทุกพื้นที่บนผืนผ้า และถ่ายทอดความเป็น “นกยูง” สัตว์ที่สะท้อนถึงความสง่างามและความอ่อนโยนในแบบผู้หญิงที่มีความสวยงาม และโดดเด่นในรูปแบบของตัวเอง นับเป็นผลงานที่ทรงรังสรรค์ทุกรายละเอียดด้วยความประณีตอย่างสูง นอกจากนี้ นิทรรศการยังนำผลงานของ 19 ดีไซเนอร์ไทยชื่อดัง ผู้รังสรรค์ผ้าไหมไทยมาจัดแสดง เชิญชวนไปชมกันได้ จัดแสดงถึงวันที่ 23 สิงหาคมนี้ ที่หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน มาร่วมกันสืบสานผ้าไหมไทย เทิดไท้สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง สายธารพระเมตตา จากภูมิปัญญาสิ่งทอสู่สากล