ถึงโอกาสสำคัญวันแม่ขอต้อนรับวันแม่ที่แสนอบอุ่น กับการเซอร์ไพรส์ 2 พิธีกรเพื่อนซี้อย่าง "อั๋น ภูวนาท" และ "เอิ๊ก พรหมพร" ด้วยแขกรับเชิญสุดพิเศษ "คุณแม่มาลีรัตน์ คุนผลิน" และ "คุณแม่สุภาพ ยูวะเวส" ที่จะมาเผยหมดเปลือก ในรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 ถึงวีรกรรมสุดแสบของลูกๆ ที่จำไม่เคยลืม พร้อมวินาทีสุดซึ้ง กับความประทับใจระหว่างคุณแม่กับสองพิธีกร อั๋น-เอิ๊ก ถาม อยากให้คุณแม่เมาท์ลูกสาวนิดนึง ตอนเด็กๆเป็นยังไงบ้าง ? คุณแม่สุภาพ : โอ๊ย ตอนเด็กๆแสบมาก ทั้งแสบ ทั้งเกเร เกเรคือไม่ยอมไปโรงเรียน ตื่นเช้าขึ้นมาจะไม่ลุกจากที่นอน ต้องพี่เลี้ยงอุ้มจากที่นอนมาแต่งตัว ทานข้าวก็ไม่ยอมทาน ถาม ถ้าอย่างนั้นไม่เรียกเกเรมั้งคะ? เรียกขี้เกียจมั้งคะ?(หัวเราะ) เอิ๊ก : (หัวเราะ) มันปนๆกัน คุณแม่สุภาพ : (หัวเราะ) ไม่ยอมทำอะไรสักอย่าง ทานข้าวก็ต้องทานในรถ และพอถึงโรงเรียนก็คุณครูก็ต้องมาอุ้ม จากรถลงไป ก็ยังไม่ยอมลง ก็จะกอดคอคุณแม่ดึงเอาไว้อย่างนี้ จะไม่ยอมไปเรียน เกาะแน่นเลย เอิ๊ก : คือเกาะเป็นลิงอะ เอามือคล้องคอ แล้วเอาขาเนี่ยเกาะเอว คือครูจะต้องมาดึง แล้วก็จะร้องแผดเสียงดังมาก คือ คนทั้งโรงเรียนจะรู้เลยว่า ยัยนี่มาโรงเรียนแล้ว คุณแม่สุภาพ : แล้วจะเป็นอย่างนี้ทุกวัน ไม่ใช่บางวัน ทุกวัน เอิ๊ก : ไม่ใช่สายเรียนตั้งแต่เด็กค่ะหม่ามี๊ขา แต่เป็นสายสวยงาม ถาม ไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่ว่าพี่เอิ๊กจะไปหาตลอด คุณแม่-เอิ๊ก : ใช่ค่ะ ถาม แต่ทางนี้อยู่ด้วยกัน(คุณแม่มาลีรัตน์-อั๋น) แล้วเจอกันไหมคะ? อั๋น : เจอ ถาม มีคนกระซิบบอกว่าคุณหญิงย่า(คุณแม่มาลีรัตน์)กับพี่อั๋นไม่ค่อยเจอกัน เพราะคุณหญิงย่าจะไปอยู่ในห้องนอนพอล? อั๋น : ก็ห้องนอนพอลก็คือห้องอั๋นนั่นแหละ เอิ๊ก : ไม่ คุณหญิงย่าจะอยู่ในห้องน้องพอล แล้วคุณหญิงย่าก็จะคุยกับจ๋า รวมไปถึงเพื่อนๆที่มาหาน้องพอล แต่คนที่ ไม่คุยกับคุณหญิงย่าคนเดียว เพราะมัวแต่ไลฟ์อยู่ คือภูวนาถ ไลฟ์สดอยู่ค่ะ อั๋น : ถ้าจะพูดก็คือ บางครั้งนะกลับบ้านอะ กลับไปก็จะเจอหม่ามี๊อยู่เลย ก็คุยแป๊บนึงแล้วหนีไปนอนเลย เชื่อปะ หนีไปนอน หายไปสัก 2 ชั่วโมงแล้วถึงค่อยโผล่ออกมาอีกทีกลับโลก สวัสดีทุกคน (หน้ามึน) ถาม พี่อั๋นกำลังจะตกกระป๋อง เพราะว่าคุณหญิงย่าหลงรักน้องพอลมากกว่าพี่อั๋นแล้วจริงไหมคะ? คุณแม่มาลีรัตน์ : จะพูดไปก็จริงอะนะ เดี๋ยวเขา(อั๋น)ก็น้อยใจ คือจะเรียกว่าหลงก็ได้ค่ะ อั๋น : หลงเลยแหละ คุณแม่มาลีรัตน์ : ที่เขามักจะพูดว่า แหมรักหลานจนลืมลูก เป็นจริง จริงๆนะคะ แต่บางครั้งก็ไม่อยากให้เขารู้(อั๋น) อั๋น : อั๋นไม่น้อยใจ เขา(น้องพอล)คือลูกอั๋น อั๋นไม่น้อยใจลูกตัวเอง เขาห่วงหลานมากจนนอนไม่หลับ ทั้งๆที่หลาน ไม่ได้ทำอะไรนะ หลานนอนอยู่ตรงนี้อย่างเนี่ย สั่งติดกล้องวงจรปิดทั้งบ้าน เอิ๊ก : ห่วงไปหมดทุกอย่าง อั๋น : อย่างจริงจัง แล้วเขานั่งอยู่ที่ฐานทัพบัญชาการหน้าจอทีวี แล้วก็สลับกล้องวงจรปิดไปเรื่อยๆหลานอยู่ไหน? หลานอยู่ไหน? แล้วก็บอกว่า ตรงนี้เป็นจุดบอดของบ้าน ติดกล้องเพิ่ม แล้วเขาก็นั่งดูกล้องวงจรปิด แล้วเวลาเห็นก็ ตรงนั้นอุณหภูมิเป็นยังไง? เข้าใจความห่วงไหมแบบว่า ร้อนไหม? แอร์เย็น จนเราบอกหม่ามี๊ไม่ต้องห่วงเบอร์นั้น ถาม ห่วงว่าน้องพอลจะเป็นอันตรายหรือเป็นห่วงอะไรคะ? คุณแม่มาลีรัตน์ : คือ ห่วงสุขภาพเขา อย่างห้องเขาเนี่ยปูหินอ่อน แล้วเด็กไม่ได้ใส่รองเท้าอยู่กับพื้นหินอ่อนทั้งวันก็ไม่ดี เราก็จะเตือน บางทีเตือนมากๆเขา(อั๋น)ก็รำคาญ อั๋น : ไม่ๆ ฟังดูฉันแย่อีกแล้ว หม่ามี๊ช่วยสร้างภาพ(แซวแม่) ถาม ขนาดรุ่นลูก ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม พอมาเจอรุ่นหลานอีกยิ่งหนักกว่าเดิม? คุณแม่มาลีรัตน์ : จริงค่ะ เขาคนรุ่นใหม่ เราก็ยังไม่โบราณ แต่เขาอาจจะคิดไม่ถึงหลายๆอย่าง แล้วบางทีอาบน้ำออกมาห้องก็เย็น บอกเฮ้ย รูขุมขนเปิดนะ ต้องอุ่นๆให้ปิดแอร์ก่อน อะไรต่ออะไรก็จุกจิก จุกจิกนิดหน่อยค่ะ อั๋น : แต่เราฟัง เราฟัง ไม่ได้อะไรเลย แต่เวลาปราม คือปรามเพราะว่าไม่อยากให้เขา(คุณแม่)กังวล เพราะว่าดูเขาห่วงจนเราแบบว่า นี่ห่วงจนทุกข์หรือเปล่า? คุณแม่มาลีรัตน์ : ไม่ค่ะ ถาม น้องพอลกับพี่อั๋น ตอนเล็กๆแตกต่างกันเยอะไหมคะ? คุณแม่มาลีรัตน์ : อาจจะว่า น้องอั๋นเลี้ยงง่ายมั้งคะ เลี้ยงง่ายไม่เกเร อยู่ชั้นประถมเขาก็เป็นหัวหน้าชั้นมาตลอด เข้าโรงเรียนมัธยมที่เซนต์คาเบรียลก็เป็นหัวหน้าชั้นแล้วก็เป็นเด็กกิจกรรม อั๋น : ดูดีปะ (แซวเอิ๊กและพิธีกร) ถาม คุณหญิงย่าค่ะ มีอะไรที่ดูไม่ดีบ้าง? คุณแม่มาลีรัตน์ : ไม่ดีหรอคะ เท่าที่จำได้ก็ เมื่อตอนที่เขาอยู่ประถมปีที่ 5 มั้งคะ เขาเล่นเรื่องเครื่องเสียง ชอบเสียงเพลงเสียงอะไรตั้งแต่ตอนนั้นนะคะ ก็มีวีรกรรมที่ว่าขโมยเงินคุณแม่ อั๋น : ขโมยเงิน เยอะเลย นี่เป็นเรื่องที่เลวทรามมาก แล้วขโมยเงินอย่างไฮเทคด้วยนะ เอา ATM ไปกด ถาม แล้วคุณแม่จับได้หรือว่าอั๋นมาสารภาพ? คุณแม่มาลีรัตน์ : มันบ่อยครั้งไงคะ เขาทำได้เนียนมาก อั๋น : สิ่งที่มันน่าเกลียดน่ากลัวก็คือ เราชอบเครื่องเสียง โอ้โห เล่นเครื่องเสียงอะ แล้วก็ศึกษามาก พอศึกษาปุ๊บอยากได้ แต่มันผิดวัยปะ เราป.5อย่างเนี่ย ถาม ทำไมไม่ขอ? อั๋น : มันแพงมากพี่ คุณแม่มาลีรัตน์ : มันตั้ง 5 หมื่นบาท ในวัยอย่างนั้นนะคะ อั๋น : หม่ามี๊ อั๋นเอาไปเยอะกว่านั้น จริงๆ นี่ยังจำราคาได้เลย ลำโพงที่จะซื้อตอนนั้นคู่ละแสนสี่ เครื่องเล่นเทป สมัยนั้นเป็นเทปนะ เฉพาะเคื่องเล่นเทปหกหมื่นห้า คือถ้าจะไปซื้อ เอาดีที่สุดของโลก อันนี้ดีที่สุดของโลกฉันเอา นิสัยนี้ยังติดมาจนถึงปัจจุบัน ขอโทษนะฮะ แต่ตอนนั้นคือ จะเอา จะเอา จะเอา จะหาเงินจากไหนล่ะ? ขโมยดีกว่า แค่เอาไปเสียบตู้กดเงินมันไหลออกมาไม่เห็นผิดเลย แต่ในที่สุดรู้ตัว อั๋น : คาใจ คือนึกในใจว่า เราทำไปได้ไง ถาม แล้วใช้คืนยังเนี่ย? อั๋น : น่าจะใช้แล้วนะ (มองคุณแม่) คุณแม่มาลีรัตน์ : โถ ยิ่งกว่าใช้คืนค่ะ คือในวันนั้นนะคะ หลังจากที่เอามาดุแล้วเนี่ย เขาก็ไม่โต้เลยมองหน้าเฉย เราก็ยิ่งโกรธใหญ่ ก็เลยบอกว่า เนี่ย...เสียแรงที่รักนะ อั๋น : มันเป็นคำที่แรงเข้าใจปะ? เด็ก ป.5เจอคำนี้เข้าไป เราแบบ...ปึ้งไปอย่างเนี่ย เหมือนล้มอะ ณ ตอนนั้นคือแบบ ทำไงดี ทำไงดี อย่างเนี่ย คุณแม่มาลีรัตน์ : แล้วปรากฎว่าวันรุ่งขึ้น ก็มีจดหมายสอดเข้ามาที่ห้อง เราก็อ่าน อ่านแล้วก็สงสารเขา(เสียงสั่น) เขาก็สารภาพผิด สุดท้ายก็คือ ขออย่างเดียว หม่ามี๊อย่าเลิกรักอั๋นนะ อั๋น : แต่มันนานมาก ตอนนั้นคือมันเด็กมาก จำความไม่ได้นะ แต่เรารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องใหญ่มากในชีวิต ถาม พี่เอิ๊กเนี่ย เราก็เห็นมาตลอดว่านางใส่เพชรเยอะมาตลอด เขาบอกว่าพี่เอิ๊กเนี่ยซึมซับมาจากคุณแม่ สอนใส่เพชรมาตั้งแต่เด็กจริงไหมคะ? เอิ๊ก : มันดูเหมือนสอนฟุ่มเฟือยยังไงไม่รู้ แต่มันไม่ใช่แบบนั้น คุณแม่สุภาพ : ไม่ใช่ค่ะ คืออาจจะว่าเพราะว่าที่บ้านเมื่อก่อนนี้เวลาใครทำอะไรดี หรือว่าจะเป็นช่วงวันเกิดหรือวันพิเศษอะไรเนี่ย คุณพ่อก็จะซื้อเครื่องประดับให้ อย่างลูกเรียนจบหรือว่าทำอะไรดีก็จะให้รางวัลเป็นเครื่องประดับ เพราะฉะนั้นเขาก็เห็นมาตั้งแต่เด็กๆ เขาก็เลยซึมซับมาตลอดว่า ของอันนี้คือเขาเห็นมาตั้งแต่เล็ก เขาก็ชอบไปเองโดยปริยาย เอิ๊ก : แต่จริงๆอะ มันชอบความแวววาวตั้งแต่เด็ก จำได้เลยว่าชอบไปร้านเพชรกับคุณแม่ เราก็ดูไม่เป็นหรอก แต่รู้สึกว่ามันสวยดีเนอะ มันมีความแวววาว อาจจะเป็นตรงนั้นก็ได้ที่ซึมซับ ถาม ตามคุณแม่ไปร้านเพชร แล้วคุณแม่ไม่ยอมซื้อให้นางกรีดร้องกลางร้านเพชรเลย คุณแม่ + เอิ๊ก : (หัวเราะ) คุณแม่สุภาพ : ใช่ค่ะ ร้องลั่นเลยค่ะ แล้วก็บอกว่า แม่...แหวนที่แม่ใส่เนี่ยของหนูนะ แม่เอามาให้หนูเลย คืนมาให้หนู แม่ก็ บอก ของหนูก็ต้องอยู่ที่หนูสิ นี่มันของแม่ก็อยู่ที่แม่ เขาบอก ก็วันนั้นแม่พูดอะว่าแม่ซื้อเยอะแยะเนี่ย อีกหน่อยก็ต้องเป็นของ หนู เพราะฉะนั้นวันนี้หนูจะทวงคืน ถาม ได้ยินพี่อั๋นพูดบ่อยๆว่ารักแม่มากตลอดเวลา แต่วันนี้ขอได้ยินความรู้สึกที่ทั้งคู่มีต่อกัน อั๋น : ผมคิดว่าการพูดถึงแม่ไม่จำเป็นจะต้องมีน้ำตาหรือร้องไห้อะ นี่พยายามบอกตัวเอง(เสียงสั่น) เราเป็นคนเซนส์ซิทีฟมาก ผมว่าคุณแม่ก็รู้แหละ ผมมีพี่น้อง 4 คน ผมเป็นลูกคนเล็กนะ บ้านเราก็เป็นบ้านที่ใกล้ชิดกันมาก แล้วก็เป็นบ้านที่มีคุณแม่ เป็นศูนย์กลางของบ้าน เรารู้สึกว่าคุณแม่เป็น(กลั้นน้ำตา) ถาม จะบอกว่าได้ยินพี่อั๋นพูดบ่อยๆค่ะว่า ทุกวันนี้ยังดีใจที่กลับบ้านไปแล้วยังได้เป็นลูกหม่ามี๊ ยังได้เป็นพ่อ ของน้องพอล วันนี้ความสุขพี่อั๋นคือมันล้นจนพูดเป็นคำพูดไม่ได้ อั๋น : จริงๆ ก็คือ ทุกวันนี้ก็มีความคิดว่าตัวเองก็มีความสุขมากและก็โชคดีมาก ไม่ได้พูดให้ดูน่าหมั่นไส้นะ แต่เรารู้สึกว่ามันเต็ม เราแฮปปี้ไปหมดเลยกับทุกๆเรื่อง มองไปตรงไหนก็แฮปปี้ แฮปปี้กับงาน แฮปปี้กับครอบครัวของตัวเอง แฮปปี้ที่ยังได้ ทำหน้าที่ลูกและแฮปปี้ที่ได้เป็นพ่อ และแฮปปี้ที่ได้เป็น ภูวนาถ คุนผลิน อย่างที่เราอยากเป็นด้วย เราถูกขับเคลื่อนว่า เราเป็นความภูมิใจของเขา ที่อั๋นพูดเนี่ยอั๋นเป็นตัวแทนของพี่ๆอีก 3 คนด้วย เพราะว่าทุกคนก็เป็นแบบนี้หมดทั้งบ้าน คิดว่าเราเป็นครอบครัวที่ใกล้ชิดกันมากๆ ก็พยายามอย่างยิ่งที่จะรักษาความใกล้ชิดนี้เอาไว้ แล้วก็มันเป็นแบบอย่างที่ดีในการที่สอนให้เรารู้ว่าเราอยากมีครอบครัวแบบไหน พอมีจ๋าเข้ามา อั๋นว่าจ๋าเขาก็รู้สึก เขาก็มาจากครอบครัวแบบเดียวกัน ซึ่งอั๋นก็รู้สึกว่า โชคดีจังเลยที่เราเจอภรรยาแบบนี้ ณ วันนี้ก็มีน้องพอลด้วย เราก็แฮปปี้อีก น้องพอลก็เหมือนเป็นของขวัญอีหนึ่งชิ้นให้กับคุณย่าด้วยเช่นกัน บอกรักกันบ่อยมากทุกวัน ทุกเทศกาลใช้กันแบบมหาศาลมาก ก็รักหม่ามี๊ที่สุด ที่สุดจริงๆ คุณแม่มาลีรัตน์ : หม่ามี๊ก็รักอั๋นมากนะลูก ภูใจในตัวอั๋นมากลูก ขอให้ลูกมีตึความสุข ความเจริญรุ่งเรืองมากๆนะคะ สิ่งที่หม่ามี๊ขอร้องก็คือ ดูแลสุขภาพ นอนเร็วๆหน่อย ถาม แล้ว พี่เอิ๊ก จะบอกอะไรกับแม่บ้าง ?? เอิ๊ก : เป็นคุณแม่ที่น่ารักมาก (เสียงสั่น) ไม่เคยคาดหวังอะไร ไม่เคยขออะไรกับลูกเลย เอิ๊กเห็นหลายๆบ้านเนี่ย คุณแม่เขามักจะบอกว่า แต่งงานสิลูก มีลูกสิ มีครอบครัวหรือว่าทำอย่างนั้นสิ อย่าทำอย่างนี้สิ แต่คุณแม่อะไม่เคยที่จะมีอะไรแบบนั้นกับเอิ๊กเลย สนับสนุนแล้วก็ซัพพอร์ตและเข้าใจในการใช้ชีวิตของเราในทุกๆเรื่อง ในสื่งที่เอิ๊กตัดสินใจในการทำงานหรือว่า อะไรก็ตาม ไม่เคยมีเลยที่จะบอกว่า แม่ว่าอันนั้นอย่างงี้ แม่ว่าอันนี้อย่างนั้น คือถ้าเราปรึกษาคุณแม่จะมีความเห็น แต่ถ้าเราเลือกแล้วคุณแม่จะสนับสนุนทันที เอิ๊กอยู่คอนโด คุณแม่ยู่บ้านแต่ว่าบางครั้งเนี่ยเอิ๊กจะหาเวลาเจอคุณแม่อย่างน้อยที่สุดอาทิตย์ละวัน แต่บางทีมันก็ยุ่งมากเราทำงาน 7 วัน ก็ไม่เคยเลยสักครั้งที่แม่จะบอกว่าเมื่อไหร่จะมาหาแม่ แม่ไม่เคยเรียกร้องเวลาเพราะว่าเขาเข้าใจว่าเราทำงานเยอะ ทำงานเหนื่อย ถ้าจะโทรมาแม่ก็จะพูดว่า คิดถึงแล้ว เราก็จะรู้แล้วว่าเนี่ย เราต้องหาเวลาเจอคุณแม่แล้ว อยากจะบอกแม่ว่า เอิ๊กภูมิใจมากที่เกิดเป็นลูกแม่ ลูกคุณพ่อซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว แล้วเอิ๊กก็รู้ว่าเอิ๊กไม่มีลูกเพราะว่าเอิ๊กไม่สามารถเป็นแม่ที่สมบูรณ์แบบได้เหมือนแม่เลย ขอบคุณมากนะคะ คุณแม่สุภาพ : แม่รักหนูเหมือนกันนะ เจริญรุ่งเรืองนะลูก คิดสิ่งใดสมปรารถนานะลูกนะ ถาม อยากจะให้คุณแม่พูดถึงลูกบ้างค่ะ? คุณแม่มาลีรัตน์ : สำหรับอั๋นแล้ว ไม่ทราบจะบรรยายยังไงว่าคุณแม่ภูมิใจในตัวเขาที่สุด ถึงแม้เขาจะเป็นลูกคนเล็กแต่ก็ไม่ เคยถูกสปอยล์(ตามใจ) เขาจะยอมรับช่วงเสื้อผ้าของพี่ ยอมรับของเล่นของพี่ แล้วก็เรียนดีมาตลอดแล้วก็ทำงานหนักมาก เพราะฉะนั้นสิ่งที่เป็นห่วงคือสุขภาพ และวันนี้ก็ดีใจมากที่เขาได้ครอบครัว ได้ภรรยาจ๋าและลูกที่มาเติมเต็มชีวิตเขาก็ขอให้ลูก มีความสุขความเจริญยิ่งๆขึ้นนะลูก และก็ดูแลสุขภาพมากๆ หม่ามี๊ไม่ลืมอั๋นนะลูก รักลูกอยู่ รักลูกมากๆลูก ภูมิใจมาก ถาม คุณแม่ภูมิใจอะไรในตัวพี่เอิ๊กคะ? คุณแม่สุภาพ : ดีใจที่เมื่อเล็กๆเขาจะเกเรเขาจะซน แต่เมื่อโตขึ้นเขากลับเป็นคนที่มีระเบียบวินัย ทำอะไรตั้งใจทำ ทำงานเก่ง แล้วก็เป็นคนคอยดูแลแม่ ดูแลพี่ๆน้องๆทุกคน เอาใจใส่ทุกเรื่องไม่ว่าเรื่องอะไร คุณแม่ก็ภูมิใจเขามากที่เขาเป็นลูกที่น่ารัก ติดตามชมรายการ ต้มยำอมรินทร์ ย้อนหลังได้ทาง ยูทูป : https://youtu.be/eejxiOEbwrs