"สปุตนิก" วัคซีนต้านโควิด ขนานแรกโลก-ผวาเชื้อแรง

ไทยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19รายใหม่ เพิ่มอีก 5 เดินทางกลับจาก "สหรัฐ-อินเดีย-อียิปต์" ด้าน "ปูติน" ตั้งชื่อ "สปุตนิก" วัคซีนโควิด-19 ขนานแรกของโลก พร้อมโวมีลูกค้า 20 ประเทศ สั่งจองแล้วพันล้านโดส ด้าน "กีวี" ผวาไวรัสระบาดรอบใหม่มาจากสินค้านำเข้า ส่วนจีนเจอซ้ำอาหารทะเลแช่แข็งปนเปื้อน เมื่อวันที่ 12 ส.ค.63 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ได้รายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ซึ่งล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 5 ราย โดยเดินทางกลับจากประเทศสหรัฐอเมริกา 1 ราย อินเดีย 1 ราย และอียิปต์ 3 ราย โดยเข้าพักในสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดไว้ให้แล้ว ผลตรวจทั้งหมดพบเชื้อ แต่ไม่มีอาการ รวมยอดผู้ป่วยสะสม 3,356 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต รวมยอดผู้เสียชีวิตสะสมยังคงเดิมที่ 58 ราย รักษาหายเพิ่มอีก 6 ราย รวมยอดผู้ป่วยรักษาหาย 3,169 ราย และยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลอีก 129 ราย ทั้งนี้ประเทศไทยไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศติดต่อกันเป็นวันที่ 79 แล้ว สำนักข่าวประเทศ รายงานว่า ทางการรัสเซีย ตั้งชื่อวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ที่ทางกองทุนเพื่อการลงทุนโดยตรงของรัสเซีย หรืออาร์ดีไอเอฟ พัฒนาขึ้นว่า "สปุตนิก ไฟว์ (Sputnik V)" หรือเรียกกันสั้นๆ ว่า "สปุตนิก" สำหรับวัคซีนที่จะผลิตขึ้นจำหน่ายในตลาดต่างประเทศ ซึ่งชื่อดังกล่าวเป็นชื่อดาวเทียมดวงแรกของโลกที่ผลิตและพัฒนาขึ้นในสมัยอดีตสหภาพโซเวียตรัสเซีย ที่กำลังแข่งขันด้านอวกาศอย่างรุนแรงระหว่างสหภาพโซเวียตรัสเซียกับมหาอำนาจตะวันตก ที่นำโดยสหรัฐฯ โดยการตั้งชื่อข้างต้น มีขึ้นหลังก่อนหน้า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ประกาศอนุมัติให้ใช้ทางการแพทย์ได้ หลังการทดสอบกับมนุษย์ได้ไม่ถึงสองเดือน ทางด้าน นายคิริลล์ ดิมิเทรฟ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ของกองทุนเพื่อการลงทุนโดยตรงของรัสเซีย หรืออาร์ดีไอเอฟ ซึ่งเป็นกองทุนด้านการสร้างความมั่งคั่งแห่งชาติรัสเซีย ที่ให้การสนับสนุนต่อโคงการพัฒนาวัคซีนโควิดฯ ชุดนี้ว่า การทดสอบวัคซีนในระยะที่ 3 จะเริ่มต้นในวันพุธที่ 12 ส.ค.นี้ กับเหล่าอาสาสมัครจำนวนกว่า 2,000 คน ในรัสเซีย และกับอาสาสมัครอีกจำนวนหนึ่งในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดีอาระเบีย บราซิล และเม็กซิโก ส่วนการผลิตวัคซีนในเชิงอุตสาหกรรม คาดว่าจะเริ่มได้ในช่วงเดือน ก.ย.นี้ โดยเบื้องต้นได้มีคำสั่งซื้อล่วงหน้าจาก 20 ประเทศ เช่น ซาอุดีอาระเบีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ บราซิล เม็กซิโก และอินเดีย เป็นต้นจำนวนปริมาณ 1 พันล้านโดส ขณะเดียวกัน องค์การอนามัยโลก หรือดับเบิลยูเอชโอ หรือฮู เปิดเผยว่า กำลังประสานไปยังสาธารณสุขของรัสเซีย เพื่อหารือและตรวจสอบคุณสมบัติวัคซีนดังกล่าว ด้าน ทางการนิวซีแลนด์ โดยกรมสาธารณสุข กำลังสอบสวนถึงความเป็นไปได้ในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่พบการลุกลามแบบเป็นกลุ่มก้อน หรือคลัสเตอร์ ครั้งใหม่ในรอบกว่า 3 เดือน โดยอาจจะมาจากสินค้านำเข้า อย่างไรก็ตามทันทีที่พบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสส่งผลให้ทางการนิวซีแลนด์ ได้มีคำสั่งบังคับใช้มาตรการปิดพื้นที่ หรือล็อกดาวน์ ต่อเมืองออกแลนด์ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดฯ ด้านทางการรัฐบาลท้องถิ่นเมืองเยี่ยนไถ มณฑลชานตรง ประเทศจีน เปิดเผยว่า พบเชื้อไวรัสโควิด-19 ปนเปื้อนมากับบรรจุภัณฑ์อาหารทะเลแช่แข็งนำเข้าที่ส่งมาจากเมืองต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง ประทศจีนเช่นกัน โดยอาหารทะเลแช่แข็งนำเข้าข้างต้น ไม่ได้ระบุที่มาของสินค้า ทั้งนี้เมื่อไม่นานมานี้ได้พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิดฯ เป็นจำนวนมากในเมืองต้าเหลียน ขณะที่ สถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องทั่วโลก ส่งผลให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นจำนวน 20,525,152 ราย ผู้ป่วยที่เสียชีวิตมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 745,960 ราย และผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจนหายมีจำนวนสะสม 13,445,997 ราย โดยประเทศสหรัฐอเมริกา มีผู้ป่วยสะสมสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 5,305,957 ราย และมีผู้ป่วยเสียชีวิตสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 167,749 ราย