กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ส่งเสริมให้สหกรณ์ใช้โปรแกรมระบบบัญชีครบวงจร (FAS) ช่วยให้การจัดการบัญชีในสหกรณ์ มีประสิทธิภาพและได้ข้อมูลที่มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น เมื่อวันที่ 11 ส.ค. นายโอภาส ทองยงค์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เปิดเผยว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีภารกิจสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้กับสหกรณ์ สถาบันเกษตรกร เกษตรกร และประชาชน โดยการนำระบบบัญชีไปใช้ในการบริหารจัดการสู่ความสำเร็จ มีระบบบริหารจัดการด้านการเงินการบัญชีที่โปร่งใสและเข้มแข็ง โดยได้ขับเคลื่อนภารกิจการทำงานที่หลากหลายมิติในการนำระบบบัญชี เข้าไปใช้ในการบริหารจัดการสหกรณ์ ตามภารกิจหลักของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ รวมถึงการส่งเสริมและถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการบัญชีสู่สหกรณ์ สมาชิกสหกรณ์ เกษตรกร และประชาชนทั่วไป โดยดำเนินงานควบคู่กับการพัฒนางานระบบบัญชีและกลไกที่จะส่งเสริมระบบบัญชีให้มีความทันสมัย และเท่าทันกับสถานการณ์ต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน ทั้งนี้ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่ มาเป็นเครื่องมือเสริมสร้างความเข้มแข็งทางการเงินของสหกรณ์ ช่วยอำนวยความสะดวกให้สหกรณ์มีระบบการเงินการบัญชีและมีการควบคุมภายในที่ดี สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างโปร่งใส โดยหนึ่งในเทคโนโลยีสำคัญที่ช่วยในการบริหารงานของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร คือ โปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ครบวงจร (Cooperative Full Pack Accounting Software : FAS) ซึ่งกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้พัฒนาขึ้น เพื่อช่วยในการบริหารงานของสหกรณ์ และเป็นส่วนสำคัญในการช่วยบริหารจัดการงานภาคสหกรณ์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โปรแกรมดังกล่าว ได้รับการออกแบบให้ครอบคลุมตามธุรกิจของสหกรณ์ในทุกๆ ด้าน และมีความทันสมัย เป็นปัจจุบัน ช่วยลดข้อผิดพลาดในการทำงานและมีระบบข้อมูลทางบัญชีที่ได้มาตรฐานสามารถปิดบัญชีประจำปีได้อย่างรวดเร็ว จึงนับว่าเป็นเครื่องมือในการสร้างความแข็งแกร่งทางบัญชี และสามารถให้บริการสมาชิกแบบจุดเดียว (One Stop Service) เพื่อให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร มีเครื่องมือในการช่วยบริหารจัดการงานสหกรณ์ และช่วยให้ผู้บริหารสหกรณ์สามารถนำข้อมูลสารสนเทศทางการเงิน มาใช้ประกอบการตัดสินใจในการบริหารจัดการได้รวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่สหกรณ์ ซึ่งกรมฯ ได้สนับสนุนให้ทุกสหกรณ์ ได้นำโปรแกรมฯ ไปใช้ โดยมีสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ ในแต่ละจังหวัด คอยดูแลและให้คำปรึกษาแนะนำในการติดตั้ง โดยที่สหกรณ์ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด นอกจากนี้ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้พัฒนานวัตกรรมที่ตอบสนองพฤติกรรมของคนในสังคมปัจจุบันที่มีการใช้เทคโนโลยีมาอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน และเพื่อสร้างข้อมูลที่มีคุณค่าให้สหกรณ์ โดยมีนวัตกรรม Smart4M ที่สามารถใช้งานได้ผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ประกอบด้วย Smart Me แอพพลิเคชันสำหหรับสมาชิกสหกรณ์และบุคคลทั่วไปใช้ในการบันทึกบัญชีครัวเรือนและบัญชีต้นทุนอาชีพ Smart Member แอพพลิเคชันสำหรับสมาชิกสหกรณ์ ช่วยให้สมาชิกสหกรณ์ สามารถตรวจสอบฐานะทางการเงินของตนเองได้ตลอดเวลา Smart Manage แอพพลิเคชันสำหรับกรรมการสหกรณ์ ใช้ติดตามและตรวจสอบการดำเนินงานของสหกรณ์ และ Smart Monitor แอพพลิเคชันสำหรับผู้สอบบัญชี ผู้กำกับดูแลและผู้ที่เกี่ยวข้อง สามารถติดตามความเคลื่อนไหว และความผิดปกติทางการเงินของสหกรณ์ได้อีกด้วย ด้านนายสมเกียรติ วงศ์สอน ประธานกรรมการสหกรณ์การเกษตรโพธาราม จำกัด เปิดเผยว่า สหกรณ์การเกษตรโพธาราม จำกัด ได้ดำเนินธุรกิจ อาทิ ธุรกิจสินเชื่อ ธุรกิจรับฝากเงิน ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย ธุรกิจการให้บริการ ชั่งผลผลิตทางการเกษตร ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ซึ่งจากการ สหกรณ์ฯ ได้มีการดำเนินธุรกิจที่หลากหลายประเภท และการดำเนินงานที่มีความแตกต่างกัน ทำให้เกิดความยุ่งยากในการจัดทำบัญชี ที่จำเป็นต้องมีข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ เพื่อใช้ในการบริหารจัดการสหกรณ์ให้มีความโปร่งใส สร้างความเชื่อมั่นในกับสมาชิก สหกรณ์ฯ จึงได้นำโปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ครบวงจร (FAS) ซึ่งเป็นโปรแกรมที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์พัฒนาขึ้นมาใช้ในการบริหารจัดการให้สหกรณ์มีประสิทธิภาพมากขึ้น นางสาวสิรัชชา วิเศษรจนา เจ้าหน้าที่การเงิน แทนผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรโพธาราม จำกัด ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สำหรับด้านการใช้งานโปรแกรมระบบบัญชีที่พัฒนาโดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์นั้น ทางสหกรณ์ฯ ได้เริ่มใช้งานแบบครบวงจรมาตั้งแต่ปี 2551 เนื่องจาก ในขณะนั้นสหกรณ์ดำเนินธุรกิจหลายด้านและมีแนวโน้มปริมาณธุรกิจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฝ่ายจัดการจึงจำเป็นต้องจัดเตรียมข้อมูลด้านการเงินการบัญชีที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน ในการนำเสนอผู้บริหารสหกรณ์เพื่อใช้ในการตัดสินใจวางแผนและติดตามงาน โดยได้รับความอนุเคราะห์จากเจ้าหน้าที่ของสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ราชบุรี และสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ 10 รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในการให้บริการติดตั้ง สอนแนะ และแก้ไขปัญหาจากการใช้งานอย่างทันทีเพื่อให้สามารถให้บริการสมาชิกได้อย่างต่อเนื่อง จากการดำเนินการที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ในปี 2554 สหกรณ์การเกษตรโพธาราม จำกัด ได้รับรางวัลดีเด่น ด้านการใช้งานโปรแกรมระบบบัญชีครบวงจร จากกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ รวมทั้งในปี 2556 ได้รับการประกาศเกียรติคุณว่าเป็นสหกรณ์ดีเด่นด้านการปิดบัญชีเร็วสำหรับสหกรณ์ภาคเกษตร จากผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นอกจากนี้ยังได้รับการคัดเลือกเป็น “สหกรณ์ดีเด่น” ระดับจังหวัด “สหกรณ์ต้นแบบ” และได้รับการประเมินว่าเป็นหน่วยงานที่มีผลการประเมินธรรมาภิบาลในสหกรณ์อยู่ในระดับ “ดีมาก” อีกด้วย และในปัจจุบัน สหกรณ์ใช้บริการโปรแกรมระบบสมาชิกและระบบเงินให้กู้ ในการให้บริการสมาชิกด้านการดำเนินธุรกิจสินเชื่อ ใช้โปรแกรมระบบสินค้า ให้บริการด้านการดำเนินธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่ายและธุรกิจแปรรูป และใช้โปรแกรมระบบเงินรับฝาก ในการให้บริการด้านธุรกิจรับฝากเงิน โดยทุกโปรแกรมสหกรณ์ให้บริการแบบเต็มรูปแบบโดยสามารถจัดพิมพ์ใบกำกับสินค้า ใบเสร็จรับเงิน สมุดคู่มือสมาชิก สมุดเงินรับฝาก และสมุดคู่มือเงินกู้ โดยทุกสิ้นวันผู้รับผิดชอบแต่ละโปรแกรมจะต้องดำเนินการตรวจสอบเอกสารหลักฐานและจัดพิมพ์รายงานที่เกี่ยวข้องจัดส่งให้เจ้าหน้าที่บัญชีเพื่อใช้ในการบันทึกบัญชี และมีการสำรองข้อมูลที่เครื่องเซิร์ฟเวอร์ รวมทั้งจัดเก็บข้อมูลชุดสำรองไว้ตามระเบียบว่าด้วยมาตรฐานขั้นต่ำสำหรับสหกรณ์ที่ใช้โปรแกรมระบบบัญชีในการประมวลผลข้อมูล นางสาวลภัสรดา บัวโพธิ์ เจ้าหน้าที่บัญชีสหกรณ์การเกษตรโพธาราม จำกัด กล่าวเสริมอีกว่า การบันทึกรายการในโปรแกรมระบบบัญชีครบวงจร (FAS) มีขั้นตอนไม่ยุ่งยากซับซ้อน เข้าใจง่าย และสามารถจัดพิมพ์รายงานเพื่อใช้ในการตรวจสอบการปฏิบัติงานของแต่ละแผนกได้ครบถ้วน การปิดบัญชีประจำวัน ประจำเดือน และประจำปีจึงเป็นเรื่องง่ายและสามารถจัดทำได้อย่างรวดเร็ว สามารถใช้ข้อมูลของแต่ละโปรแกรมในการตรวจสอบกระทบยอดกับโปรแกรมระบบบัญชีแยกประเภทได้ทุกสิ้นวัน และในการปิดบัญชีประจำปีสามารถจัดพิมพ์รายงานการเคลื่อนไหวและยอดคงเหลือต่างๆ ในการจัดทำรายละเอียดประกอบงบการเงินเพื่อจัดส่งให้ผู้สอบบัญชี นอกจากนี้ทุกสิ้นวันหลังจากมีการสอบทานการบันทึกบัญชีแล้ว ได้ดำเนินการอัพโหลดข้อมูลทางการเงินการบัญชีขึ้นไว้ในระบบฐานข้อมูลของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เพื่อให้คณะกรรมการ ผู้ตรวจสอบ และสมาชิก สามารถตรวจสอบข้อมูลผลการดำเนินงาน การดำเนินธุรกิจ และการทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ ได้ทันทีทุกสิ้นวันผ่านแอพพลิเคชั่นที่พัฒนาโดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้แก่ Smart Manage และ Smart Member ซึ่งจากนวัตกรรมดังกล่าว ได้ช่วยให้เกษตรกร สมาชิก กรรมการสหกรณ์ และผู้ที่เกี่ยวข้องได้ใช้ประโยชน์จากข้อมูลร่วมกันอย่างคุ้มค่าที่สุด