จากการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการส่งเสริมและพัฒนาสมรรถนะบรรณารักษ์ห้องสมุดประชาชน และเจ้าหน้าที่งานการศึกษาตามอัธยาศัย ประจำปี 2560 รุ่นที่ 3 ภาคเหนือ ซึ่งเป็นการร่วมมือระหว่างสำนักงานอุทยานการเรียนรู้(สอร.) และสถาบันส่งเสริมและพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้, สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ที่โรงแรมเวียงอินทร์ จ.เชียงราย เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยมี ดร.ทองอยู่ แก้วไทรฮะ ที่ปรึกษาสำนักงาน กศน. เป็นประธาน ซึ่งการอบรมนี้มีเนื้อหาการนำแนวทางศาสตร์พระราชา มาประยุกต์ ตลอดจนเพื่อเผยแพร่ให้ประชาชนทั่วไปได้รับรู้ จนสามารถนำไปปฏิบัติ การอ่านในยุค 4.0ที่สามารถอ่านหนังสือผ่านระบบออนไลน์ การสื่อสารสู่การเรียนรู้ ตลอดจนการคิดเห็นเป็นภาพ ทั้งนี้ ดร.ทองอยู่ กล่าวว่า หลักการของการสร้างเมืองนักอ่าน คือ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือร่วมใจจัดกิจกรรมให้กระจายลงไปสู่ชาวบ้าน เพื่อให้ชาวบ้านมีนิสัยรักการอ่าน อ่านทุกเรื่องที่เห็น อ่านทุกอย่างที่เจอ เพราะจะทำให้ผู้ที่ชอบอ่านจะเป็นคนที่สนใจการศึกษาหาข้อมูล ศึกษาค้นคว้า และทำทุกอย่างด้วยตนเอง อย่างไรก็ตามสิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้จะต้องไม่ทำโดยลำพัง ไม่เป็นพระเอกคนเดียว ต้องส่งเสริมให้หน่วยงานอื่นเข้ามาช่วย ซึ่งถ้ายิ่งทำได้มากผลสำเร็จก็จะออกมามาก "...พระองค์ท่านทรงมีพระราชดำรัสว่า อ่านเท่าไหร่ไม่สำคัญ แต่ขอให้เป็นคนรักการอ่าน..." ที่ปรึกษา กศน.กล่าวต่อไปว่า ที่สำคัญ ต้องสร้างบรรยากาศให้ทุกฝ่ายเห็นความสำคัญของการสร้างเมืองนักอ่าน ต้องสร้างกระแสเชิญชวนให้เกิดความร่วมมือร่วมใจ ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นแบบอย่างของการเป็นอ่านที่เห็นได้ชัดเจน พระองค์ท่านทรงมีพระราชดำรัสว่า อ่านเท่าไหร่ไม่สำคัญ แต่ขอให้เป็นคนรักการอ่าน ซึ่งเป็นพระราชดำรัสที่สำคัญมาก พระองค์ท่านทรงทำและส่งเสริมให้คนบนพื้นที่สูง ที่อยู่ห่างไกลอ่าน ด้วยโครงการต่าง ๆ มา30กว่าปีแล้ว ซึ่งเป็นการจุดประกายให้ กศน.ต้องเร่งดำเนินการ แสวงหาความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งหน่วยงานรัฐ และเอกชน เพื่อบูรณาการจัดกิจกรรมกระตุ้นให้ชาวบ้านอยากอ่าน อ่านแล้วเข้าใจ และสื่อสารได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์และมีคุณค่าอย่างมหาศาลจนกลายเมืองนักอ่าน