พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ลงพื้นที่ลุยตรวจสอบร้านผู้ประกอบการค้างาช้าง ที่ศูนย์คชศึกษาหมู่บ้านช้างเลี้ยงใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมสั่งเจ้าหน้าที่ ระดมปูพรมกันทั้งประเทศ 11 จังหวัด จำนวน160 ร้านค้า ตามแผนปฏิบัติการปราบปรามการค้างาช้างผิดกฎหมาย ของ ศูนย์เฉพาะกิจการปราบปรามการค้างาช้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สุรินทร์-วันนี้(23 ส.ค.59)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 13.30 น. ที่ศูนย์คชศึกษาจังหวัดสุรินทร์ (คต-ชะ-สึก-ษา) บ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ของ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจปราบปรามการค้าช้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ฉลอง ภาคย์ภิญโญ ผบก.ภ.จว.สุรินทร์,พ.ต.อ.อภิชาติ แจ้งจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.สุรินทร์,นายวิชิต จิรมงคลการ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่ 9 (อุบลราชธานี) พร้อมด้วย ตัวแทนผู้ประกอบการค้างาช้างในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ และสื่อมวลชน พร้อมชุดปราบปรามงาช้าง จ.สุรินทร์ ได้ประชุมขับเคลื่อนปราบปรามการค้างาช้าง และร่วมกันเดินทางไปตรวจร้านผู้ประกอบการการค้างาช้าง ภายในศูนย์คชศึกษาบ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ หลังจากศูนย์เฉพาะกิจการปราบปรามการค้างาช้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการปราบปรามการค้างาช้าง โดยการควบคุมการค้างานช้างภายในประเทศ โดยการปราบราบเข้ม และเร่งการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของ CITES มาอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายการสอบสวนและขยายผลปราบปรามแหล่งที่มีการค้างาช้าง และการเข้าตรวจร้านค้าที่ขออนุญาตค้างาช้างกับกรมอุทยานฯ ที่กระจายอยู่ใน 11 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี กาญจนบุรี พระนครศรีอยุธยา อุทัยธานี นครสวรรค์ สุโขทัย เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต และสุรินทร์ เพื่อป้องปรามมิให้มีการค้าค้างาช้างที่ผิดกฏหมายมาสวมจำหน่าย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจปราบปรามการค้าช้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า วันนี้ได้มาตรวจสอบค้าและจำหน่ายงาช้าง ภายใน ศูนย์คชศึกษา กว่า 40 ร้านค้า ปรากฏว่าทุกร้านค้า มีการปฏิบัติตาม ที่กฏหมายกำหนด สอดคล้องกับแนวทางของ CITES เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตามแผนปฏิบัติการปราบปรามการค้างาช้าง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทหาร และฝ่ายปกครอง เพื่อการดำเนินการให้ได้ผลอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการควบคุมไม่ให้มีการลักลอบขายงาช้างอย่างผิดกฏหมาย โดยดำเนินการพร้อมกันทั้ง 11 จังหวัด ประมาณ 160 กว่าร้านค้า เบื้องต้นที่มีการค้างาช้าง ทำในวันนี้และพยายามจะทำให้เสร็จภายในต้นเดือนหน้า ตนเชื่อจะสามารถดำเนินการที่จะเกิดผลได้อย่างจริงจังได้