ญาติร้องเอาผิด ตร.ชุดสืบสวน บุกจับ หนุ่ม อบต.ช็อกตายปริศนา ส่งศพชันสูตร พบถูกทำร้าย วอนขอความเป็นธรรมแจ้งความคดีไม่คืบ เมื่อวันที่ 2 ส.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ได้ มี นายวรเทพ แขมคำ อายุ 43 ปี ชาวบ้าน ต.ก้านเหลือง ต.นาแก อ.นาแก จ.นครพนม นางสาวกนกพร พงษ์พันษ์ อายุ 38 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต พร้อมญาติผู้เสียหาย ออกมาร้องเรียนร้องทุกข์ผ่านสื่อ กรณี ตำรวจชุดสืบสวน สภ.หนองบ่อ อ.นาแก จ.นครพนม เข้าตรวจสอบจับกุม กลุ่มชายต้องสงสัย ที่จับกลุ่มมั่วเสพดื่มสุรา หลังมีเบาะแสว่ามั่วสุมเสพยาเสพติด ภายในบ้านเลขที่ 275 หมู่ 9 ต.ก้านเหลือง อ.นาแก จ.นครพนม เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. วันที่ 28 กรกฎาคม 2563 โดยทางตำรวจได้ มีการจับกุม กลุ่มชายต้องสงสัย จำนวน 5 คน รวมถึงจับกุม นายวิทยา โสภาวงค์ อายุ 40 ปี เจ้าของ บ้าน ทำงานเป็นลูกจ้าง อบต.แห่งหนึ่ง ซึ่งช่วงเกิดเหตุมีการวิ่งหลบหนีการจับกุม และทางตำรวจชุดสืบสวน ได้ติดตามจับกุมตัวมาได้ จนกระทั่ง เกิดอาการช็อกหมดสติ ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ นำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลอำเภอนาแก แต่ได้เสียชีวิตระหว่างการนำส่งไปรักษา ทั้งนี้ทางกลุ่มชายเพื่อนผู้เสียชีวิต ได้ระบุว่า ช่วงการจับกุม ผู้ตายได้มีการร้องขอให้เจ้าหน้าที่ นำส่งโรงพยาบาล เนื่องจากมีอาการแน่นหน้าอกหน้ามืด จะหมดสติ แต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือ ตำรวจได้พยายามจะนำตัวผู้เสียชีวิตและพวก ไปสอบสวนดำเนินคดีที่โรงพัก สภ.หนองบ่อ ทำให้ทางญาติติดใจถึงการปฏิบัติหน้าที่ และต้องการให้มีการสอบสวนเอาผิดทางกฎหมาย และดำเนินคดีทางวินับกับชุดจับกุม เนื่องจากมีการส่งศพผู้เสียชีวิต ไปชันสูตร ที่สถาบันนิติเวช จ.ขอนแก่น ผลระบุเบื้องต้น ลักษณะมีแผลภายในคล้ายถูกทำร้าย ทางญาติจึงติดใจเชื่อว่า น่าจะมีเงื่อนงำการเสียชีวิต ขณะเดียวกันทางตำรวจได้ยืนยันว่า เข้าปฏิบัติการตรวจสอบจับกุม หลังได้รับแจ้งเบาะแสว่ามีการมั่วสุม ซึ่งขณะเข้าไปตรวจสอบจับกุม กลุ่มชายต้องสงสัยได้ วิ่งหนี และติดตามจับกุมมาได้ 6 ราย พร้อมยึดของกลางยาบ้า จำนวน 10 เม็ด ควบคุมมาสอบสวนดำเนินคดี แต่ผู้เสียชีวิต มีอาการเหนื่อยหอบ และนำส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลอำเภอนาแก แต่แพทย์ระบุว่าเสียชีวิตก่อนที่จะถึงโรงพยาบาล โดยทางตำรวจยืนยันเป็นการจับกุมตามหน้าที่ และไม่ขอให้ข้อมูลเชิงลึกแต่อย่างใด ภายหลังทางญาติผู้เสียหาย ได้เข้าร้องทุกข์ ต่อ พ.ต.ท.อำนาจ บุญประไพ สารวัตรใหญ่ สภ.หนองบ่อ อ.นาแก จ.นครพนม เพื่อให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริง รวมถึง แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีเอาผิดกับชุดสืบสวนที่เข้าจับกุม เชื่อว่าเป็นต้นเหตุทำให้เสียชีวิต และสันนิษฐานว่าน่าจะมีการทำร้ายร่างกาย แต่คดียังไม่มีความคืบหน้า จึงออกมาร้องเรียนให้ข้อมูลผ่านสื่อ ร้องทุกข์ไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้อง ให้ตรวจสอบช่วยเหลือขอความเป็นธรรม ส่วนศพผู้เสียชีวิต ได้นำมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านพัก และทางญาติยื่นยันจะไม่มีการเผาศพ จนกว่าจะได้ข้อสรุป และได้รับความเป็นธรรม นายวรเทพ แขมคำ อายุ 43 ปี ชาวบ้าน ต.ก้านเหลือง ต.นาแก อ.นาแก จ.นครพนม ญาติผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุยอมรับว่า กลุ่มผู้ตายมีการนั่งดื่มสุรา ส่วนการมั่วสุมเสพยาไม่ทราบ ทราบภายหลังตำรวจเข้าตรวจค้นจับกุม และมีการวิ่งหลบหนี แต่สามารถติดตามจับกุมตัวมาได้ รวมถึง นายวิทยา โสภาวงค์ อายุ 40 ปี เจ้าของ บ้าน แต่มาเสียชีวิต ภายหลังสอบถามเพื่อนร่วมวง รวมถึงตำรวจที่จับกุม ทราบว่าช่วงจับกุมตัวได้ ผู้ตายมีอาการเหนื่อยหอบ ขอร้องให้ตำรวจไปส่งที่โรงพยาบาลอำเภอนาแก แต่ทางตำรวจไม่สนใจ จนหมดสติไป และเร่งนำส่งไปโรงพยาบาลอำเภอนาแก แต่ทางแพทย์ระบุว่าเสียชีวิตก่อนส่งมารักษา อย่างไรก็ตามทางญาติยังติดใจการเสียชีวิต น่าจะมาจากสาเหตุอื่น เพราะผลการชันสูตรศพเบื้องต้น มีบาดแผลภายใน อาจจะได้รับกระทบกระเทือนจากการถูกทำร้าย หรือไม่ถูกทำร้าย หากผู้ตายขอให้ช่วยเหลือ ตำรวจกับไม่ช่วยไร้มนุษยธรรม ตนมองว่าต้องมีการสอบสวนเอาผิด หาคนรับผิดชอบเรื่องนี้ ซึ่งทางญาติได้แจ้งความไว้ที่ สภ.หนองบ่อ แต่คดียังไม่คืบ จึงต้องการเรียกร้องให้หน่วยงานเกี่ยวข้องมาดูแลให้ความเป็นธรรม เพราะผู้ตายมีภาระต้องดูแล ลูกสองคน คนโต 11 ขวบ คนที่สองอายุพึ่งขวบครึ่ง ส่วนพ่อแม่เสียชีวิตหมดแล้ว ขณะเดียวกัน ทางเพื่อนผู้ตาย รายหนึ่ง ที่ถูกจับกุมดำเนินคดี ให้ข้อมูลว่า ช่วงเกิดเหตุ ตำรวจประมาณ 4 -5 นาย ไปตรวจสอบ ที่บ้านผู้ตาย ขณะนั่งดื่มสุรา กัน จากนั้นพากันตกใจจึงพยายามหาทางวิ่งหนี รวมถึงผู้ตายวิ่งไปหลังบ้าน แต่ตำรวจไปตามจับกุมตัวมาได้ และคุมตัวมาสอบสวน ช่วงคุมตัวมาได้ ผู้ตายได้ร้องขอให้ตำรวจช่วยนำส่งโรงพยาบาลหาทางช่วย เพราะมีอาการเหนื่อย หอบ จะหมดสติ แต่ไม่มีใครสนใจพยายามจะเอาไปสอบสวนที่โรงพัก จนผู้ตายหมดสติ จึงพากันเร่งนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลอำเภอนาแก แต่เสียชีวิตก่อนแล้ว ส่วนสาเหตุกรณีผู้ตายกระโดดลงจากบ้าน คงไม่ใช่สาเหตุที่จะให้เกิดบาดเจ็บภายใน เพราะความสูงประมาณ 1 เมตร เท่านั้น แต่ช่วงที่ตำรวจตามไปจับกุมไม่มีคนเห็น