34 เหตุการณ์จาก 20 จังหวัด ส่วนใหญ่อายุต่ำกว่า 15 ปี เกิดเหตุสูงสุดที่ทะเล บ่อ-สระสาธารณะ-คูคลอง ห่วงหน้าฝนมีความเสี่ยงสูงเพราะระดับน้ำจะลึกขึ้น
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค ข้อมูลในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (ปี 2553-2562) พบว่าการจมน้ำเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของเด็กไทยอายุต่ำกว่า 15 ปี โดยมีเด็กจมน้ำเสียชีวิตสูงถึง 8,394 ราย เฉลี่ยปีละ 839 ราย หรือวันละ 2 ราย สาเหตุหลักเกิดจากการชวนกันไปเล่นน้ำเป็นกลุ่มตามแหล่งน้ำธรรมชาติ เด็กขาดทักษะเอาชีวิตรอดในน้ำ และการช่วยเหลือที่ถูกต้อง ส่วนสถานที่เกิดเหตุส่วนใหญ่เป็นแหล่งน้ำสาธารณะที่อยู่ในชุมชน เช่น สระน้ำ บ่อขุดเพื่อการเกษตร ฝายทดน้ำ อ่างเก็บน้ำ เป็นต้น
จากการเฝ้าระวังเหตุการณ์ในปี 63 ถึงปัจจุบัน ได้รับรายงานเหตุการณ์จมน้ำเสียชีวิต 34 เหตุการณ์ จาก 20 จังหวัด มีผู้เสียชีวิตรวม 49 ราย ส่วนใหญ่เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี 34 ราย คิดเป็นร้อยละ 69.4 แหล่งน้ำที่เกิดเหตุสูงสุด ได้แก่ ทะเล, บ่อน้ำ/สระสาธารณะ, แหล่งน้ำคู/หนอง/คลองธรรมชาติ อย่างละ 6 เหตุการณ์ และแม่น้ำ, สระขุด/บ่อน้ำขุด, คลองส่งน้ำ/คลองชลประทานเพื่อการเกษตร อย่างละ 3 เหตุการณ์ เป็นต้น
ทั้งนี้ การพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพประจำสัปดาห์นี้ คาดว่าในช่วงนี้มีโอกาสจะพบเหตุการณ์คนจมน้ำได้ เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝน ทำให้แหล่งน้ำต่างๆ มีระดับน้ำสูงขึ้น ทำให้ความลึกของระดับน้ำมากขึ้น ประกอบกับเด็กๆ มักชวนกันไปเล่นน้ำตามแหล่งน้ำธรรมชาติ ซึ่งอาจทำให้เด็กตกน้ำหรือจมน้ำเสียชีวิตได้ จึงแนะนำวิธีป้องกันเด็กจมน้ำ คือ ผู้ปกครองต้องดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด อย่าปล่อยให้เด็กชวนกันไปเล่นน้ำกันเองตามลำพัง ส่งเสริมและสนับสนุนให้ครัวเรือนที่มีเด็กแรกเกิด - 2 ปี มีการใช้คอกกั้นเด็ก (Playpen) สำหรับในชุมชน ขอให้ร่วมกันดำเนินการ ดังนี้ 1.สำรวจแหล่งน้ำเสี่ยงในชุมชน เฝ้าระวังและแจ้งเตือน เช่น ประกาศเสียงตามสาย ตักเตือนเมื่อเห็นเด็กเล่นน้ำตามลำพัง
2.จัดการแหล่งน้ำให้ปลอดภัย เช่น สร้างรั้ว ติดป้ายคำเตือน ให้มีอุปกรณ์ช่วยคนตกน้ำไว้บริเวณแหล่งน้ำเสี่ยง เช่น ถังแกลลอนเปล่าผูกเชือก ขวดน้ำพลาสติกเปล่า และไม้ เป็นต้น 3.สอนให้เด็กรู้จักแหล่งน้ำเสี่ยงและอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น และรู้วิธีการเอาชีวิตรอดในน้ำเมื่อตกน้ำ โดยการลอยตัวเปล่าหรือลอยตัวโดยใช้อุปกรณ์ช่วยชูชีพ 4.สื่อสารประชาสัมพันธ์เพื่อให้ชุมชนเกิดความตระหนักและมีส่วนร่วม
นอกจากนี้ หากพบเห็นคนตกน้ำ ไม่ควรกระโดดลงไปช่วยเพราะอาจจมน้ำพร้อมกันได้ ขอให้ช่วยด้วยการใช้มาตรการ “ตะโกน โยน ยื่น” ดังนี้ ตะโกน คือเรียกให้ผู้ใหญ่มาช่วย และโทรแจ้งทีมแพทย์กู้ชีพ 1669 โยน คือโยนอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้ตัว ช่วยคนตกน้ำเกาะจับพยุงตัว เช่น ถังแกลลอนพลาสติกเปล่า หรือวัสดุที่ลอยน้ำได้โดยโยนครั้งละหลายๆ ชิ้น และ ยื่น คือยื่นอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้ตัวให้คนตกน้ำจับ เช่น ไม้ เสื้อ ผ้าขาวม้า ให้คนตกน้ำจับและดึงขึ้นมาจากน้ำ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422