พบน่าจะมาจากกุ้งที่แต่งหน้า เตือนอย่ารับประทานอาหารเรืองแสง เท่ากับมีการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียในปริมาณมาก เป็นพิษต่อคนกินได้ นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า จากผลการตรวจวิเคราะห์เบื้องต้นตัวอย่างซูชิเรืองแสง โดยตัวอย่างได้ส่งมาตรวจที่สำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ตรวจสอบโดยสังเกตการเรืองแสงของตัวอย่างภายใต้ที่มืด ผลตรวจไม่พบการเรืองแสงทั้ง 2 ตัวอย่าง จากนั้นนำตัวอย่างมาตรวจวิเคราะห์ด้วยวิธีเพาะเชื้อ โดยใช้อาหารเลี้ยงเชื้อที่มีเกลือเป็นส่วนประกอบและบ่มเพาะเชื้อที่ 20 องศาเซลเซียส ผลการตรวจพบการปนเปื้อนของแบคทีเรียเรืองแสงในที่มืด โดยสามารถแยกเชื้อเรืองแสงในที่มืดได้ทั้ง 2 วิธีการ คือ วิธี direct plating เป็นการตรวจแยกเชื้อจากตัวอย่างโดยตรง และวิธี enrichment เป็นการทำให้เชื้อบาดเจ็บฟื้นตัวและเจริญเพิ่มปริมาณ ขณะนี้อยู่ในระหว่างตรวจยืนยัน เพื่อให้ทราบชนิดของเชื้อแบคทีเรียเรืองแสงในที่มืดต่อไป โดยดำเนินการภายใต้ความร่วมมือของสำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร และสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สำหรับการเรืองแสงในที่มืด (Bioluminescense) พบในอาหารทะเลหรือสัตว์ทะเลบางชนิด เกิดจากเชื้อแบคทีเรียเรืองแสง ที่ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในทะเลหรือมหาสมุทร ได้แก่ แบคทีเรีย ในวงศ์ (Family) Vibrionaceae ซึ่งประกอบด้วย 2 สกุล คือ Photobacterium และ Vibrio เช่น Photobacterium phosphoreum (พบได้บ่อยที่สุด), Photobacterium leiognathi, Vibrio fischeri, Vibrio harveyi ฯลฯ นพ.โอภาส กล่าวว่า การตรวจพบแบคทีเรียเรืองแสงในซูชิทั้ง 2 ตัวอย่าง น่าจะมาจากกุ้งที่นำมาแต่งหน้า สาเหตุ อาจมาจากการปนเปื้อนตั้งแต่วัตถุดิบที่ใช้ สำหรับกุ้งดิบคาดว่าได้ผ่านกระบวนการผลิตบางอย่างเพื่อทำลายเชื้อจุลินทรีย์มาระดับหนึ่ง เช่น แช่ในสารละลายคลอรีน แต่อาจมีการปฏิบัติที่ไม่เพียงพอ หรือหากเป็นหน้ากุ้งสุก อาจต้มสุกไม่ทั่วถึง ทั้ง 2 ตัวอย่าง จึงมีเชื้อแบคทีเรียเรืองแสงหลงเหลืออยู่ หรืออาจเกิดสุขลักษณะการผลิตที่ไม่ดีของการทำซูชิ ทำให้เกิดการปนเปื้อนจากอาหารทะเลดิบอื่นๆมายังซูชิที่พร้อมบริโภค โดยผ่านมือของผู้เตรียมซูชิเอง หรืออุปกรณ์เครื่องครัวที่ไม่สะอาด ทั้งนี้ ซูชิที่ปนเปื้อนเชื้ออาจไม่เห็นการเรืองแสง เพราะกระบวนการเรืองแสงที่จะมองเห็นได้ในที่มืด ต้องมีปริมาณเชื้อมากพอ (high cell density) ซึ่งข้อมูลจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ปี 2553 ที่เคยทดลองในลูกชิ้นปลา พบว่า การเรืองแสงในที่มืดเริ่มเกิดขึ้น เมื่อเชื้อเจริญเพิ่มปริมาณสูงถึง มากกว่า 1 ล้าน - 10 ล้านเซลล์ ต่ออาหาร 1 กรัม และเนื่องจากเชื้อกลุ่มนี้เจริญได้ในที่เย็น ซึ่งส่วนใหญ่เจริญได้ที่ 18-22 องศาเซลเซียส แต่บางชนิดเจริญได้ที่อุณหภูมิตู้เย็น และบางชนิดเจริญที่อุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส การเก็บอาหารพร้อมบริโภคที่มีอาหารทะเลเป็นส่วนประกอบ หรือติดปนกับอาหารทะเลไว้ในตู้เย็นหลายวัน อาจพบการเรืองแสงได้ภายหลัง