พบมากในกลุ่มวัยรุ่นอายุ 20-30 ปี เตือนอันตรายเป็นสิ่งแปลกปลอม ร่างกายจะมีปฏิกิริยา-พยายามกำจัดออก ส่งผลให้อวัยวะเพศบิดเบี้ยว เป็นก้อนแข็ง มีแผลง่าย และหากที่ฉีดเข้าไปไม่สะอาด เสี่ยงติดเชื้อจนต้องตัดทิ้ง นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันกระแสการโฆษณาชวนเชื่อทางสื่อออนไลน์กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาว ที่ต้องการสร้างความมั่นใจให้กับตนเองในเรื่องของเพศสภาพ ทำให้เกิดความเข้าใจผิดตามมา ซึ่งจะเห็นได้จากสื่อสังคมออนไลน์เชิญชวนให้ชายหนุ่มที่สนใจเพิ่มขนาดอวัยวะเพศด้วยการฉีดสารต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกายเพราะมีความเชื่อว่าเวลามีเพศสัมพันธ์จะทำให้เกิดความพึงพอใจแก่ฝ่ายหญิง ทำให้ในแต่ละปีจะมีกลุ่มวัยรุ่นที่เพิ่มขนาดอวัยวะเพศโดยการฉีดสารแปลกปลอมเข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก ซึ่งในหลักฐานยืนยันทางการแพทย์ชายไทยจะมีขนาดความยาวของอวัยวะเพศอยู่ที่ 4 นิ้ว ซึ่งเป็นขนาดที่ได้สัดส่วนอยู่แล้ว ดังนั้น จึงควรมีความมั่นใจในมาตรฐานที่เหมาะสมและที่สำคัญอย่าตกเป็นเหยื่อของหมอเถื่อนเพราะอาจทำให้ติดเชื้อรุนแรงจนถึงขั้นต้องตัดทิ้ง และหากคิดว่าขนาดอวัยวะเพศของท่านมีความผิดปกติ ควรมาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาแนวทางแก้ไขที่ตรงจุด และหันมาดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงด้วยการรับประทานอาหารให้ครบหมู่ เน้นผักและผลไม้ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ กระตุ้นความรู้สึกทางอารมณ์ด้วยการทำจิตใจให้แจ่มใส ไม่เครียด จะสามารถช่วยให้มีกิจกรรมทางเพศได้อย่างมีประสิทธิภาพ นพ.สมเกียรติ ลลิตวงศา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี กล่าวว่า ผู้ที่ไปฉีดหรือใส่สารแปลกปลอมเข้าไปในอวัยวะเพศอาจเกิดจากต้องการสร้างความมั่นใจให้ตนเองโดยมีทัศนคติหรือความเข้าใจที่ผิดว่าการให้อวัยวะเพศมีขนาดใหญ่ขึ้นจะทำให้มีสมรรถภาพทางเพศดีหรือมีความตื่นเต้นเร้าใจในการมีเพศสัมพันธ์ การฉีดสารแปลกปลอมต่างๆ เพื่อให้อวัยวะเพศมีรูปร่างคล้ายมะระหรือลูกยอเพื่อเพิ่มขนาดอวัยวะเพศที่กำลังเป็นกระแสในกลุ่มชายไทยอยู่ในขณะนี้ อาจทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงได้โดยอันตรายในระยะแรกหากสารที่ฉีดเข้าไปไม่สะอาดจะมีการติดเชื้อรุนแรงจนอวัยวะเพศอักเสบเป็นหนอง ส่วนอันตรายในระยะยาวจะทำให้อวัยวะเพศมีก้อนแข็งผิดรูป มีความลำบากหรือมีความเจ็บปวดเวลามีเพศสัมพันธ์ อาจมีแผลเรื้อรัง และมีบางรายที่ปล่อยไว้นานจนกลายเป็นมะเร็งได้ ผู้ที่ฉีดสารแปลกปลอมเข้าอวัยวะเพศนอกจากเสียเงินในการฉีดแล้วเวลามารับการรักษาในโรงพยาบาลจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาเอง เนื่องจากเป็นการรักษาเพื่อผ่าตัดตบแต่งแก้ไขอวัยวะเพศซึ่งสิทธิการรักษาไม่ครอบคลุม ทั้งนี้ การผ่าตัดตกแต่งแก้ไขจะพยายามทำให้อวัยวะเพศกลับมาใกล้เคียงเดิมให้มากที่สุด โดยตัดเอาก้อนและผิวหนังองคชาติที่ฉีดสารแปลกปลอมเข้าไปออกและใช้ผิวหนังจากถุงอัณฑะมาคลุมองคชาติแทน กรณีที่ฉีดสารแปลกปลอมเข้าไปมากจนไม่สามารถใช้ผิวหนังจากถุงอัณฑะได้จะต้องใช้ผิวหนังส่วนอื่นของร่างกายมาคลุมองคชาติแทนซึ่งจะทำให้การทำงานขององคชาติไม่เหมือนเดิม ส่วนผู้ที่มีการติดเชื้อรุนแรงหรือมีแผลเรื้อรังจนลุกลามเป็นมะเร็งอวัยวะเพศ การรักษาอาจถึงขั้นต้องตัดอวัยวะเพศทิ้งในที่สุด