ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์วันนี้(31 ก.ค.)ดัชนีภาคเช้าปิดที่ระดับ1,311.34 จุด ลดลง 4.40 จุด (-0.33%) มูลค่าการซื้อขายราว 28,500 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,318.06 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,303.25 จุด นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงต่อเนื่อง หลังเมื่อวานนี้ดัชนีหลุดแนวรับสำคัญ 1,326 จุด โดยวันนี้ดัชนีฯได้ปรับตัวลงมาใกล้แนวรับสำคัญอีกจุดที่บริเวณ 1,306 จุดมีการรีบาวด์ในระหว่างเทรดบ้างแต่ไปได้ไม่ไกล เนื่องจากมีปัจจัยถ่วงจากหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัวเข้ามากระทบ อย่างหุ้น AOT ได้รับแรงกดดันหลังจากที่มีการปรับสูตรคำนวณการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนของกลุ่มคิงเพาเวอร์ใหม่ โดยหุ้น KBANK ปรับตัวลงหลังจากที่จะขายหุ้นที่ซื้อคืน ซึ่ง KBANK เป็นหุ้นขนาดใหญ่ทำให้ไปกระทบ Sentiment กลุ่มแบงก์ให้ปรับตัวลงด้วย และทำให้ Sentiemnt โดยรวมไม่ดีไปด้วย ส่วนหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่ปรับตัวขึ้นไปแรงก่อนหน้านี้ก็เริ่มเผชิญแรงขายทำกำไรออกมา อย่างไรก็ดีเมื่อดัชนีฯเข้าใกล้ระดับ 1,300 จุด ก็มีลุ้นรีบาวด์ได้อยู่ ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ซึ่งก็มีหลายตลาดที่ปิดทำการวันนี้ โดยมองว่าตลาดฯได้ตอบรับเรื่องตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/63 ของเยอรมนีที่ติดลบ 10% และ GDP สหรัฐฯที่ติดลบ 32% ไปแล้ว ตอนนี้ให้รอลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากสหรัฐฯ และติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนซึ่งจะออกมาหลายบริษัทในสัปดาห์หน้า แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่าย ตลาดฯคงจะเป็นลักษณะแกว่งซึมลง โดยวอลุ่มเทรดโดยรวมน้อยอยู่ พร้อมให้แนวรับ1,306-1,300 จุด ส่วนแนวต้าน 1,326 จุด สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ได้แก่ AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,360.88 ล้านบาท ปิดที่ 51.75 บาท ลดลง 0.50 บาท,KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,344.59 ล้านบาท ปิดที่ 80.00 บาท ลดลง 2.50 บาท,PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,041.49 ล้านบาท ปิดที่ 37.75 บาท ลดลง 0.25 บาท,GULFมูลค่าการซื้อขาย 915.20 ล้านบาท ปิดที่ 33.25 บาท ลดลง 0.25 บาท,DELTA มูลค่าการซื้อขาย781.36 ล้านบาท ปิดที่ 116.00 บาท ลดลง 3.00 บาท