นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ทางททท. ได้จัดทำโครงการมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย Amazing Thailand Safety and Health Administration (SHA) ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุข และพันธมิตรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และทำให้ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวระดับโลก ภายใต้ ชีวิตวิถีใหม่ โดยนักท่องเที่ยวชาวไทยจะได้สัมผัสกับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น อาทิ การชำระเงินแบบไร้การสัมผัส สำหรับการซื้อสินค้าและบริการ เป็นต้น ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ร่วมกับ วีซ่า ส่งเสริมการท่องเที่ยวภายใต้ความปลอดภัยด้านสุขอนามัย โดยให้การชำระค่าสินค้าและบริการแบบไร้การสัมผัสด้วยช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ Digital Payment สอดรับการท่องเที่ยวแบบวิถีใหม่ (New Normal) ในการขยายจุดรับการชำระเงินในรูปแบบดิจิตอลในกรุงเทพมหานครและ 5 จังหวัดเมืองท่องเที่ยวหลักทั่วประเทศ สำหรับความร่วมมือกันในครั้งนี้ เป็นการสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศ พร้อมกับสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องความปลอดภัยด้านการชำระเงินและสุขอนามัยของผู้บริโภคและผู้ประกอบการ โดยภายใต้ความร่วมมือกันในครั้งนี้ ททท. จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับ วีซ่า และสถาบันการเงิน ด้วยการสร้างการรับรู้โครงการมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย Amazing Thailand Safety and Health Administration (SHA) และช่วยเหลือผู้ประกอบการ ในการเพิ่มจุดรับการชำระเงินในรูปแบบดิจิตอล ทั้งนี้ผู้ประกอบการสามารถเปลี่ยนเครื่องรับชำระเงินให้มาเป็นเครื่องที่สามารถรองรับการชำระเงินในรูปแบบคอนแทคเลส อย่างบัตรคอนแทคเลส สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์สวมใส่ต่าง ๆ ได้ ด้าน นายสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า การท่องเที่ยวเป็นหนึ่งความสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของประเทศ ดังนั้นจึงได้มุ่งมั่นช่วยสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องสามารถปรับตัว ฟื้นฟู และเติบโตต่อไปได้ภายหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 สิ้นสุดลง ด้วยการนำเทคโนโลยีมาผสมผสานกับประสบการณ์และเครือข่ายช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจพร้อมกับช่วยให้ประเทศสามารถปรับตัวเพื่อเข้าสู่ยุคดิจิตอลได้ ทั้งนี้จาก ผลการสำรวจฉบับล่าสุดของวีซ่า เกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภคและรูปแบบการชำระเงินยุค New Normal ในประเทศไทย แสดงให้เห็นว่า 3 ใน 5 ของคนไทย หรือประมาณ 61% มีพฤติกรรมการชำระเงินแบบไร้เงินสด และเลือกที่จะชำระเงินผ่านบัตรหรือแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนมากกว่าเงินสด นอกจากนี้เกือบ 7 ใน 10 -องผู้บริโภคชาวไทย ได้เปลี่ยนวิธีการชำระเงินจากเงินสดเป็นการชำระเงินในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์หลังจากเหตุการณ์ในปัจจุบันสิ้นสุดลง อย่างไรก็ตามในช่วงแรกทางวีซ่า จะมีการขยายจุดรับชำระเงินในรูปแบบคอนแทคเลสไปยังผู้ประกอบการย่านถนนสุขุมวิทและจะขยายไปยัง 5 จังหวัด เมืองท่องเที่ยวหลัก ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ ภูเก็ต ชลบุรี (พัทยา) สุราษฎร์ธานี (สมุย) และประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) ภายในสิ้นปี 2563 พร้อมทั้งสนับสนุนและผลักดันให้ร้านค้าพันธมิตรที่รับชำระเงินด้วยบัตรวีซ่าในประเทศไทยซึ่งมีอยู่กว่า 400,000 ร้านค้า สมัครเข้าร่วมรับการประเมินตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย Amazing Thailand Safety and Health Administration (SHA)