ตร.ปราบปรามยาเสพติด อุดรธานี จับขบวนการยาบ้าล็อตใหญ่เครือข่ายนายโจ้ มุกดาหาร 768,000 เม็ด มูลค่า 11 ล้านบาทเศษ เตรียมส่งกระจายในเมืองกรุง ตะลึงนักค้ายาหน้าใหม่เป็นวัยรุ่นอายุไม่ถึง 20 ปี
วันนี้ (30 ก.ค.63) ที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี นายนิรัตน์พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พ.ต.อ.จรัสพัฒน์ สุตยสรณาคม รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธุ์ ผกก.สืบสวน ภ.จว.อุดรธานี พร้อมชุดปราบปรามยาเสพติด กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรอุดรธานี ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ 2 ราย คือนายณัฐวุฒิ หรือลีโอ สุบิณฑ์ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/1 ถ.คำสายทองวิทยา ต.มุกดาหาร อ.เมือง จว.มุกดาหารและนายปฏิมากร หรือกั๊บแก้ ใหม่คามิ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 300 ม.7 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จว.กาฬสินธุ์ ส่วนอีก 2 คนหลบหนีการจับกุมไปได้คือนายมินโฮ (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง)อายุ 19 ปี ราษฎรบ้านคำอาฮวน อ.เมือง จว.มุกดาหาร และนายสะดอ (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) อายุ 19 ปี ราษฎรบ้านคำอาฮวน อ.เมือง จว.มุกดาหาร การจับกุมครั้งนี้ตร.ยึดยาบ้าาล็อตใหญ่เป็นยาบ้าจำนวน 768,000 เม็ด มูลค่าของกลาง ราคาประมาณ 11,520,000 บาทและรถยนต์ยี่ห้อมาสด้า รุ่น BT50 สี่ประตูสีบรอน หมายเลขทะเบียน ขก 4799 นครราชสีมา จำนวน 1 คัน โดยตร.ชุดปราบปรามยาสพติดสามารถจับกุมได้บริเวณริมถนนสาธารณะภายในหมู่บ้านบ้านสูงเนิน ต.เนินยาง อ.คำม่วง จว.กาฬสินธุ์ วันที่ 29กรกฎาคม 2563 เวลาประมาณ 00.30 น.
พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า การจับกุมยาบ้าล็อตใหญ่ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 22.00 น. ของวันที่ 28กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา ตร.ชุดปราบปรามยาเสพติดภูธร จ.อุดรธานีได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากเข้ามาส่งในเขตพื้นที่ อ.กุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี ซึ่งจะใช้รถยนต์กระบะยี่ห้อมาสด้า 4 ประตู สีบอรน (แบบแต่ง) ไม่ทราบทะเบียน โดยใช้เส้นทาง อ.สมเด็จ – คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้วางแผนทำการจับกุม ไปดักรอบริเวณ 3 แยกบ้านสร้างเสี้ยว ต.หมู่ม่น อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ กระทั่งเวลาประมาณ 23.30 น.พบรถยนต์ยี่ห้อมาสด้า รุ่น BT50ส 4 ประตูสีบรอน (แบบแต่ง) หมายเลขทะเบียน ขก 4799นครราชสีมา ลักษณะคล้ายรถต้องสงสัยที่สายลับได้แจ้งไว้ ขับมาจากทาง อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ มาจอดบริเวณแยกบ้านเสี้ยว ต.หมูม่น จ.กาฬสินธุ์และภายในรถพบวัยรุ่นจำนวน 4 คน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอทำการตรวจค้น เมื่อชายคนขับรถคันดังกล่าวเห็นว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขับรถยนต์ชนรถเจ้าหน้าที่ตำรวจและขับหลบหนีไปเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ใช้รถยนต์ของทางราชการขับติดตามไปด้วยความเร็วผู้ต้องหาได้เลี้ยวเข้าในหมู่บ้านสูงเนิน ต.เนินยาง อ.คำม่วง จากนั้นคนร้ายได้วิ่งหลบหนี แต่ตร.สามารถติดตามจับกุมได้ 2 คนหลบหนีไปได้ 2 คน
ผบก.ตำรวจภูธร จ.อุดรธานี เปิดเผยอีกว่า การจับกุมครั้งนี้ถือว่าเป็นยาบ้าล็อตใหญ่ในรอบปีของอุดรธานี โดยเครือข่ายยาบ้าใช้จ.อุดรธานีเป็นเส้นทางผ่านเพื่อลำเลียงยาบ้าเข้าเมืองกรุง หากเล็ดลอดไปขายได้จะมีมูลค่าถึง 11 ล้านบาทเศษเลยทีเดียว และจากการสอบถามผู้ต้องหาทั้งสองให้การว่ายาบ้าดังกล่าวเป็นของพวกตนจริงโดยได้รับการว่าจ้างจากนายโจ้ (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) ราษฎรบ้านส้มป่อย ต.นาสีนวน อ.เมือง จ.มุกดาหาร เพื่อให้ไปส่งในจังหวัดชานกรุงเทพฯ ก่อนจะมีคนมารับไปต่อ โดยร่วมกันทำมาแล้วประมาณ 9 ครั้ง ซึ่งได้รับค่าจ้างครั้งละประมาณ 30,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จะได้ทำการสืบสวนเส้นทางเครือข่ายยาเสพติดและสืบสวนเส้นทางการเงินต่อไป ส่วนอีก 2 คน คือนายมินโฮและ นายสะดอที่อาศัยความมืดหลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่ฯ จะได้เร่งติดตามจับกุมและขยายผลเครือข่ายยาบ้ากลุ่มนี้ต่อไป ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าขบวนค้ายาเสพติดตอนนี้มีวัยรุ่นอายุไม่ถึง 20 ปีเข้าไปเป็นนักค้ายาบ้าและรับจ้างขนยาเป็นจำนวนมาก ถือว่าเป็นเรื่องน่าห่วงที่มีเยาวชนไทยเข้าไปในวังวนขบวนการยาเสพติด/
พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า การจับกุมยาบ้าล็อตใหญ่ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 22.00 น. ของวันที่ 28กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา ตร.ชุดปราบปรามยาเสพติดภูธร จ.อุดรธานีได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากเข้ามาส่งในเขตพื้นที่ อ.กุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี ซึ่งจะใช้รถยนต์กระบะยี่ห้อมาสด้า 4 ประตู สีบอรน (แบบแต่ง) ไม่ทราบทะเบียน โดยใช้เส้นทาง อ.สมเด็จ – คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้วางแผนทำการจับกุม ไปดักรอบริเวณ 3 แยกบ้านสร้างเสี้ยว ต.หมู่ม่น อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ กระทั่งเวลาประมาณ 23.30 น.พบรถยนต์ยี่ห้อมาสด้า รุ่น BT50ส 4 ประตูสีบรอน (แบบแต่ง) หมายเลขทะเบียน ขก 4799นครราชสีมา ลักษณะคล้ายรถต้องสงสัยที่สายลับได้แจ้งไว้ ขับมาจากทาง อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ มาจอดบริเวณแยกบ้านเสี้ยว ต.หมูม่น จ.กาฬสินธุ์และภายในรถพบวัยรุ่นจำนวน 4 คน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอทำการตรวจค้น เมื่อชายคนขับรถคันดังกล่าวเห็นว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขับรถยนต์ชนรถเจ้าหน้าที่ตำรวจและขับหลบหนีไปเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ใช้รถยนต์ของทางราชการขับติดตามไปด้วยความเร็วผู้ต้องหาได้เลี้ยวเข้าในหมู่บ้านสูงเนิน ต.เนินยาง อ.คำม่วง จากนั้นคนร้ายได้วิ่งหลบหนี แต่ตร.สามารถติดตามจับกุมได้ 2 คนหลบหนีไปได้ 2 คน
ผบก.ตำรวจภูธร จ.อุดรธานี เปิดเผยอีกว่า การจับกุมครั้งนี้ถือว่าเป็นยาบ้าล็อตใหญ่ในรอบปีของอุดรธานี โดยเครือข่ายยาบ้าใช้จ.อุดรธานีเป็นเส้นทางผ่านเพื่อลำเลียงยาบ้าเข้าเมืองกรุง หากเล็ดลอดไปขายได้จะมีมูลค่าถึง 11 ล้านบาทเศษเลยทีเดียว และจากการสอบถามผู้ต้องหาทั้งสองให้การว่ายาบ้าดังกล่าวเป็นของพวกตนจริงโดยได้รับการว่าจ้างจากนายโจ้ (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) ราษฎรบ้านส้มป่อย ต.นาสีนวน อ.เมือง จ.มุกดาหาร เพื่อให้ไปส่งในจังหวัดชานกรุงเทพฯ ก่อนจะมีคนมารับไปต่อ โดยร่วมกันทำมาแล้วประมาณ 9 ครั้ง ซึ่งได้รับค่าจ้างครั้งละประมาณ 30,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จะได้ทำการสืบสวนเส้นทางเครือข่ายยาเสพติดและสืบสวนเส้นทางการเงินต่อไป ส่วนอีก 2 คน คือนายมินโฮและ นายสะดอที่อาศัยความมืดหลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่ฯ จะได้เร่งติดตามจับกุมและขยายผลเครือข่ายยาบ้ากลุ่มนี้ต่อไป ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าขบวนค้ายาเสพติดตอนนี้มีวัยรุ่นอายุไม่ถึง 20 ปีเข้าไปเป็นนักค้ายาบ้าและรับจ้างขนยาเป็นจำนวนมาก ถือว่าเป็นเรื่องน่าห่วงที่มีเยาวชนไทยเข้าไปในวังวนขบวนการยาเสพติด/