ธพว.ดำเนินตามนโยบายรัฐบาล สนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำในระบบผ่านโครงการสินเชื่อ “SMEs มีโอกาส” วงเงินรวม 3,000 ล้านบาท นำไปใช้เสริมสภาพคล่อง ขยาย ปรับปรุงกิจการ หรือหมุนเวียนธุรกิจ วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาทต่อราย คิดอัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปีใน 2 ปีแรก ผ่อนนาน 7 ปี น.ส.นารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เปิดเผยว่า จากนโยบายของรัฐบาล ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 พ.ค.63 ในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทั้งทางตรงและทางอ้อมเข้าถึงแหล่งทุน ทั้งนี้ ธพว.ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ จึงดำเนินการตามนโยบายดังกล่าว เติมทุนภายใต้ชื่อ สินเชื่อ “SMEs มีโอกาส” โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) สำหรับ SMEs ที่เข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุนในระบบ วงเงินรวม 3,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ไม่เคยขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน หรือไม่มีสินเชื่อคงค้างกับสถาบันการเงิน ณ วันที่ 31 ธ.ค.62 ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ประกอบการที่ไม่เข้าข่ายได้รับความช่วยเหลือทางการเงินตามพระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบการวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดต่อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2563(พ.ร.ก. Soft loan) ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ เพื่อนำไปลงทุน ขยาย ปรับปรุงกิจการ สำรองเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ และเป็นเงินทุนหมุนเวียน สร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับสินเชื่อดังกล่าวเปิดโอกาสให้ทั้งผู้ประกอบการบุคคลธรรมดา และนิติบุคคลที่ยังเข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุนในระบบสถาบัน มีเงื่อนไขสำคัญต้องเป็นผู้ประกอบการที่ไม่เคยขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน หรือไม่มีสินเชื่อคงค้างกับสถาบันการเงิน ณ วันที่ 31 ธ.ค.62 กำหนดวงเงินกู้ สำหรับบุคคลธรรมดา สูงสุด 2 ล้านบาท ส่วนนิติบุคคลหรือบุคคลธรรมดาจด (VAT) สูงสุด 15 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ย 2% ใน 2 ปีแรก ตั้งแต่ปีที่ 3 เป็นต้นไปคิดอัตราดอกเบี้ยตามหลักประกันได้แก่ บสย.=MLR+2.5% ต่อปี,บสย.ร่วมกับหลักประกันตามเกณฑ์ธนาคาร = MLR+1.5% ต่อปี และหลักประกันตามเกณฑ์ธนาคาร = MLR+0.5% ต่อปี ระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 7 ปี ปลอดชำระเงินต้นขึ้นอยู่กับความจำเป็นและความเหมาะสมสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน “ปัจจุบันมีกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพพอสมควร แต่ไม่มีวงเงินเดิมกับสถาบันการเงินในระบบ จึงไม่สามารถใช้บริการสินเชื่อ Soft Loan ธปท.ตาม พ.ร.ก. Soft loan ได้ ซึ่งกำหนดเกณฑ์ปล่อยกู้ไม่เกิน 20% ของยอดสินเชื่อคงค้าง ดังนั้นรัฐบาลจึงมีนโยบายให้ออกสินเชื่อนี้มาเพื่อปิดช่องว่างดังกล่าวช่วยสร้างโอกาสพาผู้ประกอบการกลุ่มที่ไม่เคยขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน หรือไม่มีสินเชื่อคงค้างกับสถาบันการเงิน สามารถเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยถูกในระบบได้ เพื่อนำเงินไปเสริมสภาพคล่อง ลงทุน ขยาย ปรับปรุงกิจการ และสำรองเป็นเงินทุนหมุนเวียน ประคองธุรกิจให้ก้าวผ่านทุกวิกฤตไปได้” ทั้งนี้วงเงินอนุมัติสินเชื่อต่อรายจะพิจารณาตามความเหมาะสม ความจำเป็น และความสามารถในการชำระหนี้ โดยคุณสมบัติผู้กู้ ต้องเป็นผู้ประกอบการที่เป็นบุคคลสัญชาติไทย หรือนิติบุคคลที่มีบุคคลสัญชาติไทยถือหุ้นเกินกว่า 50% ของทุนจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด,เป็นการขอสินเชื่อใหม่ ทั้งลูกค้าเดิม หรือลูกค้าใหม่ ซึ่งไม่ใช่ลูกหนี้ Refinance,มีการยื่นภาษีจากภาครัฐ และไม่เป็น NPL ณ วันยื่นขอกู้ โดยเปิดรับคำขอกู้จนถึงวันที่ 30 ธ.ค.63 หรือจนกว่าวงเงินที่กำหนดไว้ถูกจัดสรรหมด แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่สนใจ สามารถแจ้งความประสงค์ขอสินเชื่อ “SMEs มีโอกาส”ได้ผ่านช่องทางต่างๆเช่น LINE Official Account : SME Development Bank,เว็บไซต์ของ ธพว.(www.smebank.co.th) และผ่านแอปพลิเคชัน SME D Bank ดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android เป็นต้น หรือทุกสาขาของ ธพว.