ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.หาดใหญ่จู่โจมเข้าตรวจค้นและจับกุมเอเย่นค้ายาเสพติดย่านชานเมืองหาดใหญ่ สามารถหลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิดทิ้งเมียให้ถูกจับกุมแทนพร้อมกับโจ๊กมือสุดท้ายที่ยังกินไม่หมด ฝ่ายเมียยอมรับชะตากรรมยิ้มทั้งน้ำตาฟุบหน้าลงกับโต๊ะ บอกไม่โกรธที่สามีทิ้งไปเพราะเลิกเขาแล้วขอให้หนีให้พ้น แม้จะเคยพูดกันตลอดว่าลงเรือลำเดียวกันแล้วจะไปให้ถึงฝั่งก็ตาม แต่สุดท้ายสามีก็หนีไป ตำรวจยึดยาบ้าได้ 20,004 เม็ดพร้อมไอซ์ 28 กรัมทั้งในห้องนอนและในท่อซิเมนต์ หลังขนมา 100,000 เม็ดแต่ทยอยส่งให้ลูกค้าไปแล้ว ตำรวจเผยเอเย่นต์ค้ายารายนี้เคยถูกตำรวจ สภ.หาดใหญ่จับกุมมาแล้วครั้งหนึ่งเพิ่งพ้นโทษออกมาได้ 1 เดือนและหวนกลับมาค้ายาอีก เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หรือชุดตะวัน ปฏิบัติการสายฟ้าแลปเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเลขที่ 34 หมู่ 7 ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลังจากที่ได้รับการร้องเรียนผ่านศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 เป็นที่จำหน่ายและเก็บยาเสพติดจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นทางประตูหลังบ้านเนื่องจากประตูหน้าบ้านถูกปิดเอาไว้ ปรากฏว่า นายสมภพ ไชยมิตร หรือน้อย อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นเอเย่นต์ค้ายารายใหญ่ได้ไหวตัวทันวิ่งหลบหนีออกไปทางประตูหน้าบ้านได้ทันและอาศัยความชำนาญพื้นที่หนีรอดไปได้อย่างหวุดหวิด และยอมทิ้ง น.ส.กิตติมา รณการ อายุ 22 ปี หรือกระถิน ภรรยาสาวให้ถูกจับกุมแทนโดยนั่งอยู่โต๊ะกินข้าวพร้อมกับโจ๊กในถ้วยที่ น.ส.กิตติมา อุ่นให้นายสมภพกิน แต่ยังกินไม่หมดเพราะถูกเจ้าหน้าที่บุกเข้าตรวจค้นและจับกุมเสียก่อน และเป็นโจ๊กมือสุดท้ายที่ได้นั่งร่วมโต๊ะกินด้วยกัน โดยขณะถูกจับกุม น.ส.กิตติมา ยอมรับผิดและยิ้มทั้งน้ำตาพร้อมกับฟุบหน้าลงกับโต๊ะอยู่พักใหญ่ยอมรับในชะตากรรมโดยเจ้าหน้าที่พบไอซ์ 28 กรัมที่ใส่ถุงแบ่งขายวางอยู่ใต้โต๊ะกินข้าว และได้นำตัวไปค้นที่ห้องนอนก็พบยาบ้าอีก 10,004 เม็ดซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋า นอกจากนี้ยังยอมบอกที่ซ่อนของยาบ้าและพาเจ้าหน้าที่ไปค้นอีก 1 จุดซึ่งซุกซ่อนอยู่ในท่อลอดข้างบ้านเลขที่ 40 ม.7 ต.คลองแห ซึ่งเป็นบ้านพ่อแม่ของนายสมภพ โดยเจ้าหน้าที่ต้องมุดท่อเข้าไปตรวจค้นภายในท่อและพบยาบ้าอีก 10,000 เม็ดที่ซุกซ่อนไว้ในกระเป๋า จากการสอบสวน น.ส.กิตติมา ยังให้การอีกว่า ครั้งล่าสุดสามี ได้ไปรับยาบ้ามาจำนวน 100,000 เม็ดและทยอยส่งให้กับลูกค้าไปเกือบหมดแล้ว เหลืออยู่เพียง 20,000 เม็ด โดยปกติจะไม่เก็บไว้ที่บ้านแต่ครั้งนี้พลาดเพราะตอนนี้ฝนตกนำไปส่งให้ลูกค้าไม่ได้และนำมาเก็บไว้เพียงแค่ 1 ชั่วโมงก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจค้นจับกุม ทั้งนี้หลังถูกจับกุม น.ส.กิตติมา ยอมรับผิดและไม่โกรธตำรวจที่เข้าจับกุมเพราะเลือกทางเดินนี้แล้ว และไม่โกรธสามีที่หนีไปและทิ้งให้ตนถูกจับกุมเพียงคนเดียวเพราะแม้จะพาหนีตนก็ไม่ไป เพราะเคยคุยกับสามีตลอดว่าเมื่อลงเรือลำเดียวกันแล้วก็จะไปให้ถึงฝั่ง และได้เลิกเขาแล้วแต่สุดท้ายเมื่อเขาไม่เลือกเราก็ขอให้เขาหนีให้รอด น.ส.กิตติมา บอกว่า นายสมภพ สามีนั้นเพิ่งออกจากคุกมาได้ 1 เดือนหลังถูกจับกุมคดียาเสพติด ที่แรกก็ไม่ได้รักได้ชอบกับนายสมภพ เพราะคบหากับเพื่อนของตนอยู่ก่อนแล้ว แต่พักหลังได้เลิกรากันจึงหันมาคบกับตน ซึ่งรู้อยู่แล้วว่าสามีค้ายาตอนคบกันใหม่ๆสามีก็ระแวงว่าตนเป็นสายให้ตำรวจแต่ก็ได้พิสูจน์ตัวเองจนเชื่อใจและร่วมกันค้ายาเสพติดมาตลอดจนกระทั่งถูกจับกุม เบื้องต้นตำรวจได้ควบคุมตัว น.ส.กิตติมา ดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกับนายสมภพ หรือน้อย ไชยมิตร ที่หลบหนี ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์,ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และเสพสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย เนื่องจากตรวจพบสารเสพติดในปัสสาวะด้วย และกำลังเร่งติดตามจับกุม นายสมภพ มาดำเนินคดีต่อไป และจากการตรวจสอบข้อมูลบุคคลต้องคดีอาญา พบว่านายสมภพ เคยถูกตำรวจ สภ.หาดใหญ่ จับกุมในคดียาเสพติด ได้กลางยาไอซ์ จำนวน 1.8 กรัม มาแล้วครั้งหนึ่ง และทราบว่าได้พ้นโทษออกมาเมื่อปลายปี 2562