นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในสิ้นเดือน ก.ค.63 กระทรวงการคลังจะกลับมาแถลงการประมาณการตัวเลขทางเศรษฐกิจของประเทศอีกครั้ง หลังจากหยุดพักการแถลงชั่วคราวไป 3 เดือน เนื่องจากอยู่ในช่วงสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 กำลังแพร่ระบาด ซึ่งมีความไม่แน่นอนในการกำหนดสมมติฐาน อาจทำให้ประมาณการมีโอกาสคลาดเคลื่อนสูง อาจเกิดความสับสน ทั้งนี้เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในไทยเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดี มีความแน่นอนในการตั้งสมมติฐาน และกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาดำเนินได้อีกครั้ง ประกอบกับครบกำหนดที่กระทรวงการคลังต้องทำการประเมินตัวเลขเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในรายไตรมาส จึงเป็นจังหวะที่จะกลับมาแถลงอีกครั้ง ส่วนประมาณการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไทยตลอดปี 2563 จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร กำลังอยู่ระหว่างการประเมิน โดยจะนำปัจจัยภายนอกและภายในมาพิจารณาอย่างรอบคอบ รายงานข่าวจากกระทรวงการคลังเผยว่า การประเมินตัวเลขเศรษฐกิจของ สศค.คาดว่าจัดขึ้นในวันที่ 30 ก.ค.63 หลังจากการแถลงครั้งก่อนเมื่อช่วงต้นปีก่อนเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ขณะนั้นได้คาดการณ์จีดีพีไทยทั้งปีจะเติบโต 2.8% อย่างไรก็ตามเมื่อตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย และเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรง ทำให้กระทรวงการคลังเตรียมปรับลดจีดีพีปีนี้ให้ติดลบอย่างแน่นอน โดยคาดว่ามุมมองจะใกล้เคียงกับสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)ที่ให้ติดลบไม่ต่ำกว่า 5-6% สำหรับปัจจัยที่ สศค.นำมาประเมินมีทั้งปัจจัยภายในและนอก โดยปัจจัยภายในได้แก่ ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีผลต่อกำลังซื้อภายในประเทศ อัตราการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว รวมถึงผลกระทบจากภัยแล้ง ซึ่งมีผลต่อรายได้ที่แท้จริงของเกษตรกร ตลอดจนปัจจัยเสถียรภาพทางการเมือง และการชุมนุมของนักศึกษา ส่วนปัจจัยภายนอกจะประเมินผลจากสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจ และการค้าโลกถดถอยจนกระทบให้ภาคการส่งออกไทยต้องติดลบอย่างหนัก