เรียกว่าเป็นอาการสามัญประจำตัวของคนทั่วไปกับอาการปวดหัว ซึ่งเพจ Fda Thai ของสำนักงานคณะกรรมอาหารและยา (อย.) โพสต์ระบุ อาการปวดหัวเกิดได้จากหลายสาเตุ ไม่ว่าจะปวดหัวจากความเครียด จากการพักผ่อนไม่เพียงพอ จากสภาพแวดล้อม เช่น อากาศ แสงสว่าง หรือจากอาการเจ็บป่วย ยังส่งผลให้คุณภาพชีวิตแย่ลง อาการปวดหัวแต่ละแบบบอกอะไรเราได้บ้าง 1. ปวดศีรษะไมเกรน พบในผู้หญิงมากกว่า อาจใช้ยา พาราเซตามอล หรือยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ หากไม่ได้ผลควรปรึกษาแพทย์ 2. ปวดศีรษะจากความเครียด พบบ่อยสุด ลักษณะการปวด คือ กด บีบ หรือรัดแน่นทั้ง 2 ข้าง กินยาแก้ปวดธรรมดา เช่น ยาพาราเซตามอล หรือยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ได้ เช่น ยาไอบูโพรเฟน แต่หากปวดบ่อกว่า 15 วันต่อเดือน นาน 6 เดือน หรือนานกว่า ควรปรึกษาแพทย์ อื่น ๆ - ปวดหัว แบบคลัสเตอร์ ปวดหัวเป็นชุด ๆ มักปวดรุนแรงเวลาเดิมของทุกวัน ร่วมกับปวดบริเวณเบ้าตา อาจมีตาแดง หรือน้ำตาไหลร่วมด้วย ควรปรึกษาแพทย์ ปวดหัว จากไซนัสอักเสบ ปวดหัวร่วมกับมีอาการไซนัส ปวดบริเวณโหนกแก้ม และหน้าผาก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาอาการไซนัสอักเสบที่เป็นต้นเหตุ และอาจใช้ยาพาราเซตามอล บรรเทาอาการปวด ปวดหัว จากฮอร์โมน เกิดจากฮอร์โมนที่มีการเปลี่ยนแปลงของเพศหญิง เช่น ช่วงตั้งครรภ์ ช่วงที่กินยาคุมกำเนิด หรือช่วงวัยทอง ใช้ยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์เพื่อบรรเทาอาการปวด และอาจปรึกษาแพทย์เพื่อใช้ยาป้องกัน สาเหตุหลักของอาการปวดหัว พักผ่อนไม่เพียงพอ เจ็บป่วย ออกกำลังกายมากไป ความเครียด อดอาหาร สภาพแวดล้อม เช่น อากาศแสงสว่าง