พลเอกประสาท สุขเกษตร เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธี โครงการสัมมนาอาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี (ครูบัญชี) ปี 2560 เรื่อง “ครูบัญชี ต้นแบบผู้ปิดทองหลังพระ” เพื่อน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระราชทานแนวคิดเกี่ยวกับการนำบัญชีมาเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาความยากจนและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน พร้อมมอบใบประกาศเกียรติคุณเชิดชูเกียรติ สร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของครูบัญชี ณ โรงแรมปริ๊นซ์ พาเลซ มหานาค กรุงเทพมหานคร พลเอกประสาท  สุขเกษตร เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พลเอกประสาท สุขเกษตร เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า อาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี หรือครูบัญชี เป็นผู้มีจิตอาสา เสียสละ มุ่งมั่นทุ่มเทในการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านบัญชีแก่เกษตรกรไทยทั่วประเทศ ให้สามารถทำบัญชีได้ และใช้ยกระดับคุณภาพชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งปัจจุบันมีครูบัญชีอยู่ทั่วประเทศ รวม 6,538 คน ในจำนวนนี้ มีครูบัญชีต้นแบบผู้ปิดทองหลังพระ จำนวน 252 คน ซึ่งก็คือครูบัญชีที่มีศักยภาพเป็นครู A ทำหน้าที่เป็นวิทยากรหลักในการถ่ายทอดความรู้สอนแนะนำการจัดทำบัญชี กำกับแนะนำและติดตามการจัดทำบัญชีของเกษตรกรมาเป็นระยะเวลา 12 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2548จนถึงปัจจุบัน แบ่งเป็นครูบัญชีภาคเกษตรที่มีอาชีพทำนา ปลูกข้าวโพด ปลูกอ้อย ทำสวนยางพารา ปลูกมันสำปะหลัง และเลี้ยงสัตว์ จำนวน 214 คน และเป็นครูบัญชีนอกภาคเกษตรที่มีอาชีพรับราชการครู ก.ศ.น. อบจ. อบต. และภาคเอกชน จำนวน 38 คน ทั้งนี้ ครูบัญชีต้นแบบยังได้ร่วมขับเคลื่อนการสอนบัญชีในโครงการสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ด้วย อาทิ โครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) จำนวน 882 ศูนย์ และโครงการเกษตรทฤษฏีใหม่ เป็นต้น จึงนับว่าครูบัญชีเป็นกลไกที่สำคัญในการขับเคลื่อนงานนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการพัฒนาภาคเกษตรให้เข้มแข็ง นางบริสุทธิ์  เปรมประพันธ์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ด้าน นางบริสุทธิ์ เปรมประพันธ์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะองค์กรที่มีบทบาทในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกร เยาวชน และประชาชนทั่วไป โดยเสริมสร้างความรู้ด้านการจัดทำบัญชีมาตั้งแต่ปี 2548ถึง ปัจจุบัน เพื่อสนับสนุนและเสริมสร้างให้เกษตรกร เยาวชน และประชาชนทั่วไป ได้มีความรู้ความเข้าใจ สามารถจัดทำบัญชี วิเคราะห์ต้นทุน รู้จักปรับเปลี่ยนอาชีพทางการเกษตรได้ มีวินัยทางการเงิน มีภูมิคุ้มกันจากความจนและหนี้สิน ควบคู่ไปกับการดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อันจะส่งผลให้ชุมชนเข้มแข็งและพัฒนาตนเองได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยกรมฯ ได้สร้างแกนนำเกษตรกร ซึ่งเป็น“อาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี” หรือ “ครูบัญชี” ซึ่งมีความคิดริเริ่มฟันฝ่าอุปสรรคในการสร้างผลงานด้วยใจอาสาอย่างไม่หวังผลตอบแทน มีความเสียสละเพื่อประโยชน์สุขส่วนรวม มีความเป็นผู้นำอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเกษตรกรและบุคคลในชุมชนได้ เพื่อเป็นตัวแทนของกรมฯในการทำหน้าที่เป็นวิทยากรและวิทยากรผู้ช่วยถ่ายทอดความรู้การจัดทำบัญชีรับ-จ่ายในครัวเรือนและบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพแก่เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร เยาวชน และประชาชนทั่วไป อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า ครูบัญชี จึงนับว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จและเป็นกลไกที่สำคัญในการขับเคลื่อนงานส่งเสริมการจัดทำบัญชีของกรมฯ ให้สัมฤทธิ์ผลอย่างเป็นรูปธรรม ขยายผลลงไปสู่พื้นที่ภาคเกษตร รองรับโครงการต่างๆ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการสร้างความเข้มแข็งภาคเกษตรและช่วยเหลือเกษตรกร กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จึงได้จัดทำโครงการสัมมนาอาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี เรื่อง “ครูบัญชี ต้นแบบผู้ปิดทองหลังพระ” ขึ้น เพื่อเชิดชูเกียรติและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลงานของครูบัญชีซึ่งเป็นต้นแบบผู้ปิดทองหลังพระ และน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นแนวปณิธานในการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติกับตนเองด้านการจัดทำบัญชีรับ-จ่ายในครัวเรือนและบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพ พร้อมทั้งรับการยกระดับองค์ความรู้ทางบัญชีสู่ต้นแบบของภูมิปัญญาทางบัญชี เพื่อใช้เป็นแกนกลางในการขับเคลื่อนการถ่ายทอดนวัตกรรมทางบัญชี และเป็นกลไกที่เข้มแข็งในการเสริมสร้างองค์ความรู้ทางบัญชีให้กับเกษตรกรต่อไป นางบริสุทธิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมเพื่อน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณและถวายความจงรักภักดี การบรรยายพิเศษเรื่อง “การสร้างความปรองดองและสมานฉันท์ยุค Thailand 4.0” โดยพันตรีสุธี สุขสากล อนุศาสนาจารย์ กรมการทหารสื่อสาร การบรรยายพิเศษ เรื่อง “ครูบัญชี เบื้องหลังการขับเคลื่อนเกษตรกรไทยยุค Thailand 4.0” โดยอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ การเสวนา เรื่อง “ครูบัญชี ต้นแบบผู้ปิดทองหลังพระ” โดยเครือข่ายครูบัญชี การบรรยายพิเศษ เรื่อง “หลักการทรงงานสืบสานตามรอยพระยุคลบาท”และกิจกรรมสร้างความปรองดองและการขับเคลื่อนงานครูบัญชี โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนา ได้แก่ อาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี (ครูบัญชี) และข้าราชการกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ รวม 610 คน “ครูบัญชีอาสา นับเป็นตัวอย่างของการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกร โดยไม่เพียงแต่จะสร้างความสำเร็จให้เกิดขึ้นกับตนเองเท่านั้น ยังเป็นพลังสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้แก่สมาชิกสถาบันเกษตรกร รวมถึงสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง โรงเรียน และประชาชนทั่วไป ด้วยการเผยแพร่ความรู้ในการจัดทำบัญชีรับ-จ่ายในครัวเรือน บัญชีต้นทุนอาชีพ ให้แพร่หลายออกไปอย่างกว้างขวาง โดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาปรับใช้ในการดำเนินชีวิต อีกทั้งยังสามารถถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์ไปสู่เครือข่ายในชุมชนให้เข้มแข็ง มีภูมิคุ้มกัน และพึ่งพาตนเองได้ สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน” นางบริสุทธิ์ กล่าว