รองอธิบดีกรมชลประทาน ติดตามโครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก พร้อมสั่ง จนท.เร่งเดินหน้าส่งมอบที่ดิน หลังพบช้ากว่าแผนในส่วนของสัญญาก่อสร้างส่วนที่ 2 ระบบส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวา
เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประพิศ จันทร์มา รองอธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วยนายเสริมชัย เซียวศิริถาวร ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ติดตามงานความก้าวหน้าในโครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก จ.อุตรดิตถ์ ที่จะช่วยเพิ่มพื้นที่ชลประทาน โดยมีนายวชิระ เอี่ยมละออ อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 4 รายงานความคืบหน้าของการก่อสร้างส่วนที่ 2 ระบบส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวา สัญญาจ้างกับบริษัท สี่แสงการโยธา (1979) จำกัด ( ผู้รับเหมาก่อสร้างระบบส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวา) และ ส่วนที่ 3 เป็นการก่อสร้างระบบส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย “ นายยุทธนา มหานุกูล ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 12 นายฐิติปพัฒน์ สาลีฒพันธ์ หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรม สำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 4 นายกมล บุญล้อม วิศวกรควบคุมงานบริษัท สี่แสงการโยธา (1979 ) จำกัด ตลอดจนผู้บริหารบริษัท สี่แสงการโยธา (1979 ) จำกัด และ เจ้าหน้าที่ในสังกัดกรมชลประทาน ต้อนรับอย่างอบอุ่น ที่โครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก จ.อุตรดิตถ์ ภายหลังการประชุมได้ลงพื้นที่ดูหน้างานความก้าวหน้าระบบส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวา
ด้านนายประพิศ รองอธิบดีฝ่ายก่อสร้าง กรมชลประทาน กล่าวว่า โครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก จังหวัดอุตรดิตถ์ มีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 36.2% โดยรูปแบบโครงการประกอบด้วยพื้นที่หัวงานอาคารประกอบ งานคลองระบบส่งน้ำ ระบบระบายน้ำและงานอย่างอื่นที่เกี่ยวข้อง ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดสุโขทัย และ จังหวัดพิษณุโลก จะช่วยน้ำด้านการเกษตรในลุ่มน้ำน่านตอนล่าง บริเวณ อำเภอเมือง อำเภอลับแล อำเภอตรอน อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ และอำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก เพื่อพัฒนาระบบชลประทาน ประมาณ 481,400 ไร่ ( พัฒนาพื้นที่เกษตรน้ำฝนที่มีศักยภาพให้เป็นพื้นที่ชลประทาน ประมาณ 304,000 ไร่ และ ส่งน้ำสนับสนุนและปรับเปลี่ยนระบบส่งน้ำจากเดิมโดยการสูบน้ำด้วยไฟฟ้าเป็นระบบส่งน้ำด้วยแรงโน้มถ่วง ประมาณ 134,800 ไร่ และ พื้นที่โครงการชลประทานน้ำริด จังหวัดอุตรดิตถ์ ประมาณ 42,600 ไร่ )
ทั้งนี้ โครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก จ.อุตรดิตถ์ มีทั้งระบบคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวาและฝั่งซ้าย ส่วนด้านปัญหาที่เกิดความล่าช้า คือ การส่งมอบที่ดินให้เอกชนที่รับเหมาก่อสร้างรับไปดำเนินการและปัญหาการแก้แบบ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้เร่งรัดการส่งคำข้อต่อกรมที่ดินเพื่อให้เร่งรังวัดส่งมอบพื้นที่และจ่ายค่าที่ดินให้กับประชาชน ในส่วนของแบบที่มีการแก้ไขให้เร่งรวบรวมแบบที่ต้องแก้เพื่อเสนอแก้ไขในคราวเดียวกันโดยให้เร่งส่งภายใน 2 เดือน อย่างไรก็ตาม หากการก่อสร้างแล้วเสร็จจะเพิ่มพื้นที่ชลประทานได้ 481,400 ไร่ นายประพิศ กล่าว.
ด้านนายประพิศ รองอธิบดีฝ่ายก่อสร้าง กรมชลประทาน กล่าวว่า โครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก จังหวัดอุตรดิตถ์ มีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 36.2% โดยรูปแบบโครงการประกอบด้วยพื้นที่หัวงานอาคารประกอบ งานคลองระบบส่งน้ำ ระบบระบายน้ำและงานอย่างอื่นที่เกี่ยวข้อง ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดสุโขทัย และ จังหวัดพิษณุโลก จะช่วยน้ำด้านการเกษตรในลุ่มน้ำน่านตอนล่าง บริเวณ อำเภอเมือง อำเภอลับแล อำเภอตรอน อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ และอำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก เพื่อพัฒนาระบบชลประทาน ประมาณ 481,400 ไร่ ( พัฒนาพื้นที่เกษตรน้ำฝนที่มีศักยภาพให้เป็นพื้นที่ชลประทาน ประมาณ 304,000 ไร่ และ ส่งน้ำสนับสนุนและปรับเปลี่ยนระบบส่งน้ำจากเดิมโดยการสูบน้ำด้วยไฟฟ้าเป็นระบบส่งน้ำด้วยแรงโน้มถ่วง ประมาณ 134,800 ไร่ และ พื้นที่โครงการชลประทานน้ำริด จังหวัดอุตรดิตถ์ ประมาณ 42,600 ไร่ )
ทั้งนี้ โครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก จ.อุตรดิตถ์ มีทั้งระบบคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวาและฝั่งซ้าย ส่วนด้านปัญหาที่เกิดความล่าช้า คือ การส่งมอบที่ดินให้เอกชนที่รับเหมาก่อสร้างรับไปดำเนินการและปัญหาการแก้แบบ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้เร่งรัดการส่งคำข้อต่อกรมที่ดินเพื่อให้เร่งรังวัดส่งมอบพื้นที่และจ่ายค่าที่ดินให้กับประชาชน ในส่วนของแบบที่มีการแก้ไขให้เร่งรวบรวมแบบที่ต้องแก้เพื่อเสนอแก้ไขในคราวเดียวกันโดยให้เร่งส่งภายใน 2 เดือน อย่างไรก็ตาม หากการก่อสร้างแล้วเสร็จจะเพิ่มพื้นที่ชลประทานได้ 481,400 ไร่ นายประพิศ กล่าว.