สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในช่วงเวลาที่ผ่านมาซึ่งหลายคนต้องทำงาน Work from Home ส่งผลให้การเรียนรู้ทางออนไลน์เป็นที่นิยมเป็นอย่างยิ่ง เช่นเดียวกับหลักสูตร CHULA MOOC ภายใต้การดำเนินงานของศูนย์นวัตกรรมการเรียนรู้ จุฬาฯ ซึ่งเปิดคอร์สเรียนออนไลน์ในวิชาต่างๆ มาตั้งแต่ปี 2560 ก็ได้รับความสนใจจากประชาคมจุฬาฯ และผู้สนใจทั่วไปอย่างล้นหลามเช่นกัน หลายวิชาใน CHULA MOOC มีผู้สมัครเรียนเต็มจำนวนในเวลาอันรวดเร็ว รวมถึงในปัจจุบันก็ยังคงมีผู้สมัครเข้าเรียนออนไลน์ในวิชาต่างๆ เป็นจำนวนมาก
ดร.ภัทรชาติ โกมลกิติ ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการเรียนรู้ จุฬาฯ เปิดเผยว่า CHULA MOOC เป็น Lifelong Learning สำหรับคนทั่วไป รวมไปถึงการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้จริง ในช่วงที่มีการระบาดของ COVID-19 โดยเฉพาะในเดือนเมษายน มีการเปิดวิชาต่างๆ ใน CHULA MOOC ให้ผู้สนใจเรียนเพิ่มขึ้น จากเดิมที่เคยเปิดเดือนละ 5 วิชา เปิดเพิ่มเป็นสัปดาห์ละ 5 วิชา รวมเป็น 25 วิชาในเดือนเมษายน ผลตอบรับที่ได้คือทุกวิชาในเดือนนั้น 5,000 ที่นั่งเต็มหมด หลังจากเริ่มคลาย Lockdown คนเริ่มกลับมาทำงานตามปกติ แต่วิชาต่างๆ ของ CHULA MOOC ก็ยังเป็นที่นิยมค่อนข้างสูงเนื่องจากคนเริ่มเปิดใจกับการเรียนออนไลน์มากขึ้น
“วิชาในหมวดภาษาจะเต็มเร็วมาก บางครั้งเปิดไป 3 ชั่วโมงก็เต็มแล้ว แม้จะเปิดรับผู้เรียนในหมวดวิชานี้เพิ่มขึ้นเป็น 10,000 ที่นั่ง ผู้เรียนก็ยังเต็มเหมือนเดิม เราเพิ่งปรับปรุงเว็บไซต์ CHULA MOOC ไปเมื่อเดือนมิถุนายน ซึ่งในเว็บไซต์ใหม่มีความสวยงาม ใช้งานง่ายขึ้น มีการแบ่งวิชาอย่างชัดเจนสำหรับกลุ่มประชาชนทั่วไปและวิชาที่เปิดเป็นพิเศษสำหรับนิสิตและบุคลากรจุฬาฯ ในทุกๆ เดือนจะมีการเปิดวิชาใหม่โดยเฉลี่ยประมาณ 2 วิชา ดังนั้นจะมีวิชาใหม่ผสมวิชาเก่าที่เปิดให้เรียนออนไลน์ทุกเดือนๆ ละ 5 วิชา วิชาที่ได้รับความนิยมจะนำมาเปิดให้เรียนใหม่ทุกๆ 3-4 เดือน ปัจจุบันมีการเปิดวิชาต่างๆ ใน CHULA MOOC ไปแล้วมากกว่า 70 วิชา ซึ่งจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อีกประมาณ 30 วิชา เพื่อตอบสนองนโยบายของมหาวิทยาลัยในการสร้างคลังความรู้ดิจิตอลสำหรับประชาชนทั่วไป” ดร.ภัทรชาติ กล่าว
ในส่วนของหลักสูตร CHULA MOOC Achieve ดร.ภัทรชาติ เผยว่า เป็นหลักสูตรเพื่อให้ผู้เรียน ในภาคธุรกิจนำไปใช้ประกอบกิจการหรือทำงานในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีวิชาที่เปิดสอนในหลักสูตรเพิ่มขึ้น มีการเปิดสอนด้วย Pathway ต่างๆ โดยในปี 2563 มีการเปิดตัว Pathway ที่มีชื่อว่า “Thinking Like a Programmer” เนื่องจากในโลกยุคดิจิทัลเช่นปัจจุบัน ทักษะเรื่อง Coding มีความสำคัญ จึงมีการพัฒนาเป็นวิชาเกี่ยวกับ Coding ผู้เรียนจะเริ่มต้นจากพื้นฐานการพัฒนาการเขียนโปรแกรม ซึ่งได้รับเสียงตอบรับที่ดีพอสมควร
ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการเรียนรู้ จุฬาฯ ให้ข้อมูลว่า ทุกวันนี้การเรียนออนไลน์ มีทั้งการจัดการเรียนสอนออนไลน์ในรายวิชาต่างๆ ในมหาวิทยาลัย ซึ่งศูนย์นวัตกรรมการเรียนรู้รับผิดชอบงานในส่วนนี้ด้วย นับเป็นความท้าทายอย่างยิ่งเนื่องจากเป็นการเปลี่ยนกระบวนการการจัดเรียนการสอนใหม่ อีกส่วนหนึ่งคือการให้ความรู้ผ่านสื่อออนไลน์ ซึ่งได้เริ่มรับความนิยมอย่างมาก จุดเด่นที่ชัดเจนของ CHULA MOOC ก็คือ การเป็น Platform มีการประเมินผลที่แตกต่าง นอกจากการเรียนแล้วยังมีกิจกรรมให้ทำ ผู้เรียนต้องตอบคำถาม ความรู้จะเกิดขึ้นไม่ได้จากการรับฟังอย่างเดียวแต่ต้องลงมือปฏิบัติด้วย นอกจากนี้แต่ละบทเรียนย่อยของ CHULA MOOC เป็นบทเรียนที่ผ่านการออกแบบล่วงหน้าว่าจาก 1 ถึง 10 ผู้เรียนจะเดินตามเส้นทางที่ออกแบบไว้ โดยมีกรรมการตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหา
“การเรียนออนไลน์เป็นสิ่งสำคัญ และน่าจะเป็นวิธีการที่ง่ายที่สุดในการที่จะทำให้เกิดการเรียนรู้ ทั้งในแง่ของข้อจำกัดเรื่องการเดินทาง รวมไปถึงวัฒนธรรมที่เริ่มปรับเปลี่ยน คนเริ่มเปิดใจกับการเรียนออนไลน์มากขึ้น มหาวิทยาลัยส่งเสริมให้คณาจารย์นำเนื้อหาวิชาที่มีความจำเป็นในการตอบโจทย์กับสังคมไทยมาเปิดสอนใน CHULA MOOC ปัจจุบันจุฬาฯ มีเนื้อหาวิชาที่เกี่ยวกับนวัตกรรมอยู่พอสมควร รวมทั้งมีจัดการเรียนการสอนแบบ Blended Learning คณาจารย์ผู้สอนสามารถนำ content มาพัฒนาเป็นรายวิชาที่เป็นออนไลน์ และนำมาปรับเปลี่ยนกระบวนการจัดการเรียนการสอนให้ทันสมัย สามารถเข้าถึง content ที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้” ดร.ภัทรชาติ กล่าวในที่สุด
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมการเปิดหลักสูตรต่างๆ ของ CHULA MOOC ได้ที่ https://mooc.chula.ac.th/