เมื่อวันที่ 25 ก.ค.นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธปัตย์ กล่าวถึงการเสนอญัตติขอให้สภาผู้แทนราษฎร ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญรับฟังปัญหาการชุมนุมของนักศึกษา หรือนำส่งให้แก่คณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาฯ หรือส่งให้รัฐบาลนำไปพิจารณาแก้ไขปัญหาโดยตรง ว่า การเสนอญัตติทั้ง 6 ญัตติของส.ส.ของรัฐบาล และฝ่ายค้าน ล้วนแต่ต้องการนำปัญหาการชุมนุมของนักศึกษาช่วยกันหาแนวทาง หรือวิธีการในการแก้ไขปัญหาทั้งหมดให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้รับรู้แล้ว การจะให้ใครเป็นผู้รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหานั้น เป็นเพียงแค่พิธีกรรมเท่านั้น เพราะผู้ที่รับผิดชอบโดยตรงก็คือรัฐบาล จนถึงบัดนี้การชุมนุมของนักศึกษากำลังลุกลามขยายพื้นที่การชุมนุมไปสู่ภูมิภาคในหลายจังหวัด กำลังขยายผลลงไปถึงโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาแล้ว จึงเสนอให้รัฐบาลได้ให้ความสำคัญและติดตามการชุมนุมของนักเรียน นักศึกษาอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ปัญหาลุกลามไปมากกว่านี้ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ควรจะรับข้อเรียกร้องประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญเอาไว้ก่อน ซึ่งข้อเรียกร้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญของกลุ่มนักศึกษาก็สอดคล้องกับนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลไม่ควรจะโยนเรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎร โดยข้ออ้างว่า ได้มีคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 แล้ว เป็นการแก้ปัญหาไม่ถูกจุด เกาไม่ถูกที่คัน เพื่อเป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม สกัดไม่ให้สถานการณ์การชุมนุมขยายตัวลุกลามไปมากกว่านี้ พล.อ.ประยุทธ์ควรถอดสลัก หรือขนวนความขัดแย้งด้วยตัวเอง ประกาศให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเสียเอง ก็อาจจะทำให้สถานการณ์การชุมนุมคลี่คลายลงไปได้ "ส่วนที่พรรคร่วมฝ่ายค้านบอยคอตไม่เข้าร่วมสังฆกรรมกับการตั้งกรรมาธิการ ก็เป็นสิทธิ์ของพรรคฝ่ายค้านที่สามารถทำได้ แต่เพื่อให้ครบองค์ประกอบของคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ ก็ต้องแต่งตั้งพรรคร่วมรัฐบาลทดแทนในสัดส่วนของพรรคฝ่ายค้านที่หายไปโดยเร็วที่สุด เพื่อให้คณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ได้ทำงานได้อย่างรวดเร็ว เพื่อลบคำครหาว่า เป็นการซื้อเวลา เตะล่วงปัญหาให้กับรัฐบาล ตามที่พรรคฝ่ายค้านกล่าวหาไว้"นายเทพไท กล่าว