"ศบค."พบผู้ติดเชื้อโควิด-19รายใหม่ 8 ราย กลับจากอียิปต์-ซูดาน-อเมริกาไม่มีตายเพิ่ม ไร้ติดเชื้อรายใหม่ภายในประเทศติดต่อกัน 59 วัน ส่วน"ทหารไทย" กลับจากอเมริกาพบ 10 ราย เข้าเกณฑ์ "PUI" รอผลตรวจหาเชื้อ ที่กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 23 ก.ค.63 พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษก ศูนย์บริหารสถาน การณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)หรือศบค.แถลงว่า วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8 ราย เดินทางกลับมาจากประเทศอียิปต์ 4 ราย ประเทศซูดาน 2 ราย ประเทศสหรัฐอเมริกา 2 ราย ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 3,269 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มรวมยอดเสียชีวิตสะสม 58 ราย หายป่วยกลับบ้านได้ 0 ราย รวมยอดหายป่วยสะสม 3 ,105 ราย และรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 106 ราย ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จากภายในประเทศ ติดต่อกันเป็นวันที่ 59 พญ.พรรณประภา กล่าวถึงกรณีทหารไทย 151 นาย ที่เดินทางกลับมาจากการฝึกซ้อมรบที่ประเทศสหรัฐฯว่า ทหารไทยทั้ง 151 นาย ได้เดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 22 ก.ค. เวลา 18.50 น. โดยได้มีการตรวจคัดกรองโรคตามขั้นตอนของกระทรวงสาธารณสุขทุกคน ซึ่งพบว่ามี 10 นาย เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค (PUI) เนื่องจากมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ และมีเสมหะ ซึ่งได้ส่งตัวไปรับการรักษาที่ รพ.พระมงกุฎเกล้า และอยู่ระหว่างรอผลตรวจหาเชื้อจากห้องปฏิบัติการ ส่วนอีก 140 นาย ไม่เข้าเกณฑ์ PUI แต่ต้องไปสังเกตอาการอยู่ในสถานที่กักตัวที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) ใน จ.ชลบุรี เป็นระยะเวลา 14 วัน สำหรับที่เหลืออีก 1 นาย พบว่ามีโรคประจำตัว จึงต้องส่งตัวไปรักษาที่ รพ. ด้าน กระทรวงสาธารณสุขและบริการประชาชนของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ได้ลงนามทำสัญญากับบริษัทไฟเซอร์อิงค์ ในการสั่งซื้อวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 จำนวน 100 ล้านโดส คิดเป็นมูลค่า 1.95 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดย นายอเล็กซ์ อาซาร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและบริการประชาชนของสหรัฐฯ กล่าวว่า ทางไฟเซอร์จะเริ่มผลิตวัคซีน 100 ล้านโดสข้างต้น ตั้งแต่เดือน ธ.ค.เป็นต้นไป และยังมีเงื่อนไขด้วยว่าทางการสหรัฐฯ สามารถสั่งซื้อวัคซีนโควิดฯ เพิ่มได้อีก 500 ล้านโดส รวมถึงการกำหนดให้ทางบริษัทฯ ผลิตวัคซีนที่มีความปลอดภัยและป้องกันโรคโควิดฯ อย่างได้ผล ขณะที่ สถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องทั่วโลก ส่งผลให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นจำนวน 15,379,791 ราย ผู้ป่วยที่เสียชีวิตมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 630,312 ราย และผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจนหายมีจำนวนสะสม 9,354,882 ราย โดยประเทศสหรัฐอเมริกา มีผู้ป่วยสะสมสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 4,100,875 ราย และมีผู้ป่วยเสียชีวิตสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 146,183 ราย