เมื่อเวลา 08.00 น. 23 ก.ค.63 ที่วัดบางแพรกใต้ ถนนนนทบุรี 1 ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่นำร่างซีอุยซึ่งบรรจุอยู่ในโลงสีขาวเดินทางจาก รพ.ศิริราช มาถึงวัดบางแพรกใต้ ก่อนนำลงจากรถไปตั้งไว้ยังเมรุของวัด โดยมีการทำพิธีทางศาสนาตามประเพณี ซึ่งคาดว่าจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกรมราชทัณฑ์ เรือนจำกลางบางขวางรวมทั้งประชาชนที่ทราบข่าวเดินทางมาร่วมงานปิดตำนานซีอุยในครั้งนี้
สำหรับ "ซีอุย แซ่อึ้ง" ชายชาวจีนที่ถูกตัดสินโทษประหารชีวิต เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2502 ที่เรือนจำบางขวาง ในคดีฆาตกรรมเด็กชายสมบุญ บุญกาญจน์ ที่ จ.ระยอง เมื่อปี 2501 โดยศพถูกชำแหละ ตับและหัวใจหายไป คดีนี้ซีอุยถูกจับได้ขณะกำลังอำพรางศพด้วยการเผา
ขณะถูกจับกุม ซีอุยรับสารภาพย้อนหลังไปถึง 4 ปีว่า ได้ฆ่าเด็กอีก 6 คน รวมเป็น 7 คน แบ่งเป็นประจวบฯ 4 คดี ระยอง 1 คดี นครปฐม 1 คดี และกรุงเทพอีก 1 คดี
หลังซีอุยถูกประหาร ร่างของเขาถูกนำไปศึกษาความผิดปกติทางสมอง และนำร่างไปจัดแสดงในตู้โชว์พิพิธภัณท์นิติเวชศาสตร์ ศิริราช พร้อมติดป้ายว่าเป็น "มนุษย์กินคน"
กระทั่งกลางปี 2562 พิพิธภัณฑ์นิติเวช ศิริราช ยอมปลดป้ายซีอุยมนุษย์กินคนออก เหลือเพียงนักโทษประหารชีวิตคดีฆาตกรรม ต่อมาได้นำร่างออกจากตู้โชว์ และแจ้งให้ญาติมารับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา แต่ผ่านไปหลายเดือนก็ไม่มีใครมาแสดงตัวว่าเป็นญาติซีอุย กระทั่ง 15 ก.ค. 63 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้ทำหนังสือถึงเรือนจำบางขวาง กรมราชทัณฑ์ ให้มารับร่างซีอุยไปประกอบพิธีทางศาสนาในวันที่ 23 ก.ค.นี้
ผ่านมา 60 ปี เกิดกระแสเรียกร้องให้นำร่างซีอุยออกมาจากพิพิธภัณท์ โดยมีการร้องเรียนไปยังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และครั้งหนึ่งนางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในขณะนั้น ก็เคยลงพื้นที่ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเก็บข้อมูลเรื่องนี้
นางอังคณา กล่าวต่อว่า เรื่องนี้เกิดขึ้น 60 ปีมาแล้ว วันนี้เราไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าการหาพยานหลักฐานในวันนั้น มันผิดหรือมันถูกอย่างไร แต่ว่านายซีอุย ได้รับการลงโทษแล้ว ก็ต้องถือว่าความผิดของนายซีอุย สิ้นสุดแล้ว เขาไม่ได้เป็นนักโทษเเล้ว นับตั้งแต่วันที่เขาได้รับโทษสูงสุดแล้ว วันนี้ถือว่าเป็นการคืนศักดิ์ศรีให้กับเขาแล้ว ไม่ว่าเขาจะเป็นใครก็ตาม ซึ่งวันนี้นับว่าเป็นวันแรกในรอบ 20 ปี ที่ทางราชทัณฑ์ ได้จัดให้มีการฌาปนกิจศพนักโทษประหารที่ไม่มีญาติ เพราะนักโทษประหารที่มีญาติ ทางญาติก็จะมารับศพกลับไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป
กระทั่งกลางปี 2562 พิพิธภัณฑ์นิติเวช ศิริราช ยอมปลดป้ายซีอุยมนุษย์กินคนออก เหลือเพียงนักโทษประหารชีวิตคดีฆาตกรรม ต่อมาได้นำร่างออกจากตู้โชว์ และแจ้งให้ญาติมารับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา แต่ผ่านไปหลายเดือนก็ไม่มีใครมาแสดงตัวว่าเป็นญาติซีอุย กระทั่ง 15 ก.ค. 63 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้ทำหนังสือถึงเรือนจำบางขวาง กรมราชทัณฑ์ ให้มารับร่างซีอุยไปประกอบพิธีทางศาสนาในวันที่ 23 ก.ค.นี้
ผ่านมา 60 ปี เกิดกระแสเรียกร้องให้นำร่างซีอุยออกมาจากพิพิธภัณท์ โดยมีการร้องเรียนไปยังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และครั้งหนึ่งนางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในขณะนั้น ก็เคยลงพื้นที่ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเก็บข้อมูลเรื่องนี้
นางอังคณา กล่าวต่อว่า เรื่องนี้เกิดขึ้น 60 ปีมาแล้ว วันนี้เราไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าการหาพยานหลักฐานในวันนั้น มันผิดหรือมันถูกอย่างไร แต่ว่านายซีอุย ได้รับการลงโทษแล้ว ก็ต้องถือว่าความผิดของนายซีอุย สิ้นสุดแล้ว เขาไม่ได้เป็นนักโทษเเล้ว นับตั้งแต่วันที่เขาได้รับโทษสูงสุดแล้ว วันนี้ถือว่าเป็นการคืนศักดิ์ศรีให้กับเขาแล้ว ไม่ว่าเขาจะเป็นใครก็ตาม ซึ่งวันนี้นับว่าเป็นวันแรกในรอบ 20 ปี ที่ทางราชทัณฑ์ ได้จัดให้มีการฌาปนกิจศพนักโทษประหารที่ไม่มีญาติ เพราะนักโทษประหารที่มีญาติ ทางญาติก็จะมารับศพกลับไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป