สำหรับการประกวดสุดยอดหมู่บ้านท่องเที่ยวชนบท และหมู่บ้านโอทอป เพื่อการท่องเที่ยว เป็นการช่วยยกระดับคุณภาพการท่องเที่ยวชุมชนในระดับประเทศ ขยายผลสร้างการรับรู้ระดับนานาชาติ ส่งเสริมด้านการตลาด สร้างความเชื่อมั่น และสร้างการรับรู้ให้กับนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมาย เพื่อยกระดับ แบรนด์การท่องเที่ยวโดยชุมชน ได้ประกาศผล 25 ชุมชนหมู่บ้านท่องเที่ยวชนบท และ 100 ชุมชนหมู่บ้านโอทอปเพื่อการท่องเที่ยว ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย ทั้งนี้ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า การจัดประกวดในครั้งนี้เป็นครั้งประวัติศาสตร์ที่บูรณาการทำงานร่วมกันจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา กว่า 40 องค์กร ซึ่ง ทุกชุมชนที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายจะเข้าสู่กระบวนการคัดสรรพิจารณาตัดสินจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และปิดท้ายด้วยการให้นักท่องเที่ยวร่วมโหวตเพื่อให้ได้ผลตัดสินที่เป็นเอกฉันท์รอบด้านครบทุกมิติ โดยมีการประกาศผล และมอบรางวัลสุดยอดหมู่บ้านท่องเที่ยวชนบท ในวันที่ 27 กันยายน 2563 ซึ่งตรงกับวันท่องเที่ยวโลก World Tourism Day ในส่วนของรางวัลสุดยอดหมู่บ้านโอทอป เพื่อการท่องเที่ยว ทางคณะกรรมการจะลงพื้นที่ให้คะแนนตัดสินและมอบรางวัล ในช่วงปลายปี 2563 นี้ จึงเป็นรางวัลที่จะสร้างความภาคภูมิใจให้กับทุกชุมชนอย่างแท้จริง สำหรับผู้ชนะจากการประกวดครั้งนี้ นอกจากจะได้รับโล่รางวัลแล้วยังจะได้รับการประชาสัมพันธ์ ต่อยอดขยายผลทางการตลาดและขายอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านสื่อต่าง ๆ มากมาย รวมทั้งการขายผ่านแพลทฟอร์มออนไลน์ระดับโลก Airbnb เป็นต้น ซึ่งทาง ททท. เชื่อมั่นว่ากิจกรรมการประกวดในครั้งนี้ จะทำให้ชุมชนมีแรงจูงใจในการพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถของชุมชนในด้านการท่องเที่ยวมากขึ้น ตลอดจนการส่งเสริมภาพลักษณ์ และยกระดับคุณภาพการท่องเที่ยวโดยชุมชน สร้างความเชื่อมั่นและแรงบันดาลใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวชุมชนได้ทั้งในระดับประเทศ และขยายผลสร้างการรับรู้ในระดับนานาชาติได้อีกด้วย อีกทั้งยังสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ ภายใต้นโยบายของรัฐที่มุ่งหวังพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืนตามยุทธศาสตร์ของชาติ ในยามที่ประเทศจำเป็นต้องพึ่งพาความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจภายในจากการที่โลกต้องเผชิญกับวิกฤติโควิด-19