วันนี้ ( 20 กรกฎาคม 2563 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.30 น. ทาง ร.ต.อ.อาคม แก้วหน่อ พนักงานสอบสวนร้อยเวร สภ.เชียงคำ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีอุบัติเหตุชนกันที่บริเวณถนนด้านหน้า หจก.แอ๊ดเจริญยนต์ เชียงคำ ถ. เชียงคำ-เทิง บ้านแดนเมือง ม.7 ต.หย่วน อ.เชียงคำ จ.พะเยา จึงได้ลงพื้นที่เกิดเหตุทันที เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น แจ๊ส สีขาว หมายเลขทะเบียน วอ-1775 กรุงเทพฯ สภาพพังยับ มี น.ส.มณีรัตน์ แสงศรีจันทร์ อายุ 29 ปี เป็นคนขับได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยส่วนอีกคันเป็นรถเทรนเลอร์ขนาดใหญ่หมายเลขทะเบียน 85-9234 พะเยา มีนายสงวน คุ้มบุ่งค้า อายุ 33 ปี เป็นผู้ขับขี่ รถอยู่ในสภาพรถล้อหลังชี้ฟ้า นอกจากนี้ยังมีรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน บธ-3653 พะเยา ซึ่งมีนายเชน อำขำ อายุ 60 ปี ลงข้างทางอีก 1 คัน อยู่ในยสภาพพังยับไม่ต่างกัน โชคดีมีผู้ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ไม่มีผู้เสียชีวิต
จากการสอบถาม พ.ต.ต.วีรศักดิ์ ชาวริม เจ้าของ หจก.แอ๊ด เจริญยนต์ ผู้เห็นเหตุการณ์ได้เล่าว่า รถยนต์ฮอนด้าแจ๊สของ น.ส.มณีรัตน์ แสงศรีจันทร์ ซึ่งเป็นลูกน้องในร้านของตนเอง กำลังจะเลี้ยวรถเข้ามาในร้าน โดยก่อนหน้านั้นตนเองได้ใช้ให้ น.ส.มณีรัตน์ ไปที่สำนักงานขนส่งพะเยา สาขาภูซางเพื่อเดินเอกสารเรื่องรถที่ซื้อขายของลูกค้า หลังจากนั้นพบว่ามีรถกระบะของนายเชน ขับมาด้วยความเร็วและชนท้ายรถของลูกน้องตนเองเข้าอย่างจังจนทำให้รถยนต์หมุนกลางถนนทันที แล้วรถเทรนเลอร์ที่ตามมานั้นรีบหักหลบจนลงข้างทางจนเป็นอุบัติเหตุดังกล่าว
ด้านนายสงวน คนขับรถเทรนเลอร์ เปิดเผยว่าตนเองได้ขับอกจากร้านวัสดุก่อสร้างที่หน้า รพ.เชียงคำ เพื่อที่จะนำท่อปูนขนาดใหญ่ไปส่งให้กับลูกค้าที่บ้านสบบง อ.ภูซาง แต่เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุตนเองเห็นรถกระบะชนท้ายรถเก๋งอย่างจังจนหมุนเหมือนลูกข่าง ทำให้ตนเองต้องรีบเบรครถกระทันหันแล้วหักหลบแต่กลับมีรถจักรยานยนต์ซึ่งคนขับเป็นผู้หญิงขับมาตามเลนปกติ ทำให้ตนเองตัดสินใจหักลงข้างทางหากไม่เช่นนั้นแล้วหญิงสาวที่ขับรถจักรยานยนต์มานั้นอาจจะเสียชีวิตก็ได้ แต่ทั้งนี้หากอยากรู้ว่าเหตุการณ์เป็นแบบไหนให้ไปดูภาพจากกล้องวงจรปิดจาการร้าน หจก.แอ๊ดเชียงคำเจริญยนต์ได้ เพราะจะได้รู้ว่าใครผิดใครถูกในเหตุการณ์นี้
จากการสอบถาม พ.ต.ต.วีรศักดิ์ ชาวริม เจ้าของ หจก.แอ๊ด เจริญยนต์ ผู้เห็นเหตุการณ์ได้เล่าว่า รถยนต์ฮอนด้าแจ๊สของ น.ส.มณีรัตน์ แสงศรีจันทร์ ซึ่งเป็นลูกน้องในร้านของตนเอง กำลังจะเลี้ยวรถเข้ามาในร้าน โดยก่อนหน้านั้นตนเองได้ใช้ให้ น.ส.มณีรัตน์ ไปที่สำนักงานขนส่งพะเยา สาขาภูซางเพื่อเดินเอกสารเรื่องรถที่ซื้อขายของลูกค้า หลังจากนั้นพบว่ามีรถกระบะของนายเชน ขับมาด้วยความเร็วและชนท้ายรถของลูกน้องตนเองเข้าอย่างจังจนทำให้รถยนต์หมุนกลางถนนทันที แล้วรถเทรนเลอร์ที่ตามมานั้นรีบหักหลบจนลงข้างทางจนเป็นอุบัติเหตุดังกล่าว
ด้านนายสงวน คนขับรถเทรนเลอร์ เปิดเผยว่าตนเองได้ขับอกจากร้านวัสดุก่อสร้างที่หน้า รพ.เชียงคำ เพื่อที่จะนำท่อปูนขนาดใหญ่ไปส่งให้กับลูกค้าที่บ้านสบบง อ.ภูซาง แต่เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุตนเองเห็นรถกระบะชนท้ายรถเก๋งอย่างจังจนหมุนเหมือนลูกข่าง ทำให้ตนเองต้องรีบเบรครถกระทันหันแล้วหักหลบแต่กลับมีรถจักรยานยนต์ซึ่งคนขับเป็นผู้หญิงขับมาตามเลนปกติ ทำให้ตนเองตัดสินใจหักลงข้างทางหากไม่เช่นนั้นแล้วหญิงสาวที่ขับรถจักรยานยนต์มานั้นอาจจะเสียชีวิตก็ได้ แต่ทั้งนี้หากอยากรู้ว่าเหตุการณ์เป็นแบบไหนให้ไปดูภาพจากกล้องวงจรปิดจาการร้าน หจก.แอ๊ดเชียงคำเจริญยนต์ได้ เพราะจะได้รู้ว่าใครผิดใครถูกในเหตุการณ์นี้