มาตามนัด! "เรนนี่-บ๊วย-เจมส์" 3 พิธีกรจากรายการ"ช่องส่องผี"นำทีมขอขมา"ย่าโม" ท้าวสุรนารี โดยจังหวัดจัดกำลังเจ้าหน้าที่ ตร.กว่า 150 นาย คุมเข้ม ขณะที่"เรนนี่"กล่าวขอขมายังบอกชื่อจังหวัดผิด เรียกเสียงฮือฮาของคนโคราชที่เดินทางมารอดูอย่างเนื่องแน่น "บ๊วย"ประกาศมอบ"ห้องแอดมิทความดันลบเคลื่อนที่" ราคากว่า 1.8 ล้าน ให้รพ.มหาราชนครราชสีมา เพื่อใช้เป็นสาธารณะประโยชน์ จากกรณีรายการช่องส่องผี ได้เดินทางมาถ่ายทำรายการที่วัดศาลาลอย อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา และได้กล่าวลบหลู่ครอบครัวของท้าวสุรนารี หรือย่าโม และย่าบุญเหลือ สร้างความไม่พอใจให้กับพี่น้องประชาชนชาวโคราช จนหลายฝ่ายได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ดำเนินรายการและเรียกร้องให้ผู้ดำเนินรายการ เดินทางมาขอขมาคุณย่าโมและย่าบุญเหลือที่จ.นครราชสีมา ต่อมาทางรายการฯ ได้นัดวันที่ 19 ก.ค.จะเดินทางมาขอขมา โดยจะทำพิธีขอขมา 2 จุด ประกอบด้วย บริเวณอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี และวัดศาลาลอย ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำรายการตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุด เมื่อวันที่ 19 ก.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี หรือย่าโม ใจกลางเมืองนครราชสีมา ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา จัดกำลังทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 150 นาย คอยตรวจตราความเรียบร้อย เพื่อเตรียมความพร้อมดูแลความสงบเรียบร้อย ทั้ง 2 จุด มีข้าราชการ ตัวแทนภาคประชาชน และพี่น้องชาวโคราช มาร่วมเป็นสักขีพยานจำนวนมาก ต่อมา เวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเชษฐวุฒิ วัชรคุณ หรือบ๊วย พร้อมด้วย เรนนี่ และเจมส์ 3 พิธีกรจากรายการ "ช่องส่องผี" ได้เดินทางมาที่วัดศาลาลอย จ.นครราชสีมา เพื่อเข้าขอขมาลาโทษ "ย่าโม" ท้าวสุรนารี ปมบิดเบือนประวัติศาสตร์ จนถูกกระแสสังคมวิจารณ์หนัก โดยในช่วงหนึ่งของการขอขมา เรนนี่ ได้กล่าวชื่อจังหวัดผิดว่า ขอโทษพี่น้องชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชทุกท่าน ทำให้มีเสียงฮือฮาจากประชาชนชาวโคราชที่มาร่วมเฝ้าดู ก่อนที่เจ้าตัวจะกล่าวขอโทษออกไมค์ที่เรียกชื่อจังหวัดผิด ทั้งนี้ได้มีประชาชนให้ความสนใจและเข้ามารอชมกันอย่างล้นหลาม ขณะที่ นายเชษฐวุฒิ ได้กล่าวภายหลังทำพิธีขอขมาต่อ "ย่าโม่" เสร็จสิ้นแล้ว ว่า จะมอบห้องแอดมิทความดันลบเคลื่อนที่ให้กับรพ.มหาราชนครราชสีมา มีมูลค่าประมาณ 1.8 ล้านบาทเศษ สามารถใช้ในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยได้ เพื่อป้องกันการสูญเสียที่เกิดขึ้น ซึ่งการมอบครั้งนี้ทางครอบครัวช่องส่องผี โดยประชาชนทั่วประเทศร่วมใจกันมอบให้เพื่อเป็นสาธารณะประโยชน์ และขอให้ชื่อว่า "ห้องย่าโม" และ "ห้องย่าบุญเหลือ"