เมื่อเวลา 13.00 น.วานนี้ (16 ก.ค.63 ) ที่พระอุโบสถ์วัดม่วงชุม หมู่ 5 ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี นายพิศาล เตชะวิภาค ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รองนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย ประธานชมรมมรดกไทย พร้อมด้วย พล.ต.ต.วรณัน สุขเจริญ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี นายมนัส สุดพวง ผอ.สำนักงาน ชป.ที่ 13 นายพงษ์ศักดิ์ ฤทธิสมิต ผอ.โครงการก่อสร้าง สนง.ชป.ที่ 13 นายวิบูลย์ เจริญพร นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลม่วงชุม นายพงศกร อุตตนางกูร ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่กลอง นายประวิทย์ สวัสดิ์ดวง อดีต ผอ.สำนักงานชลประทานที่ 13 นายวิเชียร เจริญศรี อดีต ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษานครชุม นายไพศาล พงศ์นรภัทร รอง ผอ.สำนักงานชลประทานที่ 13 ร่วมเป็นประธานฝ่ายฆราวาส ร่วมกับคณะสงฆ์ซึ่งประกอบด้วยพระครูอดุลพิริยานุวัตร ปัญญาวุโธหรือหลวงปู่ชุบ เจ้าอาวาสวัดวังกระแจะ อ.ไทรโยคฯ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์เจ้าพิธีในการเจริญพระคาถาพุทธาภิเษกวัตถุมงคลเหรียญรูปเหมือนหลวงปู่เที่ยง พระเกจิชื่อดังแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง ร่วมกับหลวงพ่อบุญส่ง อธิปัญโญ หรือหลวงปู่ตั้ง เจ้าอาวาสวัดเขาเม็งอมรเมศ พระครูประธีป กาญจนธรรม หรือหลวงพ่อเต้ เจ้าอาวาสวัดพุน้ำร้อนรัตนคีรี และท่านพระครูกิตติ สุวัฒนาภรณ์ หรือหลวงพ่อเพิ่ม เจ้าอาวาสวัดเทวสังฆราม(วัดเหนือ) หลวงพ่อธงชัย วัดเขาไม้เอื้อย เพื่อเพิ่มความเข้มขลังและความเป็นสิริมงคล ท่ามกลางศิษยานุศิษย์ตลอดจน พ่อค้า ประชาชนตำบลม่วงชุม และพนักงานเจ้าหน้าที่ ลูกจ้างสำนักงานชลประทานที่ 13 และเขื่อนแม่กลอง เดินทางมาร่วมพิธีกันอย่างคับคั่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะสงฆ์ได้ทำพิธีกราบไหว้บวงสรวงสวดพระคาถาชุมนุมเทวดา ในช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 09.00 น.ท่ามกลางแสงแดดที่สาดส่องลงมาขณะที่กำลังเริ่มพิธีกราบไหว้บวงสรวงชุมนุมเทวดาอยู่นั้น อยู่ๆ ก็มีก้อนเมฆมาบดบังพระอาทิตย์ จนทำให้บรรยากาศรอบๆ ปะรำพิธี เกิดมืดครึ้มไปชั่วขณะจนเสร็จสิ้นพิธีในตอนเช้า
พอช่วงบ่ายเวลา 13.00 น.เป็นพิธีพุทธาภิเษกของพระสงฆ์เกจิอาจารย์ 5 รูป ท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าว อยู่ๆ ก็มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ขณะที่ทำพิธีพุทธาภิเษก เรียกว่าพอเริ่มทำพิธี ฝนก็เทลงมาอย่างหนักทำให้บรรยากาศภายในวัดเย็นฉ่ำจนกระทั่งเสร็จสิ้นพิธีการซึ่งทำให้ผู้ที่มาร่วมพิธีต่างวิพากษ์วิจารณ์และมีความเชื่อว่า สาเหตุเป็นเช่นนั้น เพราะบุญญาอภินิหารของหลวงปู่เที่ยง หรือพระครูจันทร์สโรภาส อดีตเจ้าอาวาสวัดม่วงชุม เกจิชื่อดังลุ่มน้ำแม่กลอง เป็นผู้ดลบันดาลให้กัอนเมฆมาบดบังแสงอาทิตย์และดลบันดาลให้ฝนตกลงมา ทำให้อากาศที่ร้อนอบอ้าว เกิดความเย็นฉ่ำ เพื่อให้ผู้ที่มาร่วมพิธีทั้งในช่วงเช้าและบ่ายเกิดความร่มเย็นเป็นสุข
ด้านนายพิศาล เตชะวิภาค ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีพุทธาภิเษก และนายพงษ์ศักดิ์ ฤทธิสมิต ผู้อำนวยการโครงการก่อสร้าง สำนักงานชลประทานที่ 13 กล่าวว่า "การจัดสร้างเหรียญรูปเหมือนหลวงปู่เที่ยงครั้งนี้ ทางสำนักงานชลประทานที่ 13 มีโครงการที่จะจัดสร้างองค์รูปเหมือนของหลวงปู่เที่ยงมานานแล้ว แต่พอดีเกิดวิกฤติโรคโควิด-19 โครงการจึงชะลอไป ซึ่งปีนี้ตรงกับครบรอบวันก่อตั้งของสำนักงานชลประทานที่ 13 และเขื่อนแม่กลอง ทางสำนักงานชลประทานฯ จึงร่วมกันจัดสร้างพุทธา ภิเษกรูปเหมือนของหลวงปู่เที่ยง เพื่อนำองค์รูปเหมือนของหลวงปู่ไปตั้งประดิษฐ์ฐานไว้ที่บริเวณหน้าองค์พระภายในเขื่อนแม่กลอง เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้กราบไหว้ สักการะในส่วนของเหรียญรูปเหมือนของหลวงปู่เที่ยงที่จัดทำพิธีพุทธาภิเษกครั้งนี้มี จำนวน 9,999 เหรียญ ซึ่งทำครั้งเดียวเพื่อให้เจ้าหน้าที่สำนักงานชลประทานทั่วประเทศได้เช่าไว้บูชากราบไหว้คุ้มครองตัว เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต ส่วนรายได้จะนำไปสมทบทุนจัดทำโดมหลังคาเหล็กครอบเมรุภายในวัดม่วงชุม เพื่อกันแดดกันฝน
เนื่องจากที่ผ่านมาเวลามีงานพิธีฌาปนกิจศพ เวลาฝนตกแดดออก ประชาชนที่มาร่วมงาน ต้องตากแดดตากฝนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ทางสำนักงานชลประทานที่ 13 เล็งเห็นความเดือดร้อนของประชาชนชาวตำบลม่วงชุม อ.ท่าม่วงฯ ต้องได้รับความเดือดร้อนจึงจัดทำโครงการนี้ขึ้นมา"
สำหรับประวัติความเป็นมาของหลวงพ่อเที่ยง หรือท่านพระครูจันทสโรภาส ที่ชาวบ้านในสมัยนี้เรียกท่านว่า หลวงปู่เที่ยง อดีตเจ้าอาวาสวัดม่วงชุม ซึ่งใครๆ ต่างก็ขนานนามท่านว่า เป็นพระเกจิชื่อดังอีก 1 รูป แห่งลุ่มแม่น้ำแม่กลอง มีเรื่องเล่ากันว่า หลวงพ่อเที่ยง สมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ เวลาได้รับนิมนต์ไปร่วมทำพิธีพุทธาภิเษกสถานที่ใดก็ตาม ท่านมักจะมีอาการร้อนวิชาเสมอ
จะเห็นท่านชอบสัพยอกให้พระเกจิที่ร่วมในพิธีแสดงอิทธิฤทธิ์ด้านคงกระพันชาตรี โดยท้าให้เอามีดเฉือนแขนว่า คมมีดจะบาดเข้าเนื้อหนังหรือไม่ แสดงให้เห็นว่า วัตถุมงคลที่ท่านปลุกเสกเต็มเปี่ยมไปด้วยพุทธคุณ อย่างที่ชาวบ้านทั่วไปมักพูดว่า ใครแขวนวัตถุมงคลของท่าน แมลงวันไม่ได้กินเลือดนั้น หมายความว่า คนนั้นหนังเหนียว แทงไม่เข้า ยิงไม่ออก
เนื่องจากหลวงปู่เที่ยง เป็นพระสงฆ์ที่มีคุณธรรมสูง ทั้งในทางธรรมและทางโลก จึงเป็นที่เคารพรักของบรรดาพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป ทางคณะกรรมการวัด และลูกศิษย์ จึงได้จัดสร้างวัตถุมงคลต่างๆ ขึ้นตามที่หลวงปู่ได้ศึกษาไว้ และทำพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลเพื่อมอบให้แก่บรรดาพุทธศาสนิกชนเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2508 จำนวน 6 รุ่น ได้แก่
รุ่นที่ 1 เหรียญรูปไข่ รูปหลวงพ่อครึ่งองค์ ด้านหลังเป็นพัดยศ ออกปี พ.ศ.2508 รุ่นที่ 2 เหรียญรูปไข่ รูปหลวงพ่อครึ่งองค์ ด้านหลังเป็นเลข 5 ไทย 3 ตัว หรือที่เรียกว่า รุ่นเสาร์ 5 ออกเมื่อปี 2509
รุ่นที่ 3 รุ่นแซยิด( 7 รอบ)จัดสร้าง 10,000 เหรียญ แม่ปั้มแตก ทำให้เหลือ 8,000 เหรียญ เมื่อปี พ.ศ.2519 รุ่นที่ 4 รุ่นพิเศษ ออกเมื่อวันที่ 1 ก.ย.2517 รุ่นที่ 5 รุ่นเสือลำพอง(รุ่นเสมา)หรือรุ่นเสือเผ่น มีรูปเสือเผ่นด้านหลัง(ออกปี พ.ศ.2519) และรุ่นที่ 6 รูปไข่และกลม รูปไข่ผู้ชนะบอกอายุไว้ด้วย และรูปกลม รุ่นมั่ง มีเงินทอง มีรูปหนูคาบแก้ว เพื่อเป็นสัญลักษณ์ปีเกิดของหลวงพ่อ(ออกเมื่อปี พ.ศ.2520) ซึ่งหลังจากนั้นก็ไม่มีการจัดสร้างวัตถุมงคลของหลวงปู่เที่ยง อีกเลย จนกระทั่งสำนักงานชลประทานที่ 13 จ.กาญจนบุรี จัดสร้างขึ้นเป็นครั้งแรก เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี





