เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ จ.นครพนม ความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีมีข่าวลือว่า มีชาวบ้าน คือ นางมาย ตรั่นถิ อายุ 59 ปี อาชีพรับจ้าง ขับรถจักรยานยนต์ ผ่านมาบริเวณถนน ถนนมหาสิทธิโชค เขตเทศบาลเมืองนครพนม ในช่วงเย็นเวลาประมาณ 18.00 น. ของวันที่ 12 กรกฎาคม 2563 และพบเรื่องราวประหลาดเชื่อว่า มีดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิต คือ น.ส.จิตรา เชียงใบ หรือโอลีพ อายุ 29 ปี สาวทอม หนึ่งในผู้เสียชีวิต กรณีเกิดคดี ถูกยิงเสียชีวิต รวม 3 ศพ รวมกับ แม่ และน้องสาวอีกคน คือ น.ส.สุจิตรา เชียงใบ หรือขิม อายุ 23 ปี หลังจาก สามี เกิดความหึงหวง จึงมีปัญหาทะเลาะ มีปากเสียงกัน ขณะขับรถออกจากบ้านพัก ในหมู่บ้าน เอื้ออาทร และจอดรถ เคลียปัญหาส่วนตัว จากนั้น สามีคือ นายนพดล น่วมสำลี อายุ 42 ปี ผู้ต้องหา ไม่พอใจ ที่แฟนสาว โทรเรียก พี่สาว ผู้ตาย และแม่ มาช่วย จึง ชักปืนจ่อยิง เสียชีวิต รวม 3 ศพ บริเวณจุดเกิดเหตุ ที่มีคนอ้างว่า พบวิญญาณเฮี้ยนมาโบกรถ กลายเป็นข่าวลือสะพัด ไปละแวกนั้น ทำให้ ชาวบ้าน ไม่กล้าผ่านช่วงกลางคืน
ล่าสุดทางด้าน ผู้สื่อข่าว ได้ไปตรวจสอบ ข้อเท็จจริง สอบถาม นางมาย ตรั่นถิ อายุ 59 ปี อาชีพรับจ้าง เล่าว่า เมื่อ 2 -3 วันก่อน ขณะตนขับรถจักรยานยนต์ กลับมาจากทำงานรับจ้างในตัวเมือง ช่วงใกล้ค่ำ ประมาณหกโมงเย็น ขณะจะไปบ้านของลูกสาว ที่อยู่ในชุมชนเอื้ออาทร แต่ต้องขับรถจักรยานยนต์ผ่านที่เกิดเหตุ พอถึงที่เกิดเหตุ สังเกตเห็น มีหญิงสาวลักษณะเป็นทอม สวมกางเกงยีน เสื้อยืดสีฟ้า ผมสีทอง เป็นลางๆ คล้ายคนที่เสียชีวิต เพราะวันเกิดเหตุตนมาดูศพที่เสียชีวิต มายืนโบกรถจักรยานยนต์ของตน และได้ยินเสียงแว่วๆ ว่าขอกลับไปบ้านด้วย แต่ตนเกิดความกลัว และตะโกนตอบไปว่าไปไม่ได้ เร่งรีบ ไม่ได้ไปทางเดียวกัน ก่อนขับรถหนี โดยเชื่อว่า น่าจะเป็นวิญญาณสาวทอม ที่ตาย มาปรากฏตัวให้เห็น จึงนำเรื่องไปเล่าให้ ชาวบ้าน ฟัง เท่านั้นเอง ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่ใช่ ขึ้นอยู่แต่ละบุคคล แต่ตนยืนยันเห็นจริง
ขณะเดียวกัน หลังมีข่าวลือสะพัดออกไป ทางด้าน นายไพจิตร เชียงใบ อายุ 60 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต ออกมาเปิดเผยว่า หลังทราบข่าวตนไม่เชื่อ เพราะหลังลูกสาว ทั้ง 2 คน และภรรยา เสียชีวิต รวม 3 ศพ ตนได้ ทำพิธีตามประเพณี เชิญวิญญาณจากที่เกิดเหตุ รวมถึงประกอบพิธีทางศาสนา ตามประเพณี เชื่อว่า ภรรยา และลูกสาว ทั้ง 2 คน ได้ รับอานุสงค์ผลบุญ ไปสวรรค์ แล้ว คงไม่ห่วง เพราะตนได้ อฐิษฐานบอกกล่าวตลอดว่า ไม่ให้ ห่วงและขอให้ไปสู่สุติ ส่วนจะมีคนกล่าวอ้าง ตนไม่เชื่อแน่นอน เพราะตั้งแต่ ทั้ง 3 คน เสียชีวิต แม้แต่ฝัน ยังไม่เคย ยิ่งอยากให้มาหา คิดถึง ในช่วงแรก ที่เป็นข่าวลือออกมา ตนมองว่า คิดไปเอง หรือมีอาการเมามากกว่า หรืออาจพูดขึ้นมาต้องการสร้างกระแส อยากดัง ไม่ได้สนใจกับคำร่ำลือ เพราะตนได้ทำบุญตามประเพณี เชื่อว่า ภรรยาและลูกสาวไปสู่สุขติแล้ว ไม่มีทางจะเป็นวิญญาณเร่ร่อน คนที่ก่อเหตุต้องชดใช้กรรม ตามกฎหมาย ส่วนการดำเนินคดี ได้มอบหมายให้ทนายดูแล และขอคัดค้านการประกันตัวให้ถึงที่สุด เพราะยังกลัวอันตรายกับครอบครัว และขอให้ได้รับโทษถึงขั้นประหารชีวิต
ส่วน น.ส.รัชดาพร ทองคลี่ หรืออ้อม อายุ 25 ปี เพื่อสนิทของสาวทอม ที่เสียชีวิต ยืนยันว่า ข่าวลือพบวิญญาณเหี้ยนของ น.ส.จิตรา เชียงใบ หรือโอลีพ อายุ 29 ปี เพื่อสนิทนั้น ตนไม่เชื่อ เพราะหลังเสียชีวิต เคยฝันเห็นแค่ครั้งเดียว หลังจาก ประกอบพิธีทางศาสนา ไม่ฝันอีกเลย และทางครอบครัว ญาติพี่ น้อง ไม่เคยมีใครพบเห็นเรื่องแปลกว่ามีใครมาหา หลังเสียชีวิต คนที่พูดคงเมา หรือสร้างเรื่อง ตนยืนยันไม่เชื่อ เพราะขนาด ญาติพี่น้อง คนที่สนิทกัน มีจิตใจผูกพันกัน บางครั้งอยากเห็นด้วยซ้ำ อยากให้ มาหา แต่ไม่มีวี่แวว สำคัญที่สุดเชื้อว่าทุกคนไปสู่สุขติแล้วไปดีแล้ว ทุกเช้าทำบุญตักบาตรทุกวันตั้งแต่ทำพิธีเผาศพไป เชื่อว่าจะได้บุญกุศล ไม่มาเร่ร่อนตามข่าวลือแน่นอน ส่วนลูกชายของน้องที่เสียชีวิต ทางญาติพี่น้องได้ อธิษฐานบอกตลอดว่า จะดูแลอย่างดี เวลาลูกชายอายุ 5 ขวบ ถามถึงแม่เขา บอกตลอดว่าไปสวรรค์ ครอบครัวเสียใจมากแต่ต้องทำใจ ต้องอยู่ให้ได้
ล่าสุดทางด้าน ผู้สื่อข่าว ได้ไปตรวจสอบ ข้อเท็จจริง สอบถาม นางมาย ตรั่นถิ อายุ 59 ปี อาชีพรับจ้าง เล่าว่า เมื่อ 2 -3 วันก่อน ขณะตนขับรถจักรยานยนต์ กลับมาจากทำงานรับจ้างในตัวเมือง ช่วงใกล้ค่ำ ประมาณหกโมงเย็น ขณะจะไปบ้านของลูกสาว ที่อยู่ในชุมชนเอื้ออาทร แต่ต้องขับรถจักรยานยนต์ผ่านที่เกิดเหตุ พอถึงที่เกิดเหตุ สังเกตเห็น มีหญิงสาวลักษณะเป็นทอม สวมกางเกงยีน เสื้อยืดสีฟ้า ผมสีทอง เป็นลางๆ คล้ายคนที่เสียชีวิต เพราะวันเกิดเหตุตนมาดูศพที่เสียชีวิต มายืนโบกรถจักรยานยนต์ของตน และได้ยินเสียงแว่วๆ ว่าขอกลับไปบ้านด้วย แต่ตนเกิดความกลัว และตะโกนตอบไปว่าไปไม่ได้ เร่งรีบ ไม่ได้ไปทางเดียวกัน ก่อนขับรถหนี โดยเชื่อว่า น่าจะเป็นวิญญาณสาวทอม ที่ตาย มาปรากฏตัวให้เห็น จึงนำเรื่องไปเล่าให้ ชาวบ้าน ฟัง เท่านั้นเอง ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่ใช่ ขึ้นอยู่แต่ละบุคคล แต่ตนยืนยันเห็นจริง
ขณะเดียวกัน หลังมีข่าวลือสะพัดออกไป ทางด้าน นายไพจิตร เชียงใบ อายุ 60 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต ออกมาเปิดเผยว่า หลังทราบข่าวตนไม่เชื่อ เพราะหลังลูกสาว ทั้ง 2 คน และภรรยา เสียชีวิต รวม 3 ศพ ตนได้ ทำพิธีตามประเพณี เชิญวิญญาณจากที่เกิดเหตุ รวมถึงประกอบพิธีทางศาสนา ตามประเพณี เชื่อว่า ภรรยา และลูกสาว ทั้ง 2 คน ได้ รับอานุสงค์ผลบุญ ไปสวรรค์ แล้ว คงไม่ห่วง เพราะตนได้ อฐิษฐานบอกกล่าวตลอดว่า ไม่ให้ ห่วงและขอให้ไปสู่สุติ ส่วนจะมีคนกล่าวอ้าง ตนไม่เชื่อแน่นอน เพราะตั้งแต่ ทั้ง 3 คน เสียชีวิต แม้แต่ฝัน ยังไม่เคย ยิ่งอยากให้มาหา คิดถึง ในช่วงแรก ที่เป็นข่าวลือออกมา ตนมองว่า คิดไปเอง หรือมีอาการเมามากกว่า หรืออาจพูดขึ้นมาต้องการสร้างกระแส อยากดัง ไม่ได้สนใจกับคำร่ำลือ เพราะตนได้ทำบุญตามประเพณี เชื่อว่า ภรรยาและลูกสาวไปสู่สุขติแล้ว ไม่มีทางจะเป็นวิญญาณเร่ร่อน คนที่ก่อเหตุต้องชดใช้กรรม ตามกฎหมาย ส่วนการดำเนินคดี ได้มอบหมายให้ทนายดูแล และขอคัดค้านการประกันตัวให้ถึงที่สุด เพราะยังกลัวอันตรายกับครอบครัว และขอให้ได้รับโทษถึงขั้นประหารชีวิต
ส่วน น.ส.รัชดาพร ทองคลี่ หรืออ้อม อายุ 25 ปี เพื่อสนิทของสาวทอม ที่เสียชีวิต ยืนยันว่า ข่าวลือพบวิญญาณเหี้ยนของ น.ส.จิตรา เชียงใบ หรือโอลีพ อายุ 29 ปี เพื่อสนิทนั้น ตนไม่เชื่อ เพราะหลังเสียชีวิต เคยฝันเห็นแค่ครั้งเดียว หลังจาก ประกอบพิธีทางศาสนา ไม่ฝันอีกเลย และทางครอบครัว ญาติพี่ น้อง ไม่เคยมีใครพบเห็นเรื่องแปลกว่ามีใครมาหา หลังเสียชีวิต คนที่พูดคงเมา หรือสร้างเรื่อง ตนยืนยันไม่เชื่อ เพราะขนาด ญาติพี่น้อง คนที่สนิทกัน มีจิตใจผูกพันกัน บางครั้งอยากเห็นด้วยซ้ำ อยากให้ มาหา แต่ไม่มีวี่แวว สำคัญที่สุดเชื้อว่าทุกคนไปสู่สุขติแล้วไปดีแล้ว ทุกเช้าทำบุญตักบาตรทุกวันตั้งแต่ทำพิธีเผาศพไป เชื่อว่าจะได้บุญกุศล ไม่มาเร่ร่อนตามข่าวลือแน่นอน ส่วนลูกชายของน้องที่เสียชีวิต ทางญาติพี่น้องได้ อธิษฐานบอกตลอดว่า จะดูแลอย่างดี เวลาลูกชายอายุ 5 ขวบ ถามถึงแม่เขา บอกตลอดว่าไปสวรรค์ ครอบครัวเสียใจมากแต่ต้องทำใจ ต้องอยู่ให้ได้