วันที่ 15 กรกฎาคม นายเสกสรร สอนพันธ์ หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการชลประทานประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่าขณะนี้ได้เข้าสู่ฤดูฝนแล้วแต่ภาพรวมปริมาณน้ำกักเก็บในอ่างเก็บน้ำหลักของจังหวัดทั้ง 9 แห่งยังมีน้ำดิบไม่มาก โดยอ่างเก็บน้ำปราณบุรีซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุด ปัจจุบันมีปริมาณน้ำเพียง 100 ล้านลูกบาศก์เมตร ( ลบ.ม.)จากความจุ 391 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 25 เป็นปริมาณน้ำที่ใช้การได้ 83 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 21 สำหรับอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 8 แห่ง มี 4 แห่งที่มีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ร้อยละ 30-50 และอีก 4 แห่งมีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าร้อยละ 30 "ขณะที่ช่วงฤดูฝนปีนี้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำค่อนข้างน้อย แต่คาดว่าในช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคมนี้เป็นช่วงหน้ามรสุม อ่างเก็บน้ำทุกแห่งจะมีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกัน โครงการชลประทาน ได้เตรียมพร้อมเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำเข้าประจำจุดเสี่ยงที่อาจประสบปัญหาน้ำท่วม พร้อมเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดเพื่อแจ้งเตือนประชาชนได้อย่างทันท่วงที "นายเสกสรร กล่าว ด้าน นายพิมล สกุลดิษฐ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปราณบุรี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการวางแผนบริหารจัดการเพาะปลูกพืชฤดูฝนตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 ขณะนั้นคาดการณ์ว่าจะมีน้ำไหลลงอ่าง 124 ล้าน ลบ.ม. แต่จากข้อมูลตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 ถึงปัจจุบัน พบว่ามีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำปราณบุรีเพียง 28 ล้าน ลบ.ม. ต่ำกว่าที่คาดการณ์ร้อยละ 77 ดังนั้นจะมีการประชุมผู้เกี่ยวข้องในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้เพื่อปรับแผนบริหารจัดการเพาะปลูกพืชฤดูฝนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ป้องกันผลผลิตทางการเกษตรได้รับความเสียหาย โดยในส่วนของพื้นที่ปลูกข้าวนาปีกว่า 25,000 ไร่ในเขตชลประทานอาจจะต้องอาศัยน้ำฝนเป็นหลัก ส่วนการจัดสรรน้ำจะเน้นให้ความสำคัญกับน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและน้ำเพื่อรักษาระบบนิเวศ