เด็กไทยในยุคปัจจุบันมีแนวโน้มพฤติกรรมก้าวร้าว ไม่เข้าสังคม และการเข้าสู่โลกดิจิตอล ทำให้วิถีชีวิตของผู้คนในสังคมเปลี่ยนแปลงไป เด็กๆตกอยู่ท่ามกลางความรวดเร็ว ความเร่งรัดจนทำให้เด็กหลายคนมีสมาธิสั้น เอาแต่ใจตัวเอง อารมณ์ร้ายและก้าวร้าว จากผลสำรวจพบว่า ร้อยละ 90 ของแม่ชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มองว่า ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) มีความสำคัญพอๆ กับความฉลาดทางสติปัญญา (IQ) โดยพ่อแม่มีบทบาทสำคัญมากที่จะช่วยเตรียมความพร้อมให้ลูกตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์ถึง 3 ขวบปีแรก เพื่อก้าวสู่ความสำเร็จในอนาคต เริ่มตั้งแต่ด้านโภชนาการ ซึ่ง “นมแม่” นับเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาการเจริญเติบโตทั้งทางร่างกายและสมองของลูก
ล่าสุด วงการแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ทั้งสูตินรีแพทย์ และกุมารแพทย์ ทั่วประเทศกว่า 1,500 คน ให้ความสนใจเข้าร่วม สัมมนาวิชาการภายใต้หัวข้อ “New Insights into Bioactive Components from Human Milk” ร่วมไขรหัสสารอาหารสมองตัวใหม่ที่พบในน้ำนมแม่ ที่เรียกว่า MFGM หรือ Milk Fat Globule Membrane
โดย ศาสตราจารย์ เจฟฟรีย์ เคลกฮอร์น ผู้อำนวยการสถาบัน Institute of Health & Biomedical Innovation for Child Health Research Centre ประเทศออสเตรเลีย เปิดเผยว่า งานวิจัยทางการแพทย์ล่าสุดค้นพบสารอาหารบำรุงสมองในนมแม่ ได้แก่ MFGM ซึ่งเป็นเยื่อหุ้มอนุภาคไขมัน เยื่อบางๆ นี้อุดมไปด้วยโปรตีนและไขมันกว่า 150 ชนิด ทำหน้าที่ช่วยสร้างปลอกไขมันหุ้มเส้นใยสมอง (Myelin Sheath) ช่วยเพิ่มความเร็วในการรับส่งสัญญาณประสาท โดยจากการศึกษาในห้องปฏิบัติการพบว่า เมื่อ MFGM ทำงานร่วมกับ DHA จะช่วยเสริมการเชื่อมต่อเซลล์สมองโดยงานวิจัยชี้ว่าทารกที่ทานนมที่มี MFGM และ DHA จะมีพัฒนาการสมองและสติปัญญาใกล้เคียงกับทารกที่ดื่มนมแม่ ดีกว่าทารกที่ดื่มนมที่เพิ่ม DHA เพียงอย่างเดียวถึง 4 จุด ให้สมองทำงานเต็มที่ทั้งระบบ และยังช่วยพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ โดยหลากหลายผู้เชี่ยวชาญระดับโลกได้ยอมรับและตื่นตัวกับการเติม MFGM ในผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับทารกและเด็กเป็นอย่างมาก
ด้าน รศ.นพ.พงษ์ศักดิ์ น้อยพยัคฆ์ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรม รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช กล่าวว่า การที่คนเราจะมีลูกที่อารมณ์ดี สมองดี และมีความเฉลียวฉลาด เป็นสุดยอดปรารถนาของพ่อแม่ มีปัจจัยที่มาเกี่ยวข้องหลายประการ ปัจจัยที่สำคัญ 3 ประการ คือ กรรมพันธุ์ โภชนาการแม่ขณะตั้งครรภ์และของลูกภายหลังคลอด และประการสุดท้ายคือ สิ่งแวดล้อม งานวิจัยทางการแพทย์ยืนยันแล้วว่าเด็กที่ได้รับนมที่เสริม MFGM และ DHA จะมีการพัฒนาความฉลาดได้อย่างเต็มระบบนอกเหนือจากด้านสติปัญญา นั่นคือ ความฉลาดทางอารมณ์ซึ่งแสดงออกมาทางด้านพฤติกรรมอีกด้วย