“ปลากัดไทย” ถูกยกให้เป็นสัตว์น้ำประจำชาติตามมติของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2562 ในด้านมูลค่าของปลากัดสัตว์น้ำตัวเล็กๆแต่สร้างรายได้ให้กับผู้เลี้ยงมหาศาล ซึ่งความเป็นจริงกลุ่มของคนเพาะเลี้ยงปลากัดก็มีในเมืองไทยมานานแล้ว ทั้งกลุ่มปลากัดสวยงามและกลุ่มปลากัดเดิมพัน ถิ่นใหญ่อย่างแปดริ้ว นครปฐม ถือว่ามีบ่อปลากัดอยู่จำนวนมาก ไม่นับรวมทางภาคใต้ที่ถือเป็นกีฬาประจำถิ่นคู่กับไก่ชน วัวชน นี่คืออีกหนึ่งช่องทางธุรกิจที่ใครศึกษาวิธีเพาะเลี้ยงอย่างเข้าใจ สามารถเริ่มต้นทำเป็นอาชีพได้ไม่ยาก
นายสมศักดิ์ คงเมฆา อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 104/26 หมู่ที่ 2 ตำบลคลองท่อมใต้ อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ เป็นอีก1 ราย ที่หันมายึดอาชีพการเพาะเลี้ยงปลากัดสวยงามขาย โดยเริ่มมาจากที่มีความชอบปลากัดเป็นการส่วนตัว โดยเมื่อซื้อพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ ปลากัดมาเลี้ยงสะสมเป็นจำนวนมาก ทำให้ปลากัดมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นจึงจำเป็นต้องเสาะแสวงหาตลาดหรือช่องทางการจัดจำหน่ายไปเรื่อย ๆ ประกอบกับมีความตั้งใจและสนใจใฝ่รู้ในการเพาะเลี้ยงปลากัด มากว่า 8 ปี โดยในปี 2559 ได้เริ่มต้นเพาะเลี้ยงปลากัด เป็นอาชีพอย่างจริงจัง โดยใช้พื้นที่ว่างบริเวณหน้าบ้านและหลังบ้าน เป็นสถานที่เลี้ยงและมีสมาชิกในครอบครัวร่วมสนับสนุน ในนามของ SK BETTA FARM โดยได้รับการสนับสนุนจากกรมประมง สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือ สสว. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือหรือ มจพ. และสมาคมปลากัด เพื่อให้สมาชิก มีรายได้เสริม เพิ่มขึ้นให้กับครอบครัว เพราะการเพาะเลี้ยงปลากัดที่มีความสวยงามเป็นการเพิ่มมูลค่าไปในตัวอยู่แล้ว และผู้เลี้ยงใช้เวลาในการเอาใจใส่ดูแลประมาณ 3-5 เดือน ปลากัด โตและแข็งแรงเพียงพอ ในการจำหน่ายสู่ตลาด
สำหรับประสบการณ์ ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากการเพาะเลี้ยง ด้วยการ ศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง มาอย่างต่อเนื่อง สิ่งหนึ่งที่สำคัญครั้งแรกคือการส่งปลากัดที่เพาะเลี้ยงได้เพียง 1 ตัว ไปประกวดในงานเปิดโลกปลากัดอัญมณีใต้น้ำแดนสยามที่สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 อำเภอเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราชในครั้งนั้นได้รับรางวัล Best In Show ประเภทปลากัดแฟนซีที่ทางชมรมอนุรักษ์ปลากัดป่าและปลากัดสวยงามภาคใต้จัดขึ้น และปลาตัวนั้น จึงตั้งชื่อ ให้เป็นฤกษ์ ที่ดีของตนเองว่า The Best เป็นปลาสาย Galaxy NEMO สามสี สีแดง ส้มและสีขาว ในเวลาต่อมา มีผู้สนใจจาก กทม.ติดต่อขอซื้อมา จึงแบ่งปันขายให้ไปได้ราคาสูงถึง 20,000 บาท
หลังจากนั้นจึงได้รวบรวมข้อมูลจดบันทึกและเผยแพร่ ผลงานการเพาะเลี้ยงลง ในFacebook ชื่อ Account ของ SK BETTA FARM ตลอดจนการขายผ่านเว็บไซต์ และห้องประมูลปลากัดทั่วประเทศ จึงมี ผู้สนใจติดตามข้อมูล และ ความสำเร็จ ที่โดดเด่นในการเพาะเลี้ยงปลากัด ที่เป็นเอกลักษณ์ ของจังหวัดกระบี่ มาโดยตลอด ซึ่งถือว่า เป็น Profileที่ดีของฟาร์มตนเองจากที่เคย สามารถจำหน่ายปลาได้ตัวละเพียงหลัก 100 บาท 1,000 บาท แต่ในปัจจุบันนี้ ถือว่า ผลผลิตปลากัดที่เพาะเลี้ยง สามารถ นำไปสู่ ตัวละหลายพันบาท จนถึงหลัก10,000 บาท รวมไปถึงสามารถการกระจาย ผลผลิตไปยังนานาชาติ ทั่วทุกทวีป เช่นในกลุ่มประเทศอาเซียน คือ ประเทศอินโดนีเซีย สิงคโปร์ สปป.ลาว เวียดนามมาเลเซีย รวมทั้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน สหรัฐอเมริกา และประเทศเยอรมนี ที่มีบริการShipping หรือรับส่งพัสดุภัณฑ์สะดวก รวดเร็วและทั่วถึง
นอกจากนี้เป็นที่น่ายินดีฟาร์มของตนยังสามารถจำหน่ายปลากัดสวยงาม ชื่อ แดงไบเล่ ให้กับชาวใต้หวัน เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2562 ได้ราคาดีสูงถึง 30,000 บาท โดยความพิเศษ ของแดงไบเล่ เกิดจากการผสม ที่เป็นยีนส์ด้อยกลับกลายเป็นโอกาสทองของฟาร์ม ซึ่งยอมรับว่าการจะมีปลากัดสวยงามได้มาแต่ละตัวต้องอาศัยโชคช่วยด้วยนอกเหนือจากความรู้ความสามารถและประสบการณ์
นอกจากนี้ตนได้ตั้งเป็นชมรมเลี้ยงปลากัดสวยงาม จ.กระบี่ โดยมีสมาชิกเข้าร่วมแล้ว จำนวน 20 คน โดยตนจะถ่ายทอดวิชาความรู้ให้ โดยจะเลี้ยงแบบใช้ภูมิปัญญาชาวบ้าน ต้นทุนต่ำ เช่น ใช้กะละมัง โดยผู้ที่สนใจ สามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิกของชมรมได้ และเป็นที่น่ายินดีว่าเมื่อเร็วๆนี้ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เข้ามาเยี่ยมชมฟาร์ม เพื่อที่จะผลักดันส่งเสริมให้เป็นอาชีพทางเลือกใหม่
ด้านนายสมบูรณ์ ธัญญาผล ประมงจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า หลังจากที่ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและมหกรณ์ พร้อมด้วยอธิบดีกรมประมง และคณะเดินทางไปเยี่ยมชมฟาร์มเพาะเลี้ยงปลากัด ของนายสมศักดิ์ คงเมฆา ประธานชมรมเลี้ยงปลากัดสวยงาม เจ้าของ sk betta farm และได้ กำชับให้กรมประมงมีการส่งเสริมให้มีการเลี้ยงเป็นอาชีพ ซึ่งเบื้องต้นทางประมงจังหวัดกระบี่ ได้เข้าไปทำการฝึกอบรมให้สมาชิกชมรมฯเลี้ยงไรแดงซึ่งเป็นอาหารของปลากัด เพื่อลดต้นทุนและค่าใช้และนอกจากนี้ก็เตรียมส่งเสริมให้มีการเลี้ยงเพื่อการค้าเพิ่มขึ้น