"บิ๊กตู่"ถก "สยามรัฐ" ระดมสมองฟื้นเศรษฐกิจประเทศ "บิ๊กป้อม" บอก"ไม่ไหว ตายก่อน" หลัง"บิ๊กจิ๋ว" หนุนรัฐบาลอยู่ยาว 10 ปี ไล่ถามคนทำโพลขย่ม "2รมต.กปปส." พ้นครม. ย้ำปรับครม.อยู่ที่นายกฯ คนเดียว ด้าน"ณัฏฐพล" แนะดูเบื้องหลัง-ความเชื่อมโยง ยันไม่กังวลนายกฯ เห็นการทำงาน ไม่จบ! "ไพบูลย์" จ่อฟ้อง "เรืองไกร" 2 ฐานความผิด หลังยื่นยุบพปชร. อัดไร้สาระไม่มีข้อเท็จจริง ท้าใครฟ้องมาก็พร้อมฟ้องกลับ ให้เป็นเยี่ยงอย่าง "กลุ่มธรรมาภิบาลเครือข่ายปชช.ต้านโกง" แฉเสี่ยอักษรย่อ "ก" อ้างชื่อ"บิ๊กป้อม" ล็อกสเปกจัดซื้อจัดจ้างติดตั้งกล้องซีซีทีวีทั่วปท. ขณะที่"ประวิตร" สั่งจนท.สอบอ้างชื่อรมต.จัดซื้อซีซีทีวีท้องถิ่น ยันไปวิ่งเต้นกันเอง ไม่รู้เรื่อง ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 13 ก.ค.63 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ครั้งที่ 3 ถึงการเตรียมการจัด การเลือกตั้งท้องถิ่นว่า "ยังไม่รู้ ยังไม่ทราบเลย เดี๋ยวคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เขาก็จะทำเรื่องมาก่อน แต่ในปีนี้ก็จะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นแน่นอน ส่วนจะเป็นประเภทไหนที่จะเริ่มก่อน เดี๋ยวตัดสินใจเอง" ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ ระบุว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะอยู่ไปอีก 10 ปี ว่า "ไม่รู้ อันนี้ต้องไปถามพล.อ.ชวลิต" เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า 10 ปี ไหวหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบ ว่า "ไม่ไหว ตายก่อน" พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณีที่ซูเปอร์โพลสำรวจพบประชาชนต้องการให้ปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนแกนนำกปปส.ออก ว่า ไม่รู้ใครทำโพลให้ไปถามคนนั้น แต่ยืนยันว่าการตัดสินใจในการปรับครม.อยู่ที่นายกฯ คนเดียว เมื่อถามว่า การสำรวจดังกล่าวจะมีความเชื่อมโยงกับคนที่ต้องการตำแหน่ง หรืออยากให้ปรับ ครม.หรือไม่พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มี ทุกคนชัดเจนหมด ว่าแล้วแต่นายกฯคนเดียว ส่วน นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร. และอดีตแกนนำ กปปส. กล่าวว่า ต้องดูว่าโพลทำไมถามเฉพาะเจาะจงขนาดนั้น และประชาชนคงจะตัดสินใจเองว่าโพลที่ทำมา ทำเพื่ออะไร ตอนไหน จังหวะอะไร เมื่อถามต่อว่า คิดว่าจะมีผลต่อการตัดสินใจของนายกฯหรือไม่ นายณัฏฐพล กล่าวว่า ก็มีความเป็นไปได้ แต่ตนก็ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่ได้กังวลอะไร ถ้าประชาชนคิดว่าเป็นอย่างนั้นก็เป็นเสียงของประชาชน นายกฯ คงต้องรับฟัง ส่วนจะตัดสินใจอย่างไร นายกฯคงเห็นการทำงานที่ได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง เมื่อถามย้ำว่า สงสัยหรือไม่ว่า ทำไมจึงพุ่งเป้ามาที่รัฐมนตรี ที่เป็นอดีตแกนนำ กปปส. นายณัฏฐพล กล่าวว่า อาจจะเป็นแค่จุดแรก ต่อไปอาจจะเป็นคณะอื่นๆ กลุ่มอื่นๆ ซึ่งเป็นการเมืองแบบเดิมๆ เมื่อถามว่า เป็นการเมือง หรือไม่ นายณัฏฐพล กล่าวว่า ก็ไม่แน่ ตนไม่สามารถบอกได้ เพราะเป็นโพลของเอกชน ต้องไปดูที่มาที่ไปของโพล กลุ่มทำโพล มีการเชื่อมโยงกันอย่างไร ที่รัฐสภา นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพปชร. กล่าวถึงกรณี นายเรืองไกร ลีกิจ วัฒะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ให้พิจารณายุบพรรคพลังประชารัฐ ว่า ตนได้ดูในคำร้องที่นายเรืองไกรได้ยื่นแล้ว ถือเป็นคำร้องที่ไร้สาระ ไม่มีประเด็นข้อกฎหมาย หรือข้อเท็จจริงใดๆ ซึ่งการร้องในลักษณะแบบนี้ตนมองว่า เป็นการร้องที่เป็นภาระ และเป็นเรื่องน่าอับอายให้กับ กกต. ดังนั้นเพื่อที่จะให้กระบวนการที่จะร้องเรียนต่อหน่วยงานของรัฐ ผู้ร้องจะต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่กระทำ ดังนั้นตนจึงจะดำเนินการตรวจสอบนายเรืองไกร โดยการไปยื่นคำร้องให้ กกต.พิจารณาดำเนินการตามพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย พรรคการเมืองมาตรา 101 ทั้งนี้เหตุผลที่จะต้องดำเนินการกับนายเรืองไกร เพื่อให้เป็นเยี่ยงอย่าง ว่าผู้ใดที่จะทำการตรวจสอบต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่กระทำและทำอะไรต้องมีข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย อย่าสร้างภาระ ให้กับเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานของรัฐ โดยเมื่อฟ้องมา 1 คดีเราก็จะฟ้องกลับไป 2 คดี และสิ่งเหล่านี้จะถือเป็นกติกา ดังนั้นใครอยากจะฟ้องตนก็เชิญ ส่วนที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มธรรมาภิบาล เครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอรัปชั่น นำโดย นายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ประธานกลุ่มธรรมภิบาล ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ผ่าน นายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดย นายวิวัฒน์ กล่าวว่า ขอให้ตรวจสอบบุคคลที่แอบอ้างชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เนื่องจากทางกลุ่มฯ ได้รับการร้องเรียน และแจ้งข้อมูล จากเครือข่ายผู้ประกอบการติดตั้งกล้องซีซีทีวีหลายราย ว่าได้มีกลุ่มบุคคลไปแอบอ้างชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะประธานกรรมการบริหารการบูรณาการแผนและระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) ทั่วประเทศ ไปหาผลประโยชน์โดยการวิ่งเต้นล็อกสเปกงานติดตั้งกล้องซีซีทีวี ภายใต้นโยบายสมาร์ทซิตี้ของรัฐบาล โดยเอาบริษัทของตัวเองและนอมินี ให้เป็นผู้ชนะการประกวดราคาตามหน่วยงานของรัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ซึ่งผลของการล็อกสเปกเพื่อให้พวกตัวเองชนะการประมูลและติดตั้งอุปกรณ์ที่ไม่ได้คุณภาพไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ นายวิวัฒน์ กล่าวต่อว่า โดยกลุ่มบุคคลดังกล่าวคือ "กลุ่มเสี่ย "ก" ซึ่งเป็นผู้ประกอบการธุรกิจติดตั้งซีซีทีวี และเป็นเจ้าของบริษัท ติดตั้งกล้องซีซีทีวี โดยอ้าง เป็นผู้ประสานงานของผู้ใหญ่รัฐบาลให้ดำเนินการในเรื่องการบูรณาการแผนและระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดซีซีทีวีทั่วประเทศต่อหน่วยงานของรัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเข้าไปวางสเปกล่วงหน้าให้กับหน่วยงานที่จะจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อให้ได้รับสเปคกล้องซีซีทีวีของตัวเอง และทำให้บริษัทในกลุ่มของตนเองและนอมินีได้งานเป็นคู่สัญญาในหลายโครงการทั่วประเทศ โดยมีการแอบอ้างว่ามีตำแหน่งประจำรัฐสภา คือ ตำแหน่งเลขานุการ ประจำกรรมาธิการกระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่น และการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ทำให้สามารถเข้าไปประสานงานกับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศได้ รวมถึงยังอวดอ้างและแสดงตนว่าเกี่ยวเป็นสมัครพรรคพวกในมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด และเข้าออกอยู่เป็นประจำ จนเป็นเหตุให้ผู้ประกอบการติดตั้งกล้องซีซีทีวีทั่วไปเข้าใจว่าเป็นคนของผู้ใหญ่ในมูลนิธิฯ ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวว่า มันไม่ได้ ต้องทำตามขั้นตอน ทำตามกฎหมายอยู่แล้ว เป็นการวิ่งเต้นกันไปเอง คนอยากทำอยากได้อะไรก็พูดกันไปเรื่อย แต่จริงๆ แล้วต้องอยู่ในกรอบของกฎหมายและทีโออาร์ที่หน่วยงานเขาเป็นคนทำ ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้มีการร้องเรียนมาแล้วจะให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เดี๋ยวให้เจ้าหน้าที่เขาตรวจสอบ ซึ่งเขากำลังตรวจสอบอยู่ว่าเป็นใครไปอ้างแบบนี้ เมื่อถามว่า มีการเอาชื่อ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทยไปแอบอ้างด้วย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็อ้างไปเรื่อย วันเดียวกัน เมื่อเวลา 16.30น. ที่ห้องประชุม อาคารสำนักงานหนังสือพิมพ์สยามรัฐ ถนนอรุณอัมรินทร์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม พร้อมด้วย นายดิสทัต โหรตระกิตย์ เลขาธิการนายกฯ นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้เดินทางเข้าพบผู้บริหารหนังสือ พิมพ์สยามรัฐ เพื่อรับฟังมุมมองและความคิดเห็นในการขับเคลื่อนประเทศ ด้วยกัน2 ประเด็นคือ 1.ประเด็นที่คนไทยและประเทศไทยของเราควรให้ความสำคัญในสถานการณ์ปัจจุบัน และ 2.ปัจจัยที่จะช่วยผลักดันและขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ความสำเร็จ โดยมี นายกตพล คงอุดม รองประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามรัฐ จำกัด , นายประสงค์ ธนเศรษฐกร บรรณาธิการอำนวยการ และนายวิโรจน์ วัฒนธาดากุล บรรณาธิการบริหาร และพนักงาน ร่วมให้การต้อนรับ