นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร อดีตสมาชิกสภา กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยกรณีการตัดสินใจย้ายมาอยู่กับพรรคก้าวไกลว่า ทุกพรรคการเมืองมีนโยบายช่วยเหลือประชาชน แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือการใช้โซเชียลมีเดีย ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งพรรคก้าวไกลสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพเห็นได้จากเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมา ซึ่งสอดคล้องกับการใช้สิทธิเลือกตั้งของวัยรุ่นจำนวนมาก ซึ่งหากเราไม่ปรับตัวก็เป็นเรื่องยากในการเลือกตั้งครั้งต่อๆไป “ก่อนที่จะตัดสินใจร่วมงานกับพรรคก้าวไกล ก็มีหลายพรรคติดต่อมา ขณะที่พรรคต้นสังกัดเก่าอย่างพรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่ได้สนใจพวกเรามากนัก อาจเป็นเพราะเราเป็นนักการเมืองท้องถิ่นตัวเล็กๆ ในสายตาพรรค ประกอบกับการที่พวกเขาอาจจะยุ่งกับการเป็นรัฐบาล ทำให้อาจจะลืมเราไปบ้าง ซึ่งเราอยู่กันแบบถ่อมตัวในพื้นที่ ไม่ได้มีตำแหน่งรัฐมนตรี หรือตำแหน่งใหญ่โตอื่นๆ ก่อนที่เราจะนำเรื่องมาหารือกันในครอบครัวและได้ข้อสรุปว่าควรมาอยู่พรรคก้าวไกลน่าจะเหมาะสมกว่า” นายสุทธิชัย กล่าว นายสุทธิชัย กล่าวต่อว่า การเลือกตั้งใหญ่ครั้งที่ผ่านมา ช่วงก่อนเลือกตั้ง ได้มีการสำรวจว่าพรรคประชาธิปัตย์มีคะแนนสูง อยู่ในกระแส แต่พอใกล้เลือกตั้งคะแนนกลับลดลง แม้จะมีการลงพื้นที่หาเสียง แต่เราก็ยังเสียบเปรียบ เรื่องโซเชียลมีเดีย ผลก็ออกมาเป็นอย่างที่เห็น ทั้งนี้หากมีการเลือกตั้งระดับชาติอีกครั้ง ในเรื่องพื้นที่นั้น ตนได้พูดคุยกับ ส.ส.ในพื้นที่ของพรรคก้าวไกล และคนอื่นๆในพื้นที่ใกล้เคียง พวกเขาเป็นคนอายุไม่เยอะ สบายๆ ไม่แอคอาร์ตเหมือนนักการเมืองรุ่นใหม่บางคน จุดนี้ไม่น่าจะมีปัญหา อะไรเพราะเรามีเป้าหมายเดียวกันคือทำงานเพื่อนประชาชนในพื้นที่