วิทยาศาสตร์ เป็นสิ่งที่สามารถพิสูจน์ได้ เช่นเดียวกับหลักธรรมของศาสนาพุทธ เพราะพุทธศาสนาสอนให้มีการพิสูจน์ โดยอาศัยสติ ปัญญา และเหตุผล แล้ววิทยาศาสตร์ด้านสมองสัมพันธ์กับพระพุทธศาสนาอย่างไร ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหาร ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้เกียรติมาบรรยายธรรมในหัวข้อ “วิทยาศาสตร์ด้านสมองกับคำสอนพระพุทธเจ้า” ในเวทีธรรมบรรยาย “เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ” อาคาร ซี.พี. ทาวเวอร์ สีลม
ดร.วรภัทร์ กล่าวถึง หลักการด้านสมองว่า ส่วนที่อยู่ตรงท้ายทอย เรียกว่าสมองส่วน reptilian ภาษาไทยแปลว่า สัตว์เลื้อยคลาน มนุษย์เราวิวัฒนาการมาจากสัตว์เซลล์เดียว และเริ่มมีกระดูกสันหลังส่วนสำคัญแรกคือ spinal cord อยู่กลางหลัง สัตว์ที่อยู่ในทะเลเริ่มขึ้นมาอยู่บนบก กลายเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ โดยมีส่วน reptilian ส่วนนี้อันตรายมาก เป็นส่วนสะสมความจำที่เกี่ยวกับการเอาตัวรอด เช่น การต่อสู้ หลบหลีก โมโห เกรี้ยวกราด และสิ่งชั่วร้ายทั้งหมดจำไว้ตรงนี้ สมมติเราไปดุใส่ลูก ตะหวาดใส่ลูก ลูกก็จะไปจำไว้ที่นี่ การเสพสื่อที่รุนแรงยิงกันฆ่ากันก็จะลงไปตรง reptilian นี้
ดร.วรภัทร์เล่าว่า คนเรามีตำแหน่งของสมองที่จุดกลางหน้าผากเรียกว่า Prefrontal Cortex (PFC) ซีกซ้ายเป็นเรื่องเหตุผล ซีกขวาเป็นเรื่อง creative ส่วนตรงกลางเรียก limbic เป็นส่วนที่เกี่ยวกับอารมณ์ ในยุคโควิด สิ่งที่เราต้องการในวันนี้ คือการ Creative คิดอะไรใหม่ๆ ผลิตอะไรใหม่ๆ ทุกคนต้องเปิด PFC ให้ได้ ซี่งเส้นทางที่สารเคมีจะไปเปิด PFC มีขนาดเล็กมากประมาณเส้นด้าย ที่พุ่งจาก limbic ตรงกลาง เพราะฉะนั้นต้องฝึกบ่อยๆ พวก creative เก่งๆ PFC จะเปิดตลอด ต้องมีการฝึกกระตุ้น PFC ด้วยการคิดบวก คิดดี ละอกุศล ยังกุศลให้มาก ทำใจให้ผ่องใส ตอนที่ใจผ่องใสใจไม่มีกิเลส ใจไม่มีทั้งกุศลและอกุศล จะไปเปิด PFC แต่ถ้าอารมณ์ของเราเป็นศูนย์ไม่ทุกข์ไม่สุขมันจะขึ้นตรงจุดกลางศีรษะ ตรงนี้เรียก จักระ ที่ 7 หรือ จุดอุษณีษะ เหมือนที่เห็นว่าพระพุทธเจ้ามีเปลวกลางศีรษะ ชี้ให้เห็นว่าเป็นเปลวแห่งปัญญาเกิดจากตอนที่ limbic มีอารมณ์ไม่ทุกข์ไม่สุขอันนี้เรียกว่าได้ปัญญาทางธรรม เรียกว่า wisdom แต่ PFC เป็นของฆารวาสของปุถุชน ถ้าไปศูนย์ก็คงอยู่ในโลกสมมติลำบาก ต้องสมดุล ไม่มีฆารวาส พระก็อยู่ยาก ไม่มีใครทำมาหากินก็ไม่มีใครไปถวายของ เพราะฉะนั้นอุบาสกอุบาสิกาก็ยังมีผลต่อพระอยู่ดี เราเติบโตและเรียนรู้ไปด้วยกัน ฆารวาสก็สามารถบรรลุธรรมได้
ดร.วรภัทร์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ควรหัดขอบคุณบ่อยๆ ขอบคุณกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ บ่อยๆ การขอบคุณจะทำให้เราเบิกบาน มีจิตเป็นกุศล เมื่อซาบซึ้งบ่อยๆ ใจจะชุ่มชื้น จะทำให้มีความกล้า พอมีความกล้าหาญในสิ่งที่ดี PFC ก็เปิด พอ PFC เปิดก็จะเกิด creative กล้าหาญด้วย creative ด้วย
สำหรับผู้สนใจร่วมฟังธรรมบรรยายดีๆ ในโครงการ “เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ” สามารถติดตามได้ผ่านระบบ live สด ทุกวันศุกร์ เวลา 12:00-13:30 น. ทางช่องทาง facebook fanpage CPALL และสามารถรับฟังย้อนหลังได้ที่ช่องทางเดียวกัน
ดร.วรภัทร์ กล่าวถึง หลักการด้านสมองว่า ส่วนที่อยู่ตรงท้ายทอย เรียกว่าสมองส่วน reptilian ภาษาไทยแปลว่า สัตว์เลื้อยคลาน มนุษย์เราวิวัฒนาการมาจากสัตว์เซลล์เดียว และเริ่มมีกระดูกสันหลังส่วนสำคัญแรกคือ spinal cord อยู่กลางหลัง สัตว์ที่อยู่ในทะเลเริ่มขึ้นมาอยู่บนบก กลายเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ โดยมีส่วน reptilian ส่วนนี้อันตรายมาก เป็นส่วนสะสมความจำที่เกี่ยวกับการเอาตัวรอด เช่น การต่อสู้ หลบหลีก โมโห เกรี้ยวกราด และสิ่งชั่วร้ายทั้งหมดจำไว้ตรงนี้ สมมติเราไปดุใส่ลูก ตะหวาดใส่ลูก ลูกก็จะไปจำไว้ที่นี่ การเสพสื่อที่รุนแรงยิงกันฆ่ากันก็จะลงไปตรง reptilian นี้
ดร.วรภัทร์เล่าว่า คนเรามีตำแหน่งของสมองที่จุดกลางหน้าผากเรียกว่า Prefrontal Cortex (PFC) ซีกซ้ายเป็นเรื่องเหตุผล ซีกขวาเป็นเรื่อง creative ส่วนตรงกลางเรียก limbic เป็นส่วนที่เกี่ยวกับอารมณ์ ในยุคโควิด สิ่งที่เราต้องการในวันนี้ คือการ Creative คิดอะไรใหม่ๆ ผลิตอะไรใหม่ๆ ทุกคนต้องเปิด PFC ให้ได้ ซี่งเส้นทางที่สารเคมีจะไปเปิด PFC มีขนาดเล็กมากประมาณเส้นด้าย ที่พุ่งจาก limbic ตรงกลาง เพราะฉะนั้นต้องฝึกบ่อยๆ พวก creative เก่งๆ PFC จะเปิดตลอด ต้องมีการฝึกกระตุ้น PFC ด้วยการคิดบวก คิดดี ละอกุศล ยังกุศลให้มาก ทำใจให้ผ่องใส ตอนที่ใจผ่องใสใจไม่มีกิเลส ใจไม่มีทั้งกุศลและอกุศล จะไปเปิด PFC แต่ถ้าอารมณ์ของเราเป็นศูนย์ไม่ทุกข์ไม่สุขมันจะขึ้นตรงจุดกลางศีรษะ ตรงนี้เรียก จักระ ที่ 7 หรือ จุดอุษณีษะ เหมือนที่เห็นว่าพระพุทธเจ้ามีเปลวกลางศีรษะ ชี้ให้เห็นว่าเป็นเปลวแห่งปัญญาเกิดจากตอนที่ limbic มีอารมณ์ไม่ทุกข์ไม่สุขอันนี้เรียกว่าได้ปัญญาทางธรรม เรียกว่า wisdom แต่ PFC เป็นของฆารวาสของปุถุชน ถ้าไปศูนย์ก็คงอยู่ในโลกสมมติลำบาก ต้องสมดุล ไม่มีฆารวาส พระก็อยู่ยาก ไม่มีใครทำมาหากินก็ไม่มีใครไปถวายของ เพราะฉะนั้นอุบาสกอุบาสิกาก็ยังมีผลต่อพระอยู่ดี เราเติบโตและเรียนรู้ไปด้วยกัน ฆารวาสก็สามารถบรรลุธรรมได้
ดร.วรภัทร์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ควรหัดขอบคุณบ่อยๆ ขอบคุณกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ บ่อยๆ การขอบคุณจะทำให้เราเบิกบาน มีจิตเป็นกุศล เมื่อซาบซึ้งบ่อยๆ ใจจะชุ่มชื้น จะทำให้มีความกล้า พอมีความกล้าหาญในสิ่งที่ดี PFC ก็เปิด พอ PFC เปิดก็จะเกิด creative กล้าหาญด้วย creative ด้วย
สำหรับผู้สนใจร่วมฟังธรรมบรรยายดีๆ ในโครงการ “เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ” สามารถติดตามได้ผ่านระบบ live สด ทุกวันศุกร์ เวลา 12:00-13:30 น. ทางช่องทาง facebook fanpage CPALL และสามารถรับฟังย้อนหลังได้ที่ช่องทางเดียวกัน