วันที่ 8 ก.ค. 2563 นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย ดร.ฐิตารีย์ ไตรสรณปัญญา คณะที่ปรึกษาคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดร.ชูชาติ แก้วนอก ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 28 (สพม.28) นายสุพร ธีรโรจน์ชาลี นายอำเภอยางชุมน้อย ผอ.โรงเรียนที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยคณะกรรมการสถานศึกษา ครู กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้เกี่ยวข้อง ได้เดินทางลงพื้นที่ เพื่อคุยกับแม่และเด็กนักเรียนหญิงปรึกษาหารือแนวทางแก้ไขปัญหา จากกรณีที่ น.ส.เดือน (นามสมมติ) อายุ 33 ปี เจ้าของแพร้านอาหารแห่งหนึ่ง ริมฝั่งแม่น้ำมูล ชาว ต.กุดเมืองฮาม อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า น.ส.ดาว (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี ลูกสาวของตนเป็นนักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งในเขต อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ ได้ถูกครูชายฝ่ายปกครองใช้มีดกรรไกรตัดผมของลูกสาวหน้าเสาธงจนแหว่ง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 ก.ค. ที่ผ่านมา ต่อมาได้มีหลายฝ่ายออกมาหาทางออกเพื่อยุติปัญหาดังกล่าว ดร.ชูชาติ แก้วนอก ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 28 (สพม.28) กล่าวสรุปว่า หลังจากที่คณะ ได้พูดคุยปรึกษาหารือร่วมกับคณะครูและผู้ปกครองของเด็กแล้ว ได้ข้อสรุปตรงกันว่า นักเรียน ต้องปฏิบัติตามกฎกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการไว้ทรงผมนักเรียน ปีพ.ศ.2563 ซึ่งกำหนดให้นักเรียนชายและนักเรียนหญิงสามารถไว้ทรงผมสั้นหรือผมยาวก็ได้ ในกรณีนักเรียนชายที่ ไว้ผมยาว ด้านข้างและด้านหลังจะต้องยาวไม่เลยตีนผม ส่วนนักเรียนหญิง ถ้ากรณีไว้ผมยาวต้องรวบผมให้เรียบร้อย ซึ่งเป็นระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ ต้องปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด ขอให้กรรมการสถานศึกษาเข้ามาดูแลรับผิดชอบในรายละเอียดปลีกย่อยด้วย ครั้งนี้ จะเห็นได้ว่าจากการกระทำของครูฝ่ายปกครองทำลงไปชี้ให้เห็นว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุไปนิดหน่อย ซึ่งครูฝ่ายปกครองก็ได้ออกมายอมรับผิดและขอโทษแม่ของเด็กแล้ว จึงถือว่าเป็นบทเรียนในการที่จะเอาไปใช้ในการทำงานต่อไป อย่างไรก็ตามตนได้กำชับทุกโรงเรียนไปแล้วว่า ต้องไม่มีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นอีก เพราะทำไปแล้วมันไม่ใช่ผลดี ครูจะต้องมีวิธีการมีเทคนิค ต้องเป็นครูยุคใหม่ ใช้วิธีการที่นุ่มนวล อย่าใช้แบบเดิมๆที่ใช้ตัดแบบนี้ ต้องหาวิธีให้นักเรียนอยู่ในระเบียบวินัย ที่ไม่ให้เกิดผลแบบนี้ นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อดีตเลขานุการประธานรัฐสภากล่าวว่า มีคนพูดว่าเรื่องของระเบียบวินัยในแง่ของทหารและตำรวจถือว่าต้องเน้นระเบียบวินัยมาก แต่กรณีโรงเรียน และสถานศึกษา หน้าที่หลักคือให้ความรู้แก่นักเรียน จึงอยากให้กระทรวงศึกษากำหนดแนวทางปฏิบัติของกระทรวงให้ชัดเจน เรื่องที่เกิดขึ้นนี้มองว่าเป็นเรื่องของการสื่อสารระหว่างโรงเรียนกับกระทรวงศึกษาที่คลาดเคลื่อนไม่ชัดเจน ควรมีตัวอย่างให้ดูว่าภาพประมาณไหน เรื่องนี้ตนจะนำเข้าหารือในรัฐสภาต่อไปเพื่อจะได้มีความชัดเจนให้โรงเรียนนำไปปฏิบัติจะได้ไม่เกิดปัญหาอีกต่อไป