การท่องเที่ยวยะลา กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังหยุดนานร่วม 3 เดือนเพราะสถานการณ์โควิด-19 ขณะแหล่งท่องเที่ยว แบบธรรมชาติ เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวมากขึ้น หลังจากสถานการณ์โควิท-19 ได้เบาบางลง และ ศบค. ระบุ ปลอดคนติด เชื้อโควิด-19 ในประเทศครบ 30 วัน พร้อมออกมาตรการเข้มรองรับเฟส 5 เปิดผับบาร์ ในส่วนของการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดยะลา โดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาวและเตรียมรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาท่องเที่ยวในวันหยุดชดเชยวันสงกรานต์ในวันที่ 27 ก.ค. 63 ที่จะถึงนี้อีกด้วย ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดยะลา ว่า ประชาชนในจังหวัดยะลาและใกล้เคียงได้ใช้โอกาสนี้ เดินทางท่องเที่ยวพักผ่อน อีกทั้งภายหลังมาตรการควบคุมสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่ยาวนานเกือบ 3 เดือน ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมาก ที่วางแผนเดินทางมาเที่ยวจังหวัดยะลา ใช้ช่วงวันหยุด เดินทางมาเที่ยวชมธรรมชาติ ล่องแพ และพักผ่อนบนทะเลสาบเขื่อนบางลาง ลักษณะเขื่อนบางลาง กั้นแม่น้ำปัตตานีที่บริเวณบ้านบางลาง ตำบลเขื่อนบางลาง อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ห่างจากตัวอำเภอเมือง 58 กิโลเมตร ตัวเขื่อนเป็นเขื่อนหินถมแกนดินเหนียว มีความสูง 85 เมตร สันเขื่อนยาว 430 เมตร กว้าง 10 เมตร อ่างเก็บน้ำมีความจุ 1,420 ล้านลูกบาศก์เมตร พื้นที่รับน้ำเหนือเขื่อน 2,080 ตารางกิโลเมตร น้ำจากอ่างเก็บน้ำเขื่อนบางลางสามารถอำนวยประโยชน์ในด้านการชลประทานแก่พื้นที่เพาะปลูก ของจังหวัดยะลาและปัตตานีเป็นพื้นที่ 380,000 ไร่ซึ่งน้ำที่ปล่อยออกมาสามารถนำมาผลิตไฟฟ้าได้ เฉลี่ยปีละประมาณ 289 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง ช่วยส่งเสริมระบบไฟฟ้าในภาคใต้ให้มีความมั่นคงยิ่งขึ้น นับเป็นผลพลอยได้ที่มีคุณประโยชน์มหาศาลนอกจากนี้ อ่างเก็บน้ำเขื่อนบางลางยังช่วยบรรเทาอุทกภัยในบริเวณตอนล่าง ของลุ่มแม่น้ำปัตตานีที่เคยเกิดขึ้นเสมอได้เป็นอย่างดี รวมทั้งเป็นแหล่งประมงน้ำจืดที่สำคัญในภาคใต้ ที่ช่วยเสริมอาชีพและรายได้แก่ราษฎรที่อาศัยอยู่ใกล้เขื่อนและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดยะลาอีกด้วย สำหรับประชาชนในพื้นที่และต่างจังหวัด ได้เริ่มมาท่องเที่ยวมากขึ้น เพราะเป็นการท่องเที่ยวธรรมชาติ นั่งเรือล่องแพ ชมบรรยากาศระหว่างการล่องแพ สามารถชื่นชมทะเลสาบสีเขียวมรกตโดยมีป่าไม้ที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ และวิถีชีวิตของชาวบ้านริมทะเลสาบเขื่อนบางลาง ดื่มด่ำธรรมชาติที่สวยงามยามพระอาทิตย์ตกดิน ก่อนทานอาหารและนอนพักในแพ หลังตื่นนอนย่ำอรุณ ยามรุ่งเช้า จะได้เห็นหมอกที่ทอดยาวสุดหูสุดตา ทอดยาวสลับหุบเขา เป็นภาพที่สวยงามมาก คุณรัตนาวดี ปลื้มสำราญ ผู้ประกอบการ “แพชมเขื่อน” กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คิดว่าต้องปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าเดิมเช่นการดูแลความสะอาดหรือด้านความปลอดเกี่ยวกับด้านของโรคติดต่อโควิด-19 เพราะว่าการรับลูกค้าแต่ละทริปตอนนี้ก็ต้องเข้มงวดมากขึ้น เช่นก่อนขึ้นก็จะต้องดูแลเกี่ยวกับการล้างมือ ทำความสะอาดเกี่ยวกับหน้ากากอนามัย ก็ต้องเน้นเกี่ยวกับความสะอาด หลังจบการให้บริการในแต่ละทริป ก็ต้องดูแลแพหมายถึงการทำความสะอาดพื้นแพ ราวจับห้องน้ำ ห้องครัว “ตอนนี้มีลูกค้าที่โทร.จองเข้ามาเป็นจำนวนมาก เราก็ต้องสกรีนว่ามาจากที่ใดโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น ที่เราคิดว่าไม่สามารถจะควบคุมดูแลได้ ก็จะขอปฏิเสธ แต่ถ้าเป็นลูกค้ากลุ่มผู้ใหญ่สามารถพูดคุยได้ และรับได้กับมาตรการ ก็จะรับ ช่วงนี้มีลูกค้าเพิ่มเป็นจำนวนมาก ในขณะที่ผู้ประกอบการก็เพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกัน ก็อยากเชิญชวนนักท่องเที่ยว ที่ชื่นชอบการเที่ยวล่องแพ ชมธรรมชาติ พักผ่อนบนแพ ให้ลองมาเที่ยวที่นี่ ที่ผ่านมายังไม่เคยมีการปฏิเสธว่าที่นี่ไม่สวย ไม่งาม ไม่ดี ทุกคนที่มาแล้วล้วนแต่มีความประทับใจ แต่อยากจะฝากลูกค้าที่มาเที่ยวที่นี่ขอฝากในเรื่องความสะอาดในน้ำ ขยะ อย่าพยายามจนมาเพราะว่าจะดูแลความสะอาดนั้นยากเพราะสถานที่ใหญ่โตและกว้าง” คุณรัตนาวดี กล่าว นักท่องเที่ยวที่มีความประสงค์ จะเดินทางมาท่องเที่ยว ก็สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่คุณรัตนาวดี ปลื้มสำราญ ผู้ประกอบการแพชมเขื่อน ที่หมายเลขโทรศัพท์ 081-599-0211 / 064-4285708