"ศบค." เผยไทยพบผู้ป่วยโควิด-19รายใหม่ 5 ราย เดินทางกลับจาก "อินเดีย-คูเวต-สหรัฐ-ญี่ปุ่น" ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ด้าน "ลอนดอน" ผวาโควิดฯ หวนแผลงฤทธิ์หนักอีกระลอก หลังนักเที่ยวแห่เข้าผับ-บาร์ถึงเช้า ขณะที่ สถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสร้ายยังลุกลามไม่หยุด ยอดตายป่วยยังทะยานพุ่งอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 5 ก.ค.63 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค.รายงานสถานการณ์ผู้ติดติดเชื้อไวรัสโควิด-19ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5 ราย ซึ่งเดินทางกลับจากประเทศ อินเดีย 1 ราย คูเวต 2 ราย สหรัฐฯ 1 ราย และญี่ปุ่น 1 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 3,190 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต รวมยอดผู้เสียชีวิตยังคงเดิมที่ 58 ราย หายป่วยเพิ่มอีก 5 ราย รวมยอดผู้ป่วยรักษาหาย 3,071 รายและยังคงรักษาตัวอยู่ในโรง พยาบาล 61 ราย ทั้งนี้ ประเทศไทยไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศต่อเนื่องเป็นวันที่ 41 แล้ว สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5 ราย รายแรกเดินทางกลับจากประเทศอินเดีย เป็นหญิงไทยอายุ 41 ปี อาชีพพนัก งานนวด รายที่ 2 และ 3 เดินทางกลับจากประเทศคูเวต เป็นชายไทย อายุ 42 และ 57 ปี อาชีพรับจ้าง รายที่ 4 กลับจากประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นหญิงไทย อายุ 17 ปี เป็นนักศึกษา และ รายที่ 5 เดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่น เป็นชายไทยอายุ 38 ปี อาชีพพนักงานบริษัท สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประเทศอังกฤษเริ่มเปิดให้บริการผับ บาร์ ตลอดจนสถานบันเทิงต่างๆ ทั่วประเทศอีกครั้ง เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น เป็นวันแรก ภายหลังจากปิดให้บริการไปตามมาตรการล็อกดาวน์ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตลอดช่วง 3 เดือนเป็นต้นมา โดยบรรดานักท่องเที่ยวยามราตรีต่างพากันเดินทางใช้บริการกันอย่างเนืองแน่น จนล้นทะลักจากสถานบันเทิงต่างๆ โดยบางร้านได้เปิดถึงเช้า ซึ่งทำให้หัวหน้าตำรวจกรุงลอนดอน แสดงความวิตกกังวลว่า อาจทำให้สถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 อาจหวนกลับมาแพร่ระบาดอย่างหนักในอังกฤษอีกครั้ง พร้อมกันนี้ ทางการอังกฤษ ยังได้มีคำเตือนไปยังโรงพยาบาลต่างๆ เตรียมความพร้อมรับมือสำหรับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดฯ ที่อาจหวนมาระบาดรอบใหม่เอาไว้อีกด้วย สำหรับ ปัจจุบันอังกฤษ มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมจำนวนกว่า 3 แสนราย ผู้ป่วยเสียชีวิตจำนวนมากกว่า 4.4 หมื่นราย ซึ่งเป็นสถานการณ์แพร่ระบาดที่รุนแรงที่สุดในภูมิภาคยุโรป ขณะที่ สถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องทั่วโลก ส่งผลให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นจำนวน 11,386,554 ราย ผู้ป่วยที่เสียชีวิตมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 533,581 ราย และผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจนหายมีจำนวนสะสม 6,445,057 ราย โดยประเทศสหรัฐอเมริกา มีผู้ป่วยสะสมสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 2,935,770 ราย และมีผู้ป่วยเสียชีวิตสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 132,318 ราย