ตัวแทนครูครึ่งร้อยที่ล้วนเป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิจิตรจาก 12 อำเภอ ที่เป็นลูกหนี้ของสหกรณ์ฯ ต่างรวมตัวกันชูป้ายเรียกร้องถามหาความโปร่งใสในเรื่องบริษัทรับประกันภัยชีวิตเพื่อเป็นหลักประกันสินเชื่อ ที่มติของผู้บริหารสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิจิตร เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาครั้งแรกให้จ่ายเบี้ยประกัน 26,775 บาท ครูลูกหนี้พร้อมใจยอมจ่ายคิดว่าจบ แต่ต่อมาสั่งเปลี่ยนให้จ่าย 69,750 บาท ต้องหาเงินจ่ายเพิ่ม 42,975 บาท จึงเป็นที่มาของการร้องทุกข์ถามหาความโปร่งใส ด้านผู้บริหารสหกรณ์ชี้แจงได้ทำหนังสือชี้แจงยังสมาชิกแล้วแต่มีบางกลุ่มทำตัวไม่เข้าใจ
วันที่ 4 ก.ค. 2563 นายเปรมศักดิ์ คงเมือง อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/174 ถนนศรีมาลา อ.เมือง จ.พิจิตร ซึ่งเป็นตัวแทนของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิจิตร ที่มีจำนวนกว่า 2,400 คนได้พาแกนนำตัวแทนสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิจิตร จาก 12 อำเภอ รวมประมาณ 60 คน ได้พากันไปเพื่อขอยื่นหนังสือร้องทุกข์กับ นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ต.คลองคะเชนทร์ และยังได้เดินทางไปยื่นหนังสือให้กับ นายพรชัย อินทร์สุข สส.พปชร.พิจิตร เขต 1 ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.คลองคะเชนทร์ อ.เมืองพิจิตร โดยมีตัวแทนของทั้ง 2 ท่านมารับหนังสือดังกล่าว
โดยสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิจิตรกลุ่มนี้ได้ชี้แจงเหตุผลที่ต้องมาร้องทุกข์ว่าครูพิจิตรเป็นสมาชิกและได้กู้ยืมเงินจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูรวมประมาณ 2,400 คนเศษ ได้รับความเดือดร้อนเรื่องการทำประกันสินเชื่อตามโครงการกู้เงินโดยประกันชีวิตเป็นหลักประกัน ที่ครั้งแรกมติของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิจิตรให้จ่ายเบี้ยประกัน 26,775 บาท ต่อคน ต่อ 3 ปี ทุนประกัน 1.5 ล้านบาท ซึ่งสมาชิกฯ รับได้และยินยอมจ่าย ก่อนที่กรมธรรม์จะหมดความคุ้มครอง แต่ต่อมาผู้บริหารสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิจิตร ก็ทำหนังสือแจ้งขอเปลี่ยนแปลงบริษัทที่จะมาเป็นผู้รับทำประกันและขอให้ต้องจ่ายเบี้ยในการซื้อประกัน 69,750 บาท ซึ่งต้องจ่ายแพงกว่าเดิมถึง 42,975 บาท จึงทำให้บรรดาครูผู้ที่เป็นลูกหนี้ของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิจิตร ต่างได้รับความเดือดร้อนและสงสัยว่าการบริหารงานดังกล่าวไม่โปร่งใส ซึ่งก็ได้ทำหนังสือคัดค้าน ร้องทุกข์ ร้องเรียน ไปยังหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบเมื่อความทุกข์อัดอั้นแน่นอกจึงได้รวมตัวกันมาชูป้ายร้องทุกข์ผ่านผู้แทนราษฎรเผื่อหวังว่าจะได้รับการแก้ไขเยียวยาต่อไป
ในส่วนของผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิจิตรเพื่อจะขอพบ นายมานิตย์ พรหมอยู่ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิจิตร แต่ได้พบกับ นายอุกฤษฏ์ จันทฤก ผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิจิตร ที่ให้สัมภาษณ์แค่เพียงว่า สหกรณ์ฯได้ทำหนังสือลงวันที่ 24 มิถุนายน 2563 ชี้แจงถึงเรื่องการจัดทำประกันสินเชื่อตามโครงการกู้เงินโดยประกันชีวิตเป็นหลักประกัน ซึ่งได้ส่งหลักการและเหตุผลอย่างครบถ้วน ซึ่งก็มีสมาชิกส่วนใหญ่เข้าใจเหตุผลแล้ว ส่วนการชี้แจงอย่างเป็นทางการขอนัดวันอังคารที่ 7 กรกฎาคม 2563 จะให้ นายมานิตย์ พรหมอยู่ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิจิตร ชี้แจงกับผู้สื่อข่าวอย่างเป็นทางครั้งอีกครั้ง แต่ยืนยันว่าทุกอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้
วันที่ 4 ก.ค. 2563 นายเปรมศักดิ์ คงเมือง อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/174 ถนนศรีมาลา อ.เมือง จ.พิจิตร ซึ่งเป็นตัวแทนของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิจิตร ที่มีจำนวนกว่า 2,400 คนได้พาแกนนำตัวแทนสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิจิตร จาก 12 อำเภอ รวมประมาณ 60 คน ได้พากันไปเพื่อขอยื่นหนังสือร้องทุกข์กับ นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ต.คลองคะเชนทร์ และยังได้เดินทางไปยื่นหนังสือให้กับ นายพรชัย อินทร์สุข สส.พปชร.พิจิตร เขต 1 ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.คลองคะเชนทร์ อ.เมืองพิจิตร โดยมีตัวแทนของทั้ง 2 ท่านมารับหนังสือดังกล่าว
โดยสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิจิตรกลุ่มนี้ได้ชี้แจงเหตุผลที่ต้องมาร้องทุกข์ว่าครูพิจิตรเป็นสมาชิกและได้กู้ยืมเงินจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูรวมประมาณ 2,400 คนเศษ ได้รับความเดือดร้อนเรื่องการทำประกันสินเชื่อตามโครงการกู้เงินโดยประกันชีวิตเป็นหลักประกัน ที่ครั้งแรกมติของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิจิตรให้จ่ายเบี้ยประกัน 26,775 บาท ต่อคน ต่อ 3 ปี ทุนประกัน 1.5 ล้านบาท ซึ่งสมาชิกฯ รับได้และยินยอมจ่าย ก่อนที่กรมธรรม์จะหมดความคุ้มครอง แต่ต่อมาผู้บริหารสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิจิตร ก็ทำหนังสือแจ้งขอเปลี่ยนแปลงบริษัทที่จะมาเป็นผู้รับทำประกันและขอให้ต้องจ่ายเบี้ยในการซื้อประกัน 69,750 บาท ซึ่งต้องจ่ายแพงกว่าเดิมถึง 42,975 บาท จึงทำให้บรรดาครูผู้ที่เป็นลูกหนี้ของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิจิตร ต่างได้รับความเดือดร้อนและสงสัยว่าการบริหารงานดังกล่าวไม่โปร่งใส ซึ่งก็ได้ทำหนังสือคัดค้าน ร้องทุกข์ ร้องเรียน ไปยังหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบเมื่อความทุกข์อัดอั้นแน่นอกจึงได้รวมตัวกันมาชูป้ายร้องทุกข์ผ่านผู้แทนราษฎรเผื่อหวังว่าจะได้รับการแก้ไขเยียวยาต่อไป
ในส่วนของผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิจิตรเพื่อจะขอพบ นายมานิตย์ พรหมอยู่ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิจิตร แต่ได้พบกับ นายอุกฤษฏ์ จันทฤก ผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิจิตร ที่ให้สัมภาษณ์แค่เพียงว่า สหกรณ์ฯได้ทำหนังสือลงวันที่ 24 มิถุนายน 2563 ชี้แจงถึงเรื่องการจัดทำประกันสินเชื่อตามโครงการกู้เงินโดยประกันชีวิตเป็นหลักประกัน ซึ่งได้ส่งหลักการและเหตุผลอย่างครบถ้วน ซึ่งก็มีสมาชิกส่วนใหญ่เข้าใจเหตุผลแล้ว ส่วนการชี้แจงอย่างเป็นทางการขอนัดวันอังคารที่ 7 กรกฎาคม 2563 จะให้ นายมานิตย์ พรหมอยู่ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิจิตร ชี้แจงกับผู้สื่อข่าวอย่างเป็นทางครั้งอีกครั้ง แต่ยืนยันว่าทุกอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้